วันนี้ (29 ก.ค.61) การเลือกตั้งของกัมพูชาปิดหีบเลือกตั้งตั้งแต่เวลา 15.00 น. ซึ่งการเลือกตั้งที่หลายฝ่ายบอกว่าไม่เป็นธรรมตั้งแต่แรกเริ่ม เนื่องจากฝ่ายค้านหลักอย่าง CNRP ที่เกือบเอาชนะพรรค CPP ของสมเด็จ ฮุนเซนได้ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ถูกยุบไปและสมาชิกพรรคทั้งหมดถูกห้ามเล่นการเมือง โดยเป็นการเลือกตั้งครั้งที่ 6 นับตั้งแต่สิ้นสุดยุครัฐบาลเขมรแดง โดยมีผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนถึง 8.3 ล้านคนจากประชากรทั้งหมด 16 ล้านคน เลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ทั้ง 125 ที่นั่ง
ผ่านไปแล้วเกือบ 3 ชั่วโมงสำหรับการนับคะแนน ยังไม่มีอุปสรรคใดๆที่มีนัยสำคัญ คาดว่าในคืนนี้น่าจะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการ
ทั้งนี้จากการติดตามดูบรรยากาศการเลือกตั้งของหลายหน่วยในกรุงพนมเปญ คนออกไปใช้สิทธิ์กันมากในช่วงเช้า รวมถึงสมเด็จฮุนเซนที่เดินทางมาใช้สิทธิ์ที่หน่วยเลือกตั้งในจังหวัดกันดารตั้งแต่ 07.30 น. ซึ่งเป็นการเลือกตั้งที่คาดเดาไม่ยาก ถึงแม้ผลอย่างเป็นทางการจะยังไม่ออกมา เพราะถึงแม้จะมีพรรคการเมืองลงชิงชัย 20 พรรค แต่ก็มีพรรคใหญ่พรรคเดียว คือ พรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ของสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันซึ่งอยู่ในอำนาจมาแล้ว 33 ปี
ขณะที่พรรค CNRP พรรคฝ่ายค้านที่เคยขับเคี่ยวกับพรรครัฐบาลอย่าหนักจนชิงเก้าอี้ในสภาได้ถึงร้อยละ 44 ถูกประกาศยุบไปเมื่อปลายปีที่แล้วตามคำสั่งของศาลฎีกา หัวหน้าพรรคถูกดำเนินคดีในข้อหาเป็นกบฏ ส่วนนายสม รังสี ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค คู่ปรับทางการเมืองคนสำคัญของสมเด็จฮุน เซน ลี้ภัยอยู่ในฝรั่งเศส
ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้ประเด็นจึงไม่ได้อยู่ที่ใครจะชนะ แต่อยู่ที่ว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์จะมากหรือน้อยกว่าร้อยละ 68.5 ซึ่งเป็นจำนวนคนที่มาเลือกตั้งคราวที่แล้ว เพราะสิ่งนี้ คือ สิ่งเดียวที่จะวัดคะแนนนิยมของฮุนเซนได้ในวันที่ไม่มีฝ่ายค้านที่สูสี
การที่ไม่มีพรรคฝ่ายค้านอย่าง CNRP ลงแข่งทำให้ตอนแรกคาดการณ์กันว่า จำนวนผู้มาใช้สิทธิ์จะน้อย ซึ่งโฆษกคณะกรรมการการเลือกตั้งของกัมพูชาให้สัมภาษณ์เมื่อเช้าว่า จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งคาดว่าจะอยู่ที่ 60% ลดลงจากการเลือกตั้งคราวที่แล้ว
สาเหตุที่คนอาจจะออกมาใช้สิทธิน้อยลง ส่วนหนึ่งเกิดจากการรณรงค์ให้บอยคอตต์การเลือกตั้งของแกนนำฝ่ายค้านที่ลี้ภัยการเมืองอยู่
แต่ล่าสุดมีข้อมูลจากคณะกรรมการการเลือกตั้งออกมาเมื่อตอนบ่ายสามว่าคนออกมาใช้สิทธิ์มีมากกว่าร้อยละ 70 แล้วซึ่งมากกว่าการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว
สำหรับคนที่ไปใช้สิทธิ์แล้ว ทุกคนจะจุ่มนิ้วในหมึกติดทน เป็นวิธีการที่ กกต. บอกว่า ป้องการการใช้สิทธิ์ซ้ำ แต่ฝ่ายค้านบอกว่า เป็นเครื่องมือจัดการคนที่ไม่ออกไปใช้เสียงหรือบอยคอตต์การเลือกตั้งมากกว่า
การเลือกตั้งในวันนี้เห็นผู้สังเกตการณ์ต่างชาติที่เดินทางดูตามคูหาต่างๆ ด้วย ประเด็นผู้สังเกตการณ์ก็เป็นประเด็นน่าสนใจเพราะสหรัฐฯและสหภาพยุโรป แสดงท่าทีมาตลอดว่าจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยวิจารณ์ว่าสมเด็จ ฮุน เซน กำลังแปรสภาพกัมพูชาให้อยู่ภายใต้การครอบงำของพรรคการเมืองเดียวและตัดสินใจไม่สนับสนุนงบประมาณให้ กกต. และไม่ส่งคณะผู้สังเกตการณ์ลงพื้นที่ เช่นเดียวกับประเทศญี่ปุ่นและออสเตรเลียด้วย ผู้สังเกตุการณ์ที่เราเห็นจำนวนมาก จึงมาจากประเทศจีน ซึ่งประกาศสนับสนุนและบอกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเรื่องภายในของกัมพูชา
การเลือกตั้งครั้งนี้ ทาง กกต. ได้นำระบบคอมพิวเตอร์มาใช้ในการออกบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเป็นครั้งแรก แตกต่างจากการเลือกตั้งครั้งก่อนๆที่เจ้าหน้าที่ต้องใช้วิธีเขียนด้วยมือ ทำให้มีประชาชนที่คาดว่าชื่ออาจตกหล่นไปจากการเลือกตั้งครั้งก่อนๆ เพิ่มขึ้นมากกว่า 5 แสนคน
การเลือกตั้งครั้งนี้เสมือนเป็น "การลงประชามติ" ของชาวกัมพูชาที่มีต่อสมเด็จฮุน เซน ถึงแม้ว่าจำนวนคนจะออกมาใช้สิทธิ์มากกว่าคราวที่แล้ว แต่ต้องดูรายละเอียดเพราะคนที่ออกมายังมีสิทธิ์ที่จะ ไม่กาหรือลงคะแนนให้ ฮุน เซน ผลอย่างไม่เป็นทางการคาดว่าทราบประมาณ 21.00 น.