วันนี้ (31 ก.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ประสบภัยที่อยู่ศูนย์พักพิงส่วนใหญ่บ้านพังเสียทั้งหมด และยังไม่สามารถกลับเข้าบ้านของตัวเองได้ทั้งหมด โดยเฉพาะหมู่บ้านที่อยู่ติดกับท้ายเขื่อน เนื่องจากมีทางเข้าออกเส้นทางเดียว และบางจุดต้องเดินทางด้วยเรือเท่านั้น โดยเริ่มต้นจากเมืองสนามชัย เข้าพืนที่ผู้ประสบภัย ซึ่งต้องขึ้นรถยกสูง 4 ล้อเข้าไปยังพื้นที่ ๆ ได้รับผลกระทบ เป็นระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เนื่องจากสภาพถนนบางช่วงเป็นโคลนและน้ำท่วม ซึ่งครั้งแรกที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ระดับน้ำบางจุดสูงเท่าหัวเข่ และบางจุดสูงประมาณสะโพก ส่วนระยะทางการเดินเท้า 2-3 กิโลเมตร เพื่อเข้าไปพื้นที่หมู่บ้าน บ้านใหม่ หนึ่งใน 6 หมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่ขณะนี้ หมู่บ้านบ้านใหม่ สามารถนำรถเข้าไปได้ และเป็นจุดที่กองทัพประชาชนลาวตั้งศูนย์บัญชาการชั่วคราว
สำหรับพื้นที่บ้านใหม่ อยู่ในช่วงโค้งน้ำ ของแม่น้ำเซเปี่ยน ทำให้ความเร็วและปริมาณน้ำจำนวนมากพัดบ้านเรือนประชาชน คาดว่าจะมีผู้สูญหายถึง 100 คน แล้วมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ขณะที่หมู่ท่าแสงจันทร์ หมู่บ้านหินลาด ซึ่งเป็นหมู่บ้านแรกที่รับน้ำ จะต้องเดินทางโดยเรือเท่านั้น ขึ้นไปทางแม่น้ำเซเปียนย้อนขึ้นไปท้ายเขื่อน โดยใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที ซึ่งผู้ประสบภัยต่างเลือกมาที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว และสามารถอยู่ได้ถึงเดือนกันยายน เพราะมีเปิดภาคเรียน ทำให้มีการลงพื้นที่สำรวจทำบ้านกึ่งถาวรอยู่รวมกัน โดยหาพื้นที่ว่างตามหมู่บ้านต่าง ๆ เพื่อรอการฟื้นฟู ส่วนที่ศูนย์พักพิงก็จะมีแพทย์ประจำจุดคอยดูแล
ขณะเดียวกันด้านการสาธารณสุข โดยแพทย์ไทย-ลาว มีการวางแผนหลังน้ำลดดูแลเรื่องของสาธารณสุข ซึ่งเน้นในเรื่องของการฉีดวัคซีน สุขาภิบาล และอนามัยสิ่งแวดล้อม ที่มีทีมแพทย์รวมถึงทีมสาธารณสุขไทยมาร่วมวางแผน โดยไทยได้เสนอภาวะสิ่งแวดล้อมวิกฤต ที่เน้นเรื่อง ขยะ น้ำ ห้องน้ำ และอาหาร เสนอให้กับทางการลาว โดยได้รับความเห็นพ้อง และหลังจากได้ไปดูในพื้นที่ ก็พบว่าเรื่องอนามัยสิ่งแวดล้อมมีเพิ่มขึ้นมา ในเรื่องของน้ำเสีย ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดการพร้อมทั้งให้ความรู้กับประชาชน และผู้ประสบภัย