ก่อนอื่นเรามาดูนิยามคำที่ 1.คอร์รัปชัน (Corruption) ซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษาลาตินว่า Corruption ความหมายของคำนี้มีหลากหลายต่างๆ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้ หลักการหรือมุมมองในทางศีลธรรม ทางการเมืองหรือทางเศรษฐศาสตร์
ชี้ช่องแจ้งเบาะแส “เจอคนโกง จ่ายใต้โต๊ะ คอร์รัปชัน”
ส่อง "หน่วยงาน" กำกับดูแลธุรกิจ-นักลงทุน ห่างไกลคอร์รัปชัน
ในมุมมองของพฤติกรรมหรือการกระทำนั้น คอร์รัปชัน อาจจัดเป็นอาชญากรรม (crime) ประเภทหนึ่ง ในบางกรณีคอร์รัปชันอาจจะถูกมองในความหมายที่แคบและต่างจากการโกง ยักยอก รีดไถ การขู่ โดยมองว่าคอร์รัปชันเป็นการกระทำของคนสองฝ่ายที่หาประโยชน์ร่วมกันจากฝ่ายที่สาม เช่น การติดสินบน
นอกจากนั้นโดยสรุป คอร์รัปชัน เป็นการกระทำที่มีการใช้อำนาจ หรือการให้สินบน ที่อาจจะผิดหรือไม่ผิดกฎหมายก็ได้ แต่มีเจตนาให้ได้รับประโยชน์อันไม่สมควรจะได้ และคอร์รัปชันนั้นเกิดขึ้นได้ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน โดยการคอร์รัปชันในภาคเอกชนอาจหมายถึง การที่ผู้บริหารใช้อำนาจหรือตำแหน่งที่ได้มาจากผู้ถือหุ้นในการดำเนินงานของบริษัทเพื่อแสวงหาประโยชน์ส่วนตน
ส่วนอีก 14 คำศัพท์ที่มักใช้ในแวดวงของการ “ทุจริตคอร์รัปชัน”
2.กินตามน้ำ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 หมายความว่า การรับของสมนาคุณที่เขาเอามาให้โดยไม่ได้เรียกร้อง ซึ่งมักใช้แก่เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจ
ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่รับของขวัญ ของสมนาคุณที่เขาเอามาให้โดยที่ตนเองไม่ได้เรียกร้อง หรืออีกนัยหนึ่งคือการ ติดสินบน ต่างคนต่างได้ประโยชน์
อย่างไรก็ตาม บางคนมองว่า กินตามน้ำไม่ถือเป็นการทุจริตคอร์รัปชัน เพราะการนำของขวัญมาให้ในบางกรณีถือเป็นสินน้ำใจ ซึ่งไม่ใช่ความเข้าใจที่ถูกต้อง
3.กินทวนน้ำ คำนี้ค่อนข้างชัดเจนในแง่ที่ว่าเป็นพฤติกรรมของการรับผลประโยชน์จากการทุจริตคอร์รัปชัน โดยกีดกันไม่ให้ผู้อื่นเข้ามารับผลประโยชน์หรือแย่งผลประโยชน์
4.ขุดหลุมล่อ ทํากลอุบายเพื่อให้ฝ่ายหนึ่งหลงเชื่อโดยหวังประโยชน์จากอีกฝ่ายหนึ่ง หรือในทางการทุจริต คือการปรับเปลี่ยนกติกาบางอย่างหรือ จงใจปกปิดหรือไม่ประชาสัมพันธ์กติกาบางอย่างที่เอกชนควรรู้ เพื่อให้เอกชนบางรายทำผิดกติกาดังกล่าว แล้วใช้โอกาสนี้เข้าไปข่มขู่ด้วยบทลงโทษ และค่าปรับตามกฎหมายในอัตราสูง เพื่อเปิดช่องให้รับสินบนจากเอกชนรายนั้นได้ เพื่อแลกเปลี่ยนไม่ให้ถูกลงโทษ หรือ ลงโทษสถานเบา โดยส่วนใหญ่เงินสินบนจะน้อยกว่าเงินค่าปรับหรือบทลงโทษ
5.ค่าน้ำร้อนน้ำชา คำนี้ได้ยินกันบ่อย ซึ่งในความหมายก็คือ เงินสินบนที่จ่ายให้เจ้าหน้าที่เพื่อให้ได้รับความสะดวกรวดเร็วในการติดต่องานหรือขอรับบริการ ซึ่งเข้าใจง่ายๆ การจ่ายค่าน้ำร้อนน้ำชา ย่อมทำให้เกิดผลสำเร็จในการติดต่องานต่างๆ เร็วขึ้น
6.ค่าหัวคิว การเรียกร้องเอาเงินหรือผลประโยชน์จากผู้ดำเนินกิจกรรมที่อยู่ในความรับผิดชอบของผู้มีอิทธิพลหรือผู้มีอำนาจหน้าที่ดูแลในเรื่องนั้น ๆ เพื่อแลกกับความสะดวกหรือสิทธิในการดำเนินกิจกรรมก่อนผู้อื่น
7.เงินทอน เงินทอนที่เอกชนต้องจ่ายคืนกลับให้บุคคลเกี่ยวข้อง ในขบวนการทุจริตคอร์รัปชันเพื่อตอบแทนการได้รับอนุมัติงบประมาณในการทำโครงการ ส่วนใหญ่ตกลงไว้ก่อนล่วงหน้าในอัตราที่แน่นอน ซึ่งแน่นอนว่าเอกชนต้องเสนอราคาที่สูงกว่าที่ควรจะเป็นหลังจากที่จ่ายเงินทอนให้กับบุคลลที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ผลกรรมจะตกมาที่โครงการดังกล่าวจะมีคุณภาพที่ต่ำกว่ามาตรฐาน
8.เงินใต้โต๊ะ เงินที่จ่ายเพื่อการได้มาซึ่งผลประโยชน์โดยทำการจ่ายแบบลับๆ ไม่ให้ใครรับรู้
9.ไซฟ่อน (money siphoning) การยักย้ายถ่ายเทผลประโยชน์ของบริษัทออกไปเป็นผลประโยชน์ส่วนตัวของเจ้าของบริษัท สำหรับในประเทศไทยเกิดขึ้นบ่อยๆ โดยที่บางครั้งคนซื้อหุ้นเสียประโยชน์โดยไม่รู้ตัว
การไซฟ่อนเงิน (money siphoning) โดยอาจจะทำผ่านช่องทางการทำธุรกิจปกติ เช่นในรูปของการซี้อขายสินค้าและสินทรัพย์ การกู้หรือให้ยืมเงิน การค้ำประกันระหว่างบริษัทจดทะเบียนกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ผู้บริหารหรือกิจการของคนเหล่านั้น แม้แต่การใช้ข้อมูลภายใน (inside information)
10.นอนกิน รอให้เอกชนเข้ามาเสนอสินบนเองโดยไม่ต้องเรียกร้องตรงๆ ให้ชะลอการอนุมัติโครงการห้เกิดความล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น
11.ฟอกเงิน (Money Laundering) การนำเงินที่ได้มาจากการทำความผิดหรือเงินที่เกี่ยวข้องกับการทำความผิด มาเก็บ ซุกซ่อน โดอน ยักย้ายหรือเปลี่ยนสภาพ เพื่อให้ผู้กระทำความผิดหรือผู้อื่นสามารถจะนำเงินดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ได้ ในลักษณะของเงินที่ถูกกฎหมาย อย่างไรก็ดี คำว่า ฟอกเงิน ยังรวมถึง การฟอกเงินทรัพย์สินหรือประโยชน์ในทางทรัพย์สินอื่นๆ ที่ได้มาจากการกระทำความผิดด้วย
รวมถึง ต้องการเปลี่ยนสถานะของเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย หรือเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย ให้กลายเป็นเงินหรือทรัพย์สินใช้ได้โดยถูกกฎหมาย หรือทำให้ไม่มีใครรู้ว่าเป็นเงินที่ผิดกฎหมายนั่นเอง
12.ล็อกสเป็ก การกำหนดรายละเอียด คุณสมบัติของโครงการหรือตัวบุคคล เพื่อเอื้อประโยชน์ให้เอกชนบางรายสามารถเข้าร่วมได้ ร่วมถึงตัดคู่แข่งบางรายที่ไม่มีคุณสมบัติออกได้ด้วย
13.วิ่งเต้น การกระทำเพื่อมุ่งส่งผลต่อการตัดสินใจของรัฐบาล คำในภาษาอังกฤษมีที่มาจากคำว่า lobby ซึ่งหมายถึงห้องพักผ่อนหรือห้องนั่งเล่น (ของสมาชิกรัฐสภา) การวิ่งเต้นใช้กันครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาเมื่อราวทศวรรษ 1830 เมื่อตัวแทนของกลุ่มผลประโยชน์พยายามรวมตัวกันเพื่อให้ได้มาซึ่งเสียงสนับสนุนจากสภาคองเกรสในการลงมติเรื่องสำคัญ ๆ
ปัจจุบันการวิ่งเต้นมีความหมายกว้างมากขึ้นโดยรวมถึงความพยายามมีอิทธิพลต่อการกระทำของรัฐในทุก ๆ เรื่อง ผู้ทำหน้าที่วิ่งเต้นเรียกว่า นักวิ่งเต้น หรือเรียกทับศัพท์ว่า ล็อบบี้ยิสต์
14.ส่วย การกระทำที่ขัดต่อกฎหมายของบ้านเมืองขัดต่อศีลธรรมอันดีและขัดต่อความชอบธรรมของสังคมสถานเดียว เป็นการจ่ายเงินเบี้ยบ้ายรายทางให้กับผู้มีอำนาจ เพื่อปกปิดการกระทำความผิดของเอกชน เช่น ธุรกิจสีเทาที่จ่ายส่วนให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ
15.ฮั้ว การตกลงกันระหว่างบุคคลสองฝ่ายหรือกว่านั้น ซึ่งบางครั้งเป็นการผิดกฎหมายหรือเป็นการลับ เพื่อจำกัดการแข่งขันอย่างเสรี โดยวิธีฉ้อฉล ชักนำให้สำคัญผิด หรือหลอกลวงเกี่ยวกับสิทธิตามกฎหมาย หรือเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ซึ่งกฎหมายห้ามไว้ โดยวิธีฉ้อฉลหรืออาศัยความได้เปรียบโดยไม่เป็นธรรม มักปรากฏในระหว่างกลุ่มองค์กรหรือบุคคลเมื่อแบ่งส่วนตลาด กำหนดราคา จำกัดการผลิต หรือจำกัดโอกาส
วิธีฮั้ว อาจรวมถึง การกำหนดค่าแรง การชักค่าจ้างไว้ หรือการแถลงเท็จซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างผู้ฮั้วทั้งหลาย
ไทยยังเสี่ยง "ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมไซเบอร์" เหตุการป้องกันไม่เพียงพอ
รู้จัก ดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ไฉนสำคัญกับประเทศและวัดกันอย่างไร