จากการเพิ่มกำลังปล่อยน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งดร.เสรี วิเคราะห์ว่า จุดเปราะบางคือ ประตูระบายน้ำบางไทร ซึ่งจากการลงพื้นที่ โดยเฉพาะจุดวัดบางไทร ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญในการวิเคราะห์น้ำ ที่จะไปถึงปริมณฑล และกรุงเทพมหานคร ซึ่งจากข้อมูลทราบว่า ปริมาณน้ำ ณ เวลานี้ เขื่อนเจ้าพระยา ปล่อยอยู่ที่ 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที คาดว่ามวลน้ำก้อนนี้จะมาถึงพระนครศรีอยุธยาในวันนี้
ดร.เสรี คาดมวลน้ำก้อนใหญ่ถึงอยุธยา 2-3 ต.ค.
กรมชลฯ เผย แม่น้ำมูล จ่อล้นตลิ่ง เตือนชาวอุบลฯขนของขึ้นที่สูง
ซึ่งจะส่งผลให้น้ำสูงขึ้นราว 90 เซ็นติเมตร โดยอยุธยาส่วนหนึ่งเป็นทุ่งรับน้ำที่เพิ่งนำน้ำเข้าทุ่งเมื่อ 20 กันยายน จึงยังเหลือปริมาณอีกมาก แต่จะมีพื้นที่ท่วมซ้ำซาก เช่น อำเภอผักไห่ อำเภอเสนา และอำเภอบางบาล ที่ได้รับผลกระทบทุกครั้ง
นายธนากร ตันติกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา ยืนยันว่า น้ำปีนี้ ไม่ต่างจากปี 2560 ทำให้ไม่กังวลมากนัก และมั่นใจว่า น้ำที่พระนครศรีอยุธยา จะไม่ท่วมกรุงเทพ เพราะ ต้องเข้าปทุมธานี นนทบุรี และความจุลำน้ำที่รับได้คือ 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่ ณ ปัจจุบัน อยู่ที่ 2,100 ลูกบาศเมตรต่อวินาที ในภาพรวม
นายธนากร ยอมรับว่า ฝนที่อาจตกเพิ่ม ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ไว้ อาจส่งผลกระทบบ้างในพื้นที่ท้ายเขื่อน แต่ไม่มาก เพราะกำลังใจการรับน้ำของพื้นที่บางไทรที่เป็นจุดระบายน้ำ สามารถรับได้ 3,500 ลูกบาศเมตร์ต่อวินาที และหากเทียบกับปี 2554 ที่กรุงเทพวิกฤต เพราะเวลานั้นมีพายุหลายลูก และมวลน้ำระบายอยู่ที่ 3,860 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที