สนามการเมืองก่อนที่จะเลือกตั้งในเดือน ก.พ. 2562 คอการเมืองต่างจับจ้องไปที่พรรคน้องใหม่ อย่างพรรคอนาคตใหม่ และ พรรคพลังประชารัฐ เพราะทั้ง 2 พรรคนี้ สมาชิกพรรคมาจะจากตระกูลเดียวกันแต่แนวคิดคนละขั้วการเมือง อย่าง “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กับ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” แกนนำกลุ่มสามมิตร ที่สนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ
ทีมข่าว “นิวมีเดีย” สัมภาษณ์เปิดใจ “ธนาธร” ถึงความสัมพันธ์กับ นายสุริยะ พร้อมแนวคิดการลงสู่สนามการเมือง และเรื่องถอนทหารในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เขาเคยมีแนวคิดมาก่อนหน้านี้
ความสัมพันธ์ ระหว่างคุณธนาธร กับ คุณสุริยะ เป็นอย่างไรเพราะอยู่คนละพรรค
ผมกับคุณสุริยะเป็นอาหลานกัน ผมนับถือคุณสุริยะเป็นคุณอา แต่ในข้อเท็จจริงแล้วผมกับคุณอาไม่ค่อยจะสนิทกันมากนัก 1ปีเราเจอกันประมาณ 1-2 ครั้ง ตามงานประเพณีของครอบครัว นอกจากนั้นเราก็ไม่ได้มีการคุยอย่างความสัมพันธ์ต่อเนื่อง
“ดังนั้นการตัดสินใจของคุณอา การตัดสินใจของสมาชิกในครอบครัว ก็เป็นเรื่องแต่ละบุคคล การที่ผมตัดสินใจมาทำพรรคการเมืองก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคุณสุริยะ แต่อย่างไร”
ทำไมถึงคิดที่จะลงเล่นการเมืองและตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา
พรรคอนาคตใหม่ คือการรวมตัวกันของกลุ่มที่ไม่ยอมจำนนต่อสภาพสังคม เราเห็นประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำอย่างมหาศาล เห็นประเทศไทย มีความขัดแย้งมากมาย ในห้วง 10กว่าปีที่ผ่านมา และเห็นการรัฐประหารกว่า 10ครั้ง พรรคอนาคตใหม่จึงอยากเป็นส่วนที่สร้างสรรค์ในการร่วมแสวงหาทางออกให้กับประเทศไทย เพื่อนำไปสู่ทางออกของระบอบประชาธิปไตย และเคารพเชิดชูสิทธิมนุษยชน
หลักการใดที่จะสามารถบอกได้ว่านี่คือพรรคอนาคตใหม่
หลักการของพรรคอนาคตใหม่คือ 1. ไม่เอาการสืบทอดของคสช.ทุกรูปแบบ 2.แก้ไขรัฐธรรมนูญปี60ทั้งฉบับ 3.ล้มล้างผลพวงรัฐประหาร นี่คือ 3ข้อที่เรายืนยัน เราจะไม่ประนีประณอม 3ข้อนี้ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง เราจะขีดเส้นนี้ให้ชัดใครจะเดินก้าวข้ามไปไม่ได้
พรรคอนาคตใหม่ เป็นพรรคที่ตั้งขึ้นมาใหม่ยังไม่มีฐานเสียงเป็นของตัวเองจะมีกลยุทธอย่างไรในการสร้างฐานเสียงในพื้นที่ต่างจังหวัด
ในวันที่เปิดรับสมัครสมาชิกพรรค ผมเจอคนที่เดินทางมาจากจ.แพร่ ระยอง นครนายก ปัตตานี ขอนแก่น หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้ทำงานแค่ออนไลน์อย่างเดียว เรามีทีมระดับปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่ของพรรคซึ่งทำงานในพื้นที่ทุกจังหวัดแล้ว จังหวัดที่เล็กเรามีคณะกรรมการประมาณ 10 คน โดยคณะกรรมการส่วนใหญ่ก็เป็นอาสาสมัคร ผมคิดว่าเรากำลังสร้างการเคลื่อนไหวใหม่ให้กับประชาชนที่จะนำประเทศไทยกลับมาเป็นประชาธิปไตยได้
จะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งส.ส.ทุกเขตหรือไม่
เราจะส่งผู้สมัครลงทุก 350เขตแน่นอน
คาดหวังจะได้ ส.ส.กี่ที่นั่ง
เราไม่ได้คาดหวัง เรื่องคะแนนเสียงเราไม่ได้สนใจเป็นอันดับ 1 แต่เราสนใจเรื่องปากท้อง ถ้าเราสร้างฐานอุดมการณ์ให้ไกล เสียงก็จะมาเอง
หลังจากนี้จะมีการลงพื้นที่ต่างหวัดหรือไม่
กลางเดือนต.ค.เป็นต้นไปเราจะมีการจัดคาราวานรับสมัครสมาชิกในพื้นที่ต่างจังหวัดซึ่งเราจะทำใน 6จังหวัดก่อน ซึ่งเราจะตั้งสาขาพรรค ในภาคเหนือ จะอยู่ที่จ.เชียงใหม่ สาขาพรรคในภาคอีสานอยู่ในจ.ขอนแก่น สาขาพรรคภาคกลางอยู่ในจ.พระนครศรีอยุธยา สาขาพรรคภาคตะวันออกอยู่ที่จ.ระยอง ภาคใต้อยู่ ที่จ.นครศรีธรรมราช และ สาขาพรรคในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่ที่ จ.นราธิวาส
ในช่วงที่ลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ทำไมถึงมีแนวคิดเรื่องการถอนทหารออกจากพื้นที่
สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีทรัพยากร และวัฒนธรรมที่สวยงามมาก แต่เราเอาเรื่องความมั่นคงเข้าไป ถ้าใครเคยไปสามจังหวัดชายแดนภาคใต้คงเห็น เวลาขับรถไปประมาณ 500เมตร ก็มีด่านตรวจแล้ว เมื่อมีด่านเต็มไปหมดการค้าก็ไม่เกิด ประชาชนและนักท่องเที่ยวก็กลัวไม่เข้าไป ทั้งๆที่มีทรัพยากรที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไปได้หมด
“เราเห็นว่าปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นปัญหาการเมือง ที่ควรจะแก้ด้วยการทูต ไม่ใช่ด้วยการทหาร เมื่อเราแก้ด้วยการทหารก็เป็นการแก้ผิดจุด ดังนั้นเอาทหารออกจากพื้นที่ดึงนักท่องเที่ยวลงไปเพื่อให้เกิดพื้นที่เศษฐกิจ ส่วนกลุ่มผู้ที่เห็นต่าง ต้องนำทุกคนมาพูด เปิดโต๊ะเจรจากัน หาสันติภาพบนโต๊ะเจรจากันดีกว่า ผมคิดว่าประสบการชี้ให้เห็นแล้วว่าทหารเข้าไปควบคุมในพื้นที่เป็น10ปี ถ้าใช้การทหารแก้ปัญหาได้ป่านนี้คงจบไปตั้งนานแล้ว เราก็เลยอยากจะเสนอว่าเมื่อเป็นปัญหาการเมืองก็ต้องแก้ด้วยทางการทูต แก้ด้วยทางสันติวิธี”
แต่หน่วยความมั่นคงมองว่าหาก ถอนทหารออกจะเกิดความรุนแรงเพิ่มขึ้น
นั่นก็เป็นแค่มุมมอง แต่เราไม่เชื่อแบบนั้น เราเชื่อว่าถ้าเราเปิดใจรับรองความหลากหลายของทุกฝ่าย เปิดพื้นที่ให้กับทุกฝ่ายในการใช้ชีวิตร่วมกันในสังคม มันมีความเป็นไปได้ที่เราจะหาข้อสรุปร่วมกันได้
อ่านเพิ่มเติม
เปิดผัง “เลือดข้น ตระกูลการเมือง” กับอุดมการณ์ที่แตกต่างกัน
ศึก!เลือกตั้ง62 สายเลือดเดียวกัน "ต่างขั้วการเมือง"