เมื่อวันที่ (29 ก.ค. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ต้องหาคนนี้คือนาย Momade Assif Abdul SATAR สัญชาติโมซัมบิก เป็นหัวหน้าองค์กรอาชญากรรม ที่มีพฤติกรรมลักพาตัวนักธุรกิจในประเทศโมซัมบิกและอีกหลายประเทศในแอฟริกาเพื่อนำตัวไปเรียกค่าไถ่ถึงกว่า 50 ครั้ง โดยนักธุรกิจที่ตกเป็นเหยื่อมีทั้งนักธุรกิจท้องถิ่นและนักธุรกิจต่างชาติที่เข้าไปลงทุนในพื้นที่ ซึ่งแต่ละครั้งจะยื่นข้อเรียกร้องเป็นเงินค่าไถ่ตัวประมาณ 100 ล้านบาท หากไม่ได้รับเงิน ก็จะฆ่าเหยื่อ โดยมีนักธุรกิจถูกฆากรรมไปแล้ว 2 คน
นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมอุกอาจ คือ การลอบฆ่าเจ้าหน้าที่รัฐของโมซัมบิกและครอบครัว ที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนเอาผิดองค์กรนี้อีกหลายราย โดยเหตุการณ์การณ์ที่สะเทือนขวัญและสร้างความหวาดกลัวที่สุด คือ การฆ่าอัยการที่สั่งฟ้องคดีขององค์กรนี้ โดยทำการยิงศีรษะถึง 16 นัด
ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลที่วันนี้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว นำมาแถลงข่าว หลังควบคุมตัวผู้ต้องหาคนนี้ได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านสุขุมวิท
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า อาชญกรชาวโมซัมบิกคนนี้ เป็นผู้ต้องหาตามหมายแดงของอินเตอร์โพล ที่ประเทศโมซัมบิกประสานไปยัง FBI ทั่วโลกให้ช่วยติดตามตัว กระทั่งตำรวจไทยสืบทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้ได้ใช้เทคนิคบางอย่างเพื่อหลบหนีเข้ามากบดานในประเทศไทยกว่า 3ปีแล้ว ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม โดยขอตรวจสอบหนังสือเดินทางและเปรียบเทียบรายนิ้วมือ ก็พบว่า ตรงกับบุคคลที่ทางการโมซิมบิกต้องการ โดยระหว่างจับกุม ผู้ต้องหารายนี้ยังมีพฤติกรรมต่อรองโดยการเสนอเงินติดสินบนให้ตำรวจไทยด้วย
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ระบุว่า จะขึ้นบัญชีแบล็กลิสผู้ต้องหารายนี้ถาวรไม่ให้เดินทางกลับเข้ามาประเทศไทย โดยจะส่งตัวกลับโมซัมบิกภายในสัปดาห์หน้า โดยการแถลงข่าววันนี้ ไม่ขอนำตัวผู้ต้องหามาแถลงเพราะถือเป็นเงื่อนไขของความมั่นคงระหว่างประเทศ