เมื่อวันที่ (1 ม.ค. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทินกร อ่อนมุกข์ ผู้รอดชีวิต พร้อมญาติๆได้นำศพของ นางงุด อ่อนมุกข์ ผู้เป็นแม่ น.ส.รัชพร อ่อนมุกข์ น.ส.ผกามาศ อ่อนมุกข์ พี่สาว ด.ช.กษิเดช ศรสังข์ และ ด.ญ.ชนัญธิดา ศรสังข์ หลาน ที่ถูกนายชูชีพ ศรสังข์ พี่เขย ผู้ก่อเหตุ นำมาบรรจุลงหีบศพเพื่อบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนา ภายในวัดปะติมะ อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร
ขณะที่ร่างของนายวิจิตร นาคลอด พี่เขยของนายทินกร ที่ถูกยิงคนแรก ญาติ ได้เดินทางไปรับศพ เพื่อนำไปทำพิธีทางศาสนา ที่วัดน้ำผุด อ.เมือง จ.ชุมพร ส่วนนายศพของนายสุชีพ ผู้ก่อเหตุ ยังคงถูกเก็บไว้ที่โรงเย็นของ รพ.พะโต๊ะ เพื่อรอทางญาติจากจังหวัดนครศรีธรรมราช มารับไปทำพิธีทางศาสนา ญาติของ 1 ใน 7 ระบุว่า ที่ รู้จักกับผู้ก่อเหตุเพียงผิวเผิน แต่สังเกตว่านายสุชีพ เป็นคนนิสัยดี สุภาพ นอบน้อม เบื้องต้นก่อนเกิดเหตุทราบว่า นายชูชีพ ได้ถูกนางงุด ซึ่งเป็นแม่ยาย ต่อว่าต่อหน้านายวิจิตรและนายทินกร ที่กำลังนั่งฉลองต้อนรับปีใหม่อยู่หน้าบ้าน คาดว่าทำให้นายสุชีพ รู้สึกอาย ก่อนขับรถยนต์ออกจากบ้านไปนั่งดื่มเบียร์ คนเดียวถึง 4 ขวด และขับรถกลับมา ก่อนมีปากเสียงกันอีกครั้ง ทำให้เกิดบันดาลโทสะก่อเหตุ
สอดคล้องกับที่ตำรวจสันนิษฐานเบื้องต้น สาเหตุเกิดจากความขัดแย้งภายในครอบครัว โดยขณะเกิดเหตุเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 61 ทางครอบครัวของนางงุด ได้กินเลี้ยงปีใหม่ ที่บริเวณโต๊ะหน้าบ้าน และได้มีการพูดถึงนายสุชีพ ซึ่งนายสุชีพ มาได้ยิน จนเกิดความไม่พอใจและออกจากบ้านไป
จากนั้นกลับมาอีกครั้ง เมื่อเวลาประมาณ 00.10 น. ของวันที่ 1 ม.ค. 62 โดยจากคำให้การของพยาน ที่รอดชีวิตระบุว่า นายสุชีพ มีอาการสุรา ก่อนพูดถึงบุคคลในครอบครัว ซึ่งพยานได้ต่อว่า และบอกว่ามีอะไรมาเคลียร์กัน นายสุชีพ จึงพูดว่า เอาแบบนี้พร้อม ชักอาวุธปืนออกมาจากเอว แล้วยิงไปที่นายวิจิตร ที่นั่งอยู่บริเวณม้าหินอ่อน เป็นคนแรก ก่อนหันมายิงพยาน กระสุนถูกบริเวณเอว จนล้มลง โดยพยานแกล้งเสียชีวิต จากนั้นนายสุชีพวิ่งเข้าไปในบ้านใช้อาวุธปืนยิงนางงุด และนางผกามาศพี่สาว ที่นั่งอยู่บนโซฟา ก่อนยิงนางรัชพร หน้าห้องนอน จากนั้นนายสุชีพ เข้าไปยิงลูกชายและลูกสาวตัวเอง ที่นอนเล่นเกมส์มือถืออยู่ในห้องนอน แล้วใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวตายตาม
