เมื่อถึงลำห้วย ที่มีน้ำไหลตัดเส้นทาง รถที่เคลื่อนย้ายศพนายโคอิ มีมิ หรือ ปู่คออี้ จะหยุด สายศิลป์ถูกลากข้ามลำห้วย จากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่ง รถที่เคลื่อนย้ายศพจึงจะข้ามมาได้ เป็นพิธีกรรมที่ชาวกะเหรี่ยงปกาเกอะญอ เชื่อว่าการพาศพข้ามแม่น้ำ จะทำให้วิญญาณผู้ตายไปพบกับวิญญาณอื่นระหว่างเดินลุยน้ำ ต้องขออนุญาตพระแม่คงคา ให้สายสิญจน์เป็นสะพาน พาวิญญาณข้ามไปด้วย
แม้จะดูเหมือนเป็นความเชื่อของคนโบราณ แต่เมื่อมองลึกลงไป พิธีกรรมเช่นนี้ สะท้อนปรัชญาของชาวกะเหรี่ยงปกาเกอะญอค่อนข้างชัด พวกเขาเชื่อว่า ธรรมชาติ คือผู้ให้ชีวิต หมายความว่า สรรพสิ่งเกิดจากสิ่งว่างเปล่า ซึ่งหมายถึงท้องฟ้า จากนั้นเกิดน้ำ จึงค่อยมาเกิดดิน หรือตามหลักวิทยาศาสตร์ พวกเขาเข้าใจว่า น้ำเกิดก่อนดินบนโลก และพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นน้ำ จึงให้ความสำคัญกับน้ำ และแม้แต่วิญญาณ ยังต้องเคารพ น้ำ
น้ำขมิ้นผสมส้มปอย ถูกเทลงไปที่โลงศพของปู่คออี้ พร้อมคำพูดสำเนียงปกาเกอะญอ พวกเขาอธิบายพิธีกรรมนี้เป็นการชำระสิ่งชั่วร้าย ก่อนนำศพเข้าบ้าน เพราะเมื่อคนตายเสียชีวิตนอกบ้าน การเคลื่อนย้ายมาที่บ้าน เขาเชื่อว่าอาจมีวิญญาณอื่นตามมากับศพได้
เสียงจากแคนประจำตัวของปู่คออี้ ญาตินำมาเป่าบรรเลงประกอบเพลงที่ชาวกะเหรี่ยงเรียกว่า เพลงผี เนื้อหาของเพลงบางช่วง หมายถึงการอวยพรให้วิญาณได้ไปอยู่ในสถานที่ที่ร่มเย็น นำเมล็ดพันธุ์ไปปลูก รอลูกหลานกลับไปในวันข้างหน้า หากมองในหลักการจะเห็นว่า กะเหรี่ยง ยึดโยงชีวิตตัวเอง ไว้กับธรรมชาติ ตั้งแต่เกิดจนถึงชีวิตหลังความตาย
ณัฐพล เนียมนาค ถ่ายภาพ
อัฟนัน อับดุลเลาะ รายงาน