หลังตำรวจกองปราบปรามจับกุม “บูม จิรัชพิสิษฐ์” ดาราวัยรุ่น หนึ่งในสามผู้ต้องหาร่วมกันฟอกเงินขบวนการตุ๋นเงินสกุลดิจิทัลกว่า 797 ล้านบาท ปปง.สั่งอายัดบัญชีและที่ดินของผู้ต้องหา พร้อมขยายผลรวบรวมหลักฐานเตรียมแจ้งข้อหาฉ้อโกง กับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มอีก 5-6 คน
วันนี้ (11 ส.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีตำรวจกองบังคับการปราบปรามจับกุม นายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต หรือ บูม นักแสดงวัยรุ่นซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันฟอกเงิน หลังถูกผู้เสียหายชาวต่างชาติเข้าแจ้งความดำเนินคดีนายจิรัชพิสิษฐ์พร้อมพี่ชายและพี่สาว ฐานหลอกลวงให้ร่วมลงทุนเงินสกุลดิจิทัล ทำให้เสียหายเป็นมูลค่ากว่า 797 ล้านบาท
อ่านข่าว : รู้จัก “บูม จิรัชพิสิษฐ์” ก่อนถูกจับคดีฟอกเงิน
พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รองผู้บังคับการปราบปราม ได้รายงานความผิด ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ไปยังเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อให้อายัดบัญชีเงินฝากทุกธนาคารของผู้ต้องหาทั้งหมด รวมทั้งผู้ใกล้ชิดที่อยู่ในครอบครัวจารวิจิต ล่าสุด ปปง.แจ้งกลับมาว่าได้อายัดบัญชีเงินฝากของผู้ต้องหาและผู้เกี่ยวข้องไว้แล้ว 51 บัญชี นอกจากนี้ ปปง.มีคำสั่งอายัดที่ดินทั้งหมด 15 แปลง มูลค่ารวมประมาณ 176 ล้านบาท และกำลังจะตรวจสอบทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้ต้องหาและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการถ่ายเททรัพย์สินหรือของกลางต่อไปที่อื่น
ส่วนบริษัท 3 แห่งที่ถูกแอบอ้างนั้นมีการเปิดกิจการทั้งในประเทศไทยและฮ่องกง ตรวจสอบทะเบียนการค้าทั้งสามบริษัท พบว่า มีเครือญาติผู้ต้องหาเข้าร่วม และบางบริษัทที่มีการแอบอ้างกับผู้เสียหายนั้น ไม่มีตัวตนจริง นอกจากนี้ยังมีบริษัทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายดังกล่าวอีกหลายบริษัท ซึ่งตำรวจกองปราบปรามอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน
สำหรับคดียังมีผู้ต้องหาอีก 2 คน คือ นายปริญญา จารวิจิต และน.ส.สุพิชย์ฌา จารวิจิต พี่ชายและพี่สาวของนายจิรัชพิสิษฐ์ โดยนายปริญญามีข้อมูลว่าอยู่ต่างประเทศ แต่ น.ส.สุพิชย์ฌา ได้ให้คนกลางติดต่อขอมอบตัวแล้วแต่ยังไม่ระบุวัน ซึ่งกองปราบปรามกำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี นอกจากนี้ยังมีข้อมูลอีกว่าตำรวจกองปราบปรามกำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก 5-6 คน
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >>> //www.pptvhd36.com/special/ข่าววันนี้