คำยืนยันจากเด็กหญิงคนหนึ่งที่แอบหนีออกมาจากมูลนิธิคุ้มครองเด็กบ้านครูยุ่นเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว เธอเปิดใจกับทีมข่าวว่าสาเหตุที่เธอต้องแอบหนีออกมาจากที่นั่นเป็นเพราะเธออดทนไม่ไหวกับการถูกใช้งานอย่างหนัก ทั้งต้องดูแลเด็กทุกคนที่เป็นเด็กเล็กและต้องทำงานให้กับรีสอร์ทของครูยุ่นโดยรับค่าจ้างเพียงวันละ 60 บาท เธอบอกว่าสระว่ายน้ำที่อยู่ภายในมูลนิธิก็เป็นฝีมือของแรงงานเด็กๆที่อยู่ในมูลนิธิเป็นคนทำกันเอง ตั้งแต่ขุดเสาร์ไปจนถึงปูกระเบื้อง
"ครูยุ่น" ปฏิเสธ 2 ข้อหายันทำโทษเด็กเพราะมีเหตุผล
ย้อนบทสัมภาษณ์ "ครูยุ่น" เผย แนวคิดช่วยเหลือเด็ก
เธอยังบอกด้วยว่าตอนนั้นเธอมีอายุได้ประมาณ 19 ปีแล้ว เคยขอลาครูยุ่นออกมาหางานทำและออกมาใช้ชีวิตข้างนอก แต่ครูยุ่นเกลี้ยกล่อมไม่ให้ออกมาสุดท้ายเธอตัดสินใจใช้จังหวะที่มีผู้ใจบุญไปเลี้ยงอาหารแอบหลบหนีออกมาช่วงที่ไม่มีคนสนใจ
เมื่อถามถึงพฤติกรรมของครูยุ่นเธอยอมรับว่าข้อดีของครูยุ่นก็มี ครูยุ่นมักจะสอนให้เธอเลี้ยงน้องดีๆ ไม่ตีน้อง ไม่พูดจารุนแรงกับน้อง แต่เมื่อครูยุ่นโมโหก็มักจะทำพฤติกรรมตรงข้ามกับที่สอน ส่วนการตีอย่างรุนแรง เธอบอกว่าตัวเธอเองไม่เคยโดน แต่เคยเห็นเด็กๆคนอื่นๆโดนตีจนไม้หัก ขณะที่ภรรยาของครูยุ่นก็มักใช้ถ้อยคำรุนแรงทำร้ายจิตใจ เช่น ลำเลิกบุญคุณ ที่มีอยู่มีกินทุกวันนี้ก็เพราะ บุญคุณของมูลนิธิ ก็ต้องช่วยงานไม่ใช่ขี้เกียจ
เธอยังบอกด้วยว่า สุดท้ายพอมีข่าวออกมาเธอรู้สึกตกใจ และ ไม่ได้ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ตกใจว่ามันมีภาพเหตุการณ์ต่างๆหลุดออกมาได้อย่างไร และรู้สึกเป็นห่วงน้องๆที่เคยอยู่ด้วยกัน.