วันนี้ (6 ส.ค.61) นายณรงค์ฤทธิ์ กาละพุฒ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจสนับสนุนโรงพยาบาล 7.1 บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมบริการด้านสุขภาพของประเทศไทยยังแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากนโยบายของภาครัฐที่ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบริการด้านการแพทย์ หรือ เมดิเคิล ฮับ ประกอบกับประชากรโลกเข้าสู่ช่วงสูงวัย และชาวต่างชาตินิยมเดินทางเข้ามารับการรักษาหรือท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในไทย ทำให้โรงพยาบาลหลายแห่งทั้งภาครัฐและเอกชนมีการขยายตัว และมีความต้องการผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเข้ามาดูแลรองรับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น
ในช่วงครึ่งปีแรกในกลุ่มธุรกิจสนับสนุนโรงพยาบาลของบริษัท ทั้ง บริษัทเนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเท็มส์ จำกัด หรือ เอ็นเฮลท์ ผู้ให้บริการด้านการสนับสนุนบริการทางการแพทย์และธุรกิจโรงพยาบาล และ บริษัท เซฟดรัก เซ็นเตอร์ จำกัด ร้านขายยาและเวชภัณฑ์ ขยายตัวได้ตามเป้าหมาย ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง โดย เอ็นเฮลท์ ตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2561 ที่ 4,200 ล้านบาท เติบโตขึ้นราว 17% จากปี 2560 ขณะที่บริษัท เซฟดรัก ที่ปัจจุบันมี 150 สาขา ทั้งในและต่างประเทศ ตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2561 ที่ 1,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มีรายได้ 975 ล้านบาท
นายณรงค์ฤทธิ์ ระบุว่า ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทเตรียมเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการรองรับการให้บริการที่คลอบคุลมมากขึ้น ทั้งการนำระบบดิจิตอลมาใช้มากขึ้น รวมทั้งขยายบริการไปสู่ลูกค้าที่เป็นผู้บริโภคผ่านช่องทางอี-คอมเมิร์ซ ซึ่งมีบริการตรวจสุขภาพที่สามารถไปตรวจถึงที่บ้าน และมีสินค้าเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ พร้อมนำเข้าสินค้าที่มีความแตกต่างอย่างสินค้านวัตกรรมอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับตลาด นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างศึกษากฎระเบียบในการลงทุนเพื่อขยายสาขาไปยังประเทศต่างๆในภูมิภาค อาทิ ประเทศอินโดนิเซีย ฟิลิปปินส์ และ สิงคโปร์ หลังจากได้เปิดสาขาไปยัง ประเทศ กัมพูชา และ เมียนมา เรียบร้อยแล้ว