สหรัฐฯปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 ปี
เผยแพร่
ปรับปรุงล่าสุด
บริษัทด้านการวิจัยเผยในปี 2018 ที่ผ่านมาสหรัฐฯ ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี โดยมีสาเหตุหลักจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ขยายตัว

งานวิจัยชิ้นนี้เป็นของบริษัทวิจัยด้านสภาพเศรษกิจ “โรเดียม กรุ๊ป” โดยใช้ข้อมูลจากสำนักข้อมูลจากสำนักงานบริหารข้อมูลพลังงานสหรัฐฯ และ แหล่งอื่นๆขณะเดียวกัน บริษัทวิจัยด้านสภาพเศรษกิจ “โรเดียม กรุ๊ป” ออกมาเปิดเผยว่า ในปี 2018 ประเทศที่ผ่านมา สหรัฐฯ ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้น 3.4 เปอร์เซนต์ ทั้งที่ 3 ปี ก่อนหน้านี้ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรก หลังจาก 3 ปี ที่ผ่านมา มีอัตราลดลงโดยตลอด
ส่วนสาเหตุหลักที่ทำให้การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มีอัตราเพิ่มขึ้น เป็นเพราะกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คึกคักขึ้นขยายตัว โดยหลายภาคอุตสาหกรรมขนส่งสินค้ามากขึ้นด้วยรถบรรทุกซึ่งใช้น้ำมันดีเซล ขณะที่ประชาชนหันมาเดินทางด้วยเครื่องบินเพิ่มขึ้น ทำให้ปีที่แล้วการบริโภคน้ำมันดีเซลและเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 3 เปอร์เซนต์
โดยภาคการขนส่งยังครองแชมป์ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นปริมาณมากที่สุดเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน แต่ภาคส่วนที่มีอัตราปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขยายตัวมากที่สุด คือ อาคารบ้านเรือนต่างๆและการผลิตในภาคอุตสาหกรรม
โดยงานวิจัยประเมินว่าในปี 2018 อาคารเพื่อการอยู่อาศัยและการพาณิชย์ มีอัตราปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่มขึ้นถึง 10 เปอร์เซนต์ สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2004
นอกจากนี้ ฤดูหนาวที่กินระยะเวลายาวนานกว่าเดิม และอากาศร้อนจัดในช่วงฤดูร้อนของหลายพื้นที่ ยังทำให้ประชาชนใช้เครื่องปรับอากาศมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้การบริโภคไฟฟ้าถีบตัวสูงขึ้น
สำหรับสหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากประเทศจีน ขณะที่แต่ที่ผ่านมา รัฐบาลของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ยกเลิกมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมเป็นจำนวนมาก รวมถึงยังเตรียมจะถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีสว่าด้วยการแก้ปัญหาโลกร้อนในปีหน้า หรือปี 2020 ด้วย
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> //www.pptvhd36.com/special/ข่าววันนี้
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> www.pptvhd36.com/tags/ข่าววันนี้