เมื่อวันที่ (27 พ.ย. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งเผยประสบการณ์ว่า เมื่อ 4 ปีที่แล้ว น้องชายเข้าค่ายธรรมะแห่งหนึ่ง แต่เมื่อกลับมาบ้านมีอาการหวาดระแวง ใจสั่น และเอาแต่ขอโทษทุกคนในบ้าน จนต้องเข้าพบจิตแพทย์รักษาตัว จนทำให้โลกออนไลน์ วิจารณ์ถึงกิจกรรมที่ไม่เหมาะสมของค่ายธรรมะ
วันนี้ ดร.สุรินทร์ เนียมสุวรรณ ผู้อำนวยการโรงเรียนศรียาภัย พร้อมนายสุนทร ไกรมาก ปลัดอำเภอท่าแซะ ซึ่งเป็นพ่อของเด็กนักเรียนคนดังกล่าวออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า เดิมลูกชายเป็นเด็กเรียนเก่ง กระทั้งวันที่ 21-23 เมษายน 2557 ทางโรงเรียนจัดกิจกรรมภายใต้ชื่อค่ายธรรมะ ขณะนั้นลูกชายอยู่ชั้น ม.4 และเดินทางไปเข้าค่ายเพียงวันเดียวทางโรงเรียนได้โทรศัพท์มาแจ้งว่าลูกชายมีอาการผิดปกติ จึงเดินทางไปรับกลับบ้าน
โดยลูกชายมีอาการพูดซ้ำ ๆ และแสดงอาการหวาดกลัว ควบคุมตัวเองไม่ได้ จึงนำตัวลูกชายไปปรึกษาแพทย์ และวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ หรืออารมณ์สองขั้ว เกิดจากสารสื่อประสาทในสมองขาดสมดุล ซึ่งไม่ได้ติดใจว่าอาการป่วยของลูกชายมาจากการเข้าค่ายธรรมะ และอาจมีอาการอยู่แล้วแต่ไม่แสดงออกชัดเจน
ด้านผู้บริหารโรงเรียนระบุว่า เพิ่งมารับตำแหน่งเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่ได้รับรายงานว่า โครงการเข้าค่ายธรรมะ จัดขึ้น 2 รุ่น คือ ม.1 และม.4 มีนักเรียนเข้าร่วม 1200 คน ซึ่งมีวิทยากรทั้งอาจารย์ในโรงเรียน และพระจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งหลังจัดกิจกรรมแล้ว ได้จัดทำแบบประเมินก็พบว่า มีเสียงสะท้อนหลากหลาย ทั้งสถานที่ไม่เหมาะสม คับแคบ ห้องน้ำไม่เพียงพอ ทำให้เกิดความเครียด แต่ก็เพียงเล็กน้อย
ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่าระหว่างเข้าค่ายแล้วถูกกดดัน จนทำให้เด็กสติแตกนั้น ยอมรับว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่ก่อให้เกิดความเครียด อาจเป็นไปได้ว่าทำให้เด็กที่มีอาการอยู่แล้ว เกิดระเบิดขึ้นมา หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวกิจกรรมนี้ก็ถูกยกเลิกไปแล้ว โดยมีกิจกรรมพาเด็กไปถือศีลตามวัดแทน ขณะที่ศิษย์เก่าคนหนึ่งบอกว่าการเข้าค่ายดังกล่าวมีอะไรที่โหดร้ายมาก จนรุ่นน้องมีอาการสติแตก อยากเรียกร้องให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ออกมาพูดความจริง