ชาวบ้านเชื่อ "นายฝน" เป็นแพะคดี ด.ช.ซูลุยผิวตายในไร่อ้อย
เผยแพร่
ปรับปรุงล่าสุด
หลังจากครอบครัวของ “นายฝน” ผู้ต้องหาคดีพรากผู้เยาว์เด็กชายซูลุยผิว หรือ น้องต้าแง ชาวเมียนมาร์ เข้าร้องขอความเป็นธรรมตำรวจกองปราบฯ ให้ทำคดีแทนตำรวจภูธรสระยายโสม จังหวัดสุพรรณบุรี เพราะไม่มั่นใจในการทำคดี ซึ่งมีพยานหลายคนยืนยันว่าช่วงเกิดเหตุ นายฝน ไม่ได้ไปที่ไร่อ้อย แต่อยู่ที่วัดนันทวัน

เมื่อวันที่ (10 ม.ค. 62) ทีมข่าวพีพีทีวีเดินทางไปที่วัดนันทวัน ตำบลสระพังลาน อำเภออู่ทอง จังหวัดวัดุพรรณบุรี พบกับพระสงฆ์รูปหนึ่ง ยืนยันว่า วันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา นายฝน อยู่ที่วัดแต่ตั้งเช้าไปจนถึงช่วงเวลาเย็น ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันที่ทำประจำว วัดแห่งนี้เหมือนบ้านหลังที่ 2 ของนายฝน เพราะจะมาช่วยพระทำงาน และตีกลองเพลเป็นประจำ
พระสงฆ์ ระบุว่า ตำรวจได้เชิญตัวไปให้ข้อมูลที่โรงพักนานกว่า 4 ชั่วโมง แต่กลับไม่เชื่อคำให้การเพราะตำรวจถือว่านายฝนเป็นลูกศิษย์วัด จึงน่าจะช่วยปกปิดข้อมูลและให้การเข้าข้างนายฝน
กระทั่งเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2561 ตำรวจพานายฝนออกไปจากวัดและหายไปเกือบทั้งวัน เมื่อกลับมานิ้วมือของนายฝนคล้ายกับถูกพิมพ์ลายนิ้วมือ มีหมึกติดอยู่ นายฝนบอกว่า ตำรวจให้เงินแบงค์สีแดงมา 5 ใบ ต่อมาวันที่ 25 ธันวาคม 2561 ก็พบศพเด็กชายซูลุยผิว
ระหว่างทีมข่าวลงพื้นที่สอบถามข้อมูลกับชาวบ้านคนอื่นๆ ได้พบกับ นายอำนวจ จุลทรัพย์ หรือนายอ๊อด เป็นผู้พิการไม่สามารถพูดได้ ซึ่งนายอ๊อดเป็นเหมือนเพื่อนสนิท หรือคู่หูของนายฝน ชอบไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด นายอ๊อดพยายามสื่อสารกับทีมข่าวพีพีทีวีผ่านนางนันทพร จุลทรัพย์ ผู้เป็นแม่ว่า ในวันที่ 17 ธันวาคม 2561 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ นายฝนชวนให้ไปกินก๋วยเตี๋ยวหลังวัดเพราะมีงานบุญด้วยกัน
ด้านพ่อแม่ของนายฝน เปิดเผยว่า วันที่ตำรวจพาลูกชายไปสอบปากคำวันแรกไม่มีใครทราบ และครั้งที่ 2 ตำรวจพาไปชี้จุดที่เกิดเหตุและพยายามใช้คำถามนำ ซึ่งนายฝนเดินเลยจุดเกิดเหตุแต่ตำรวจดึงกลับมาแล้วถามว่าตรงนี้ใช่ไหม นายฝนตอบ “อื้อ” โดยพ่อของนายฝนพยายามบอกกับตำรวจว่า ลูกชายเป็นผู้พิการทางสมอง เมื่อมีใครถามอะไร ก็จะชอบพูดตอบ “อื้อ” กับทุกคน พ่อของนายฝน มั่นใจว่าลูกชายไม่เคยมาในป่าอ้อยแน่นอนและถึงมาได้ก็กลับบ้านไม่ถูก
ทีมข่าวสำรวจเส้นทางจากบ้านของนายฝน ไปที่วัดนันทวัน มีระยะทางประมาณ 1.3 กิโลเมตร และจากบ้านนายฝนมาที่จุดเด็กชายซูลุยผิวหายไป ระยะทาง 1.2 กิโลเมตร และจากวัดนันทวันมาที่จุดพบเด็กมีระยะทางประมาณ 3.4 กิโลเมตร ทั้งหมดเป็นเส้นทางลูกรังมีหญ้าขึ้นสูง และทีมข่าวพีพีทีวีเดินทางไปที่วัดนันทวัน ตำบลสระพังลาน อำเภออู่ทอง จังหวัดวัดุพรรณบุรี พบกับพระสงฆ์รูปหนึ่ง ยืนยันว่า วันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา นายฝน อยู่ที่วัดแต่ตั้งเช้าไปจนถึงช่วงเวลาเย็น ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันที่ทำประจำว วัดแห่งนี้เหมือนบ้านหลังที่ 2 ของนายฝน เพราะจะมาช่วยพระทำงาน และตีกลองเพลเป็นประจำ
พระสงฆ์ ระบุว่า ตำรวจได้เชิญตัวไปให้ข้อมูลที่โรงพักนานกว่า 4 ชั่วโมง แต่กลับไม่เชื่อคำให้การเพราะตำรวจถือว่านายฝนเป็นลูกศิษย์วัด จึงน่าจะช่วยปกปิดข้อมูลและให้การเข้าข้างนายฝน
กระทั่งเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2561 ตำรวจพานายฝนออกไปจากวัดและหายไปเกือบทั้งวัน เมื่อกลับมานิ้วมือของนายฝนคล้ายกับถูกพิมพ์ลายนิ้วมือ มีหมึกติดอยู่ นายฝนบอกว่า ตำรวจให้เงินแบงค์สีแดงมา 5 ใบ ต่อมาวันที่ 25 ธันวาคม 2561 ก็พบศพเด็กชายซูลุยผิว ระหว่างทีมข่าวลงพื้นที่สอบถามข้อมูลกับชาวบ้านคนอื่นๆ ได้พบกับ นายอำนวจ จุลทรัพย์ หรือนายอ๊อด เป็นผู้พิการไม่สามารถพูดได้ ซึ่งนายอ๊อดเป็นเหมือนเพื่อนสนิท หรือคู่หูของนายฝน ชอบไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด นายอ๊อดพยายามสื่อสารกับทีมข่าวพีพีทีวีผ่านนางนันทพร จุลทรัพย์ ผู้เป็นแม่ว่า ในวันที่ 17 ธันวาคม 2561 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ นายฝนชวนให้ไปกินก๋วยเตี๋ยวหลังวัดเพราะมีงานบุญด้วยกัน
ด้านพ่อแม่ของนายฝน เปิดเผยว่า วันที่ตำรวจพาลูกชายไปสอบปากคำวันแรกไม่มีใครทราบ และครั้งที่ 2 ตำรวจพาไปชี้จุดที่เกิดเหตุและพยายามใช้คำถามนำ ซึ่งนายฝนเดินเลยจุดเกิดเหตุ แต่ตำรวจดึงกลับมาแล้วถามว่าตรงนี้ใช่ไหม นายฝนตอบ “ อื้อ ” โดยพ่อของนายฝนพยายามบอกกับตำรวจว่า ลูกชายเป็นผู้พิการทางสมอง เมื่อมีใครถามอะไร ก็จะชอบพูดตอบ “ อื้อ ” กับทุกคน พ่อของนายฝน มั่นใจว่าลูกชายไม่เคยมาในป่าอ้อยแน่นอนและถึงมาได้ก็กลับบ้านไม่ถูก
ทีมข่าวสำรวจเส้นทางจากบ้านของนายฝน ไปที่วัดนันทวัน มีระยะทางประมาณ 1.3 กิโลเมตร และจากบ้านนายฝนมาที่จุดเด็กชายซูลุยผิวหายไป ระยะทาง 1.2 กิโลเมตร และจากวัดนันทวันมาที่จุดพบเด็กมีระยะทางประมาณ 3.4 กิโลเมตร ทั้งหมดเป็นเส้นทางลูกรังมีหญ้าขึ้นสูง และหนทางคดเคี้ยวหลายแยก ชาวบ้านเชื่อว่า นายฝนที่มีอายุสมองเท่ากับเด็กอายุ 5 ขวบ จะต้องหลงทางแน่นอน
ด้าน พล.ต.ต คมศักด์ สุมังเกษตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี บอกว่า เรื่องนี้ตำรวจไม่ได้สร้างแพะรับบาป ยืนยัน มี พยานหลักฐานว่านายฝนเป็นคนพาเด็กชายซูลุยผิวเข้าไปในไร่อ้อย แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ส่วนกรณีครอบครัวนายฝนร้องขอให้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี ถามกลับว่า ตำรวจในพื้นที่ทํางานบกพร่องจุดไหน ที่ผ่านมาทำงานอย่างละเอียดรอบคอบมั่นใจและพยานหลักฐานที่พบ
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> www.pptvhd36.com/tags/ข่าววันนี้