จ่อฟันโทษ “ไล่ออก” ตร.นำขบวน VVIP


โดย PPTV Online

เผยแพร่




จเรตำรวจ เรียกตำรวจในคลิปขบวน VVIP จีนมารับทราบข้อกล่าวหา เพราะถือเป็นการทำผิดวินัยร้ายแรง และ นำเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน รอผลพิจารณาโทษหนักอาจถึงขั้นไล่ออกจากราชการ

จเรตำรวจ นำเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เข้าตรวจสอบรถของกลางที่มีการใช้นำขบวนในแพ็คเกจ VVIP จากคลิปรีวิวของนักท่องเที่ยวจีนโดยที่เห็นจะเป็นรถจักรยานยนต์ 2 คัน และ รถเก๋ง 1 คัน และจะมีอุปกรณ์ที่เป็นสัญลักษณ์ของรถตำรวจก็คือ ไฟไซเรน แต่สติ๊กเกอร์ สตช. ข้างรถเก๋งจากที่ปรากฏในคลิป ถูกแกะออกไปแล้ว

พล.ต.ต.เจนกมล คำนวล ผู้บังคับการกองตรวจราชการ 8 สำนักงานจเรตำรวจ  (ผบก.กต.8 จต.) ให้ข้อมูลกับทีมข่าว ว่า เบื้องต้นมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ตำรวจทั้งหมด 4 นาย

ชำแหละรีวิวรถนำขบวนVVIP ตร.ทำอะไรบ้าง ?

ลองแล้ว! จองทริป VVIP การันตี ตร.มารับถึงที่

ในคลิป เป็นสังกัดตำรวจท่องเที่ยว 2 นาย และจราจร สังกัดนครบาล 2 นาย โดยวันนี้ได้เรียกเข้ามาเซ็นรับทราบข้อกล่าวหา ก่อนนำเจ้าหน้าที่ พฐ.มาตรวจพิสูจน์รถของกลาง เพื่อหาตำหนิพิเศษ ว่า ตรงกับรถที่ปรากฎในคลิปหรือไม่

ในการสอบปากคำเบื้องต้น  ทั้งหมดยังให้การภาคเสธ อ้างว่า แม้จะอยู่ในคลิปจริง แต่เป็นการใช้รถส่วนตัว ไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับราชการ และไม่ได้มีการเรียกรับผลประโยชน์แต่อย่างใด ซึ่งในส่วนนี้ต้องรอผลตรวจจาก พฐ.ยืนยันไม่เกิน 1 สัปดาห์ โดยระหว่างนี้ กำลังรอประสานกับนักท่องเที่ยวจีน และบริษัททัวร์ที่เกี่ยวข้องมาให้ปากคำเพิ่มเติมด้วย

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าว ยังได้พูดคุยกับหนึ่งในตำรวจที่อยู่ในคลิป ยืนยันกับเรา ว่า เป็นคนที่อยู่ในคลิปจริง แต่ไม่ได้ไปเรียกรับเงินจากนักท่องเที่ยว เพียงแต่จะไปเที่ยวพัทยากับเพื่อนตำรวจอีกคนที่รู้จัก กับนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มนั้น เลยไปด้วยกัน

 ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก็เป็นรถส่วนตัว ที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป ราคาประมาณแสนกว่าบาท มีซื้ออุปกรณ์เพิ่มแค่ไฟไซเรน และเปลี่ยนไฟท้ายเท่านั้น โดยยอมรับว่า ตอนที่ทราบข่าวก็รู้สึกตกใจมาก แต่ก็รอพิสูจน์ตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป

ในส่วนของโทษการทำผิดวินัยร้ายแรงนั้นพล.ต.ต.เจนกมล บอกว่า มี 2 สถานด้วยกัน ก็คือ ปลดออก และ ไล่ออก ซึ่งต้องรอการรวบรวมพยานหลักฐาน และการตรวจพิสูจน์วันนี้ และจะสรุปที่ผลพิจารณาของคณะกรรมการสอบ

ซึ่งตอนนี้ทางต้นสังกัดของตำรวจผู้ถูกกล่าวหาแต่ละนาย ก็มีการย้ายให้ไปปฏิบัติหน้าที่ประจำแต่ละหน่วย ส่วนจะมีตำรวจยศสูงกว่าเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ กำลังรอสอบสวนเพิ่มเติมอยู่ ถ้าพบความเกี่ยวข้องก็ต้องดำเนินการแน่นอน

อีกประเด็นที่ต้องติดตามคือกรณีที่พบตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. มีการเอื้อประโยชน์ ในการต่อวีซ่าให้กับชาวต่างชาติ รวมถึงกลุ่มจีนเทา ซึ่งตรวจสอบพบมีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 110 คน ร่วมกันทำในเป็นขบวนการ

 คืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า มีการทยอยแจ้งข้อหากับตำรวจที่เกี่ยวข้องแล้วกว่า 100 คน และจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้

ขณะเดียวกัน ยังพบว่า พฤติการณ์ของตำรวจเหล่านี้ มีการทำความผิด ปล่อยให้คนต่างชาติใช้วีซ่านักเรียนนักศึกษา หรือวีซ่าอาสาสมัครมูลนิธิ และยังพบอีกว่า มูลนิธิที่มีการใช้ยื่นประกอบขอวีซ่า มีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง มีชื่อเป็นผู้จัดตั้งมูลนิธิ มีการปลอมแปลงเอกสารลายเซ็นรองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลอมแปลงตราประทับหน่วยงานการศึกษา เพื่อใช้ประทับรับรอง ขอวีซ่าให้กับชาวต่างชาติ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังระบุถึงกรณีที่มีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ร้องเรียนถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่า สอบสวนไม่เป็นธรรม ย้ำว่า เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ ซึ่งตัวเองก็ได้เรียนไปถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้วว่า สามารถตั้งคณะกรรมการสอบตัวเองได้ เพราะการถูกร้องเรียนเป็นเรื่องปกติ และการทำงานของตัวเอง สามารถตรวจสอบได้

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP สังคม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ