หวิดปะทะชาวบ้านวอนเปิดประตูระบายน้ำบางกุ้ง
GISTDA เผยภาพดาวเทียม เห็น 4 จังหวัดใหญ่อีสานยังมีน้ำท่วมขังกินพื้นที่ 4.3 แสนไร่
โดยเมื่อเช้าปริมาณน้ำอยู่ที่ 1,027.27 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 107.01% ของความจุขอ่าง ที่ปกติรองรับน้ำได้ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยยังมีมวลน้ำเหนือไหลลงเขื่อนอยู่ที่ 117.62 ล้านลูกบาศก์ต่อวัน ทำให้ยังจำเป็นต้องเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 7 บาน เพื่อคงการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนที่ 1,206.90 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อน ในพื้นที่ชุมชนบ้านหนองบัว และชุมชนบ้านแก่งเสือเต้น มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อวานอีก 50 เซนติเมตร ปัจจุบันเป็น 1.7 เมตร
ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า น้ำท่วมรอบนี้ แม้ว่าระดับน้ำจะไม่สูงเทียบเท่ากับครั้งปี 2554 แต่ความเร็วของน้ำที่ไหลบ่ามาค่อนข้างเร็ว และหลายคนไม่ทันตั้งตัว ประกอบกับความชะล่าใจของตนเองที่คิดว่าระดับน้ำคงไม่ท่วมสูงนัก ทำให้ไม่ได้เก็บของขึ้นที่สูง
ด้าน นายวัชรพงษ์ สำเหนียกพันธุ์ นายกเทศมนตรีตำบลต้นตาล-พระยาทด บอกว่าเจ้าหน้าที่ประเมินสถานการณ์ที่น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนอย่างรวดเร็วโดยใช้เวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง ทำให้ความเสียหายของชาวบ้านขณะนี้อยู่ที่ 50% จากปี 2554 แล้ว
น้ำในตัวเมืองชัยภูมิลดแล้ว แต่หน้า รพ.ยังสูง 1 เมตร
ส่วนสถานการณ์น้้ำในเขตเศรษฐกิจ จังหวัดชัยภูมิ น้ำเริ่มลดลง หลังเร่งสูบระบายน้ำออกจากตัวเมือง และผลักดันน้ำออกนอกเมืองมา 3 วัน ถนนในเมืองหลายสาย กลับมาสัญจรไปมาได้แล้ว
แต่ที่ถนนบรรณาการ ด้านหน้าทางเข้าโรงพยาบาลชัยภูมิ ไปจนถึงหน้าโรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล และถนนรอบอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล ระดับน้ำยังสูงประมาณ 1 เมตร รถเล็กยังผ่านไม่ได้ ทำให้ผู้ป่วยและผู้มาใช้บริการโรงพยาบาลชัยภูมิ ยังต้องสัญจรด้วยรถทหาร และใช้สะพานข้ามเพื่อเข้าไปในตัวโรงพยาบาล
ซึ่งน้ำท่วมในเมืองชัยภูมิครั้งนี้ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่อาศัยในเมืองชัยภูมิทั้ง 25 ชุมชน มีบ้านเรือนประชาชนกว่า 20,000ครัวเรือน ประชากรกว่า 37,000 คน ถูกน้ำท่วมบ้านเรือนเป็นเวลานานมาแล้ว 7 วัน ที่ยังหนักสุดอยู่ในโซนชุมชนขี้เหล็กใหญ่ และโซนหนองสัง ที่ยังคงมีน้ำท่วมบ้านเรือนชาวบ้านสูงกว่า 1 เมตรอยู่เช่นกัน คาดว่าในไม่เกิน 3 วัน น้ำท่วมในเมืองชัยภูมิ จะลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ