หลังจากที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์เพซบุ๊กให้เบาะแสที่อยู่ของมูลนิธิสมาคมเถื่อนที่ชื่อว่า "ส่านซีสมาคมแห่งประเทศไทย" มีชายชาวจีนชื่อว่า "หยู ซินฉี" เป็นประธานสมาคม โดยให้ตำรวจเข้าไปตรวจสอบมูลนิธิเถื่อนแห่งนี้
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ( 17 ก.พ. 2566 ) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่หมู่บ้านแห่งนี้ ตามข้อมูลของนายชูวิทย์ ตั้งอยู่ถนนจตุโชติเลียบวงแหวนตะวันออก(หมู่บ้านภัสสร) ลักษณะเป็นหมู่บ้านหรู มีระบบรักษาความปลอดภัยค่อนข้างเข้มงวด ภายในหมู่บ้านมีซอยย่อยหลายซอย
เมื่อเข้าไปถึงพื้นที่เป้าหมาย พบตำรวจชุดสืบสวนของสน.คันนายาว เฝ้าอยู่ เจ้าหน้าที่บอกว่า ขณะนี้กำลังรอหมายค้น ส่วนภายในบ้านเป้าหมายพบมีผู้พักอาศัยอยู่ในบ้านแต่ยังไม่ทราบว่าเป็นใครโดยตำรวจขอความร่วมมือให้ผู้สื่อข่าวออกไปรอบริเวณหน้าทางเข้าหมู่บ้าน นอกจากรอหมายค้นของตำรวจแล้วยังมีเจ้าหน้าที่จากกรมการปกครอง มาร่วมตรวจสอบด้วย
นายพิพัฒน์ยชญ์ วัชฤทธิ์ ผอ.ส่วนกำกับและตรวจสอบ สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง บอกว่า ได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ให้มาตรวจสอบการจัดตั้งมูลนิธิหรือสมาคมแห่งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม่มีรายชื่อมูลนิธิดังกล่าวอยู่ในสารบบของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จึงเชื่อได้ว่าน่าจะเป็นมูลนิธิเถื่อน ไม่ได้รับอนุญาตจัดตั้งอย่างถูกต้องตามกฏหมาย พร้อมยอมรับว่าไม่ทราบข้อมูลของมูลนิธิแห่งนี้มาก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การจัดตั้งมูลนิธิ หรือ สมาคมในลักษณะที่เข้าข่ายผิดกฏหมาบ ปัจจุบันมีมากแค่ไหน นายพิพัฒน์ยชญ์ บอกว่า ในปัจจุบันมีการขออนุญาตจัดตั้งมูลนิธิหรือสมาคมนับหมื่นแห่งทั่วประเทศ ตอนนี้กรมการปกครองกำลังไล่ตรวจสอบอย่างเข้มข้น ยอมรับว่า มีหลายแห่งที่ไม่ปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งตั้งแต่แรก ซึ่งกรมการปกครองก็ได้รับร้องเรียนจากประชาชนพอสมควร
สำหรับพฤติกรรมของนายหยู ซินฉี ตามที่นายชูวิทย์ให้ข้อมูล จนมีการถูกไปอภิปรายในสภาฯ นายหยู ซินฉี ได้ก่อตั้งมูลนิธิเถื่อนและใช้ตำแหน่งประธานสมาคม ไปตามงานสำคัญ ที่มีผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไปร่วมงาน หาจังหวะถ่ายรูปคู่ ที่หนักที่สุดคือการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงบิดเบือนข้อเท็จจริง หาผลประโยชน์เข้าตัวเอง