ตร.เผย 5 สินค้ายอดฮิต หลอกขายผ่านเพจปลอม แนะ 11 ข้อควรระวัง
โดยบางส่วนของเอกสารจาก ความยาวกว่า 7 หน้ากระดาษ ที่ถูกเผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย ระบุว่า เป็นเอกสาร ชี้แจงกรณีข้อเท็จริงเกี่ยวกับการขอออกหมายจับและการเพิกถอนหมายจับสมาชิกวุฒิสภา (สว.) รายหนึ่ง ที่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดและการฟอกเงิน จากการขยายผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดของ นายทุนมินลัต โดยเอกสาร ส่งถึง กรรมการตุลาการศาลยุติธรรม มี ชื่อ พ.ต.ท. นายหนึ่งซึ่งเป็นหนึ่งในตำรวจที่ร่วมทำคดี นายทุนมินลัต ลงชื่อท้ายเอกสาร
ทั้งนี้สาระสำคัญของเอกสาร เป็นการชี้แจงถึงการจับกุมนายทุนมินลัต กับพวกรวม 4 คน และให้การว่า ส.ว. คนหนึ่ง มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ระหว่างการสืบสวน ถูกนายตำรวจระดับสูง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ตัดหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับ สว.คนนี้ออกจากคดี ทำให้เชื่อว่า มีกระบวนการขัดขวางไม่ให้เอาผิด สว.
แต่เนื่องจากพยานหลักฐานชัด จึงมีการยื่นขอออกหมายจับ ส.ว.คนนี้ ต่อศาลอาญา ในวันที่ 3 ต.ค.65 ซึ่งศาลอนุมัติในช่วงเช้า แต่ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน กลับมีโทรศัพท์ตามให้ ตำรวจนำหมายจับตัวจริงและพยานหลักฐานไปที่ศาล และถูกซักถามถึงการออกหมายจับ พร้อมตำหนิที่ตำรวจขอออกหมายจับ "บุคคลสำคัญ" จนสุดท้าย มีการเพิกถอนหมายจับ ส.ว. คนดังกล่าว ขณะที่ตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำคดีถูกย้าย โดยไม่ได้สมัครใจและไม่มีความผิด
ในเอกสารยังระบุด้วยว่า เหตุที่เกิดขึ้น ถือว่า ส่งผลเสียต่อความศรัทธาของประชาชนในกระบวนการยุติธรรม และการเพิกถอนหมายจับด้วยเหตุผลที่ผู้ถูกออกหมายจับ "เป็นบุคคลสำคัญ" เป็นการทำลายหลักที่บุคคลย่อมเสมอภาคกันภายใต้กฎหมาย
พล.ต.อ. วินัย ทองสอง นายกสมาคมตำรวจ ซึ่งเห็นถึงความผิดปกติในการโยกย้ายนายตำรวจที่เกี่ยวข้องคดีนี้ และเข้ามาช่วยเหลือ ระบุว่า รายละเอียดที่ปรากฏตามเอกสารที่แชร์กัน ตรงตามข้อเท็จจริงที่เคยได้รับมา แต่ไม่ยืนยันว่า เอกสารที่หลุดออกมานั้น เป็นเอกสารจริงหรือไม่ ที่ผ่านมาต้องชมเชยตำรวจที่ทำคดีนี้ เพราะสามารถหาหลักฐาน มาประกอบได้อย่างรอบคอบ และสามารถตอบข้อสงสัยในคดีได้ทั้งหมด จนศาลอนุมัติออกหมายจับ แต่กลับมีผู้มีอิทธิพลเข้ามาพยายามเบี่ยงเบน หรือทำให้กระบวนการยุติธรรมไม่ตรงไปตรงมา ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ต้องออกมาปกป้องตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ เชื่อว่าคดีนี้ ถ้าดำเนินการอย่างถูกต้อง ไม่มีใครเข้ามาแทรกแซง สว.คนดังกล่าวคงถูกดำเนินคดีไปแล้ว
นายกสมาคมตำรวจ กล่าวต่อว่า ทางศาลได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนตัวเชื่อมั่นว่า คณะกรรมการจะมีคำตอบคำถามกับสังคมได้ แต่ยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้น กระทบต่อความเชื่อมั่น ทั้ง ตำรวจ และ ศาล อย่างมาก พร้อมเรียกร้องให้ข้าราชการตำรวจขอให้กล้าในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด โดยที่ไม่แยกว่าบุคคลนั้นจะเป็นบุคคลสำคัญหรือใหญ่โตขนาดไหน ถ้าหากพบความผิดต้องดำเนินคดีเพื่อเป็นการเรียกศรัทธาให้กับกระบวนการยุติธรรม
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP สังคม
- วิดีโอยอดนิยม
