อิทธิพลของคลื่นความร้อนยังทำให้อุณหภูมิในประเทศทางตอนใต้ของยุโรปพุ่งทะลุ 40 องศาเซลเซียสอย่างต่อเนื่อง โดยที่โปรตุเกส อุณหภูมิเฉลี่ยขณะนี้ยังอยู่ที่ประมาณ 46 องศาเซลเซียส ใกล้กับสถิติสูงสุดเดิมของประเทศ ซึ่งอยู่ที่ 47.4 องศาเซลเซียส ทางการต้องส่งข้อความแจ้งเตือนภัยทางโทรศัพท์ เพื่อให้ประชาชนเฝ้าระวังคลื่นความร้อนและไฟป่า หวังช่วยลดความสูญเสีย ที่แถบอัลการ์ฟ (Algarve) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมทางตอนใต้ของประเทศ ล่าสุด มีรายงานว่าเปลวไฟเผาวอด กินพื้นที่ป่ายูคาลิปตัสและพุ่มไม้เตี้ยๆในพื้นที่ไปแล้วกว่า 6 พันไร่ ทางการต้องใช้เครื่องบินดับไฟกว่า 10 ลำ เข้าสนับสนุนภารกิจดับไฟป่า พร้อมสั่งอพยพชุมชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง
ขณะเดียวกัน ที่ประเทศสเปน ก็ยังเผชิญกับคลื่นความร้อน อุณหภูมิในเมืองกอร์โดบา ทางตอนใต้ของประเทศ สูงกว่า 44 องศาเซลเซียส และทั่วประเทศ มีรายงานประชาชนเสียชีวิตจากคลื่นความร้อนแล้วอย่างน้อย 3 คน นอกจากนี้ ยังเกิดไฟป่าหลายจุด ใกล้กับกรุงมาดริด เมืองหลวงของประเทศด้วย
ส่วนสถานการณ์คลื่นความร้อนในประเทศอื่นๆ อาทิ ฝรั่งเศส ล่าสุด ทางการต้องสั่งอพยพคนงานและปิดโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์อย่างน้อย 4 แห่ง เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัด ที่เนเธอร์แลนด์ มีรายงานว่าอากาศร้อนจนพื้นถนนราดยางมะตอยละลาย ส่วนที่สวีเดน อากาศร้อนทุบสถิติในรอบ 250 ปี จนทำให้ธารน้ำแข็งบนยอดเขาที่สูงที่สุดของประเทศ ละลายในอัตราที่รวดเร็วกว่าปกติ ล่าสุด มีรายงานว่าอุณหภูมิในหลายพื้นที่เริ่มลดลง และเริ่มมีฝนตกบ้างแล้ว