ถอดรหัส "รอยตัดเส้นผม" ไขคดีน้องชมพู่

โดย PPTV Online

เผยแพร่

หลักฐานเส้นผมของ “น้องชมพู่” ที่พบในรถยนต์ของ “ลุงพล” กับ บนเขาภูเหล็กไฟ มีลักษณะที่เหมือนกันตรงไหนบ้าง ทำไมจึงเป็นหลักฐานสำคัญที่นำมาสู่คำตัดสินเอาผิด “ลุงพล”

วันที่ 21 ธ.ค. 2566 พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รองผู้บังคับการตำรวจกองปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งทำคดีน้องชมพู่ เปิดเผยว่า ในจุดพบศพน้องชมพู่ ตรวจพบเส้นผมตกอยู่กระจุกหนึ่ง ประมาณ 50 เส้น จึงเก็บมาตรวจสอบ พบว่าเส้นผมมีลักษณะถูกตัดด้วยของแข็งมีคม คือ ใช้มีดสับ ที่สำคัญบนเส้นผมหลายเส้นที่พบ มีรอยถูกสับ 2 ครั้ง ครั้งแรกสับไม่ขาด จึงมีการสับครั้งที่สอง ทำให้เกิดรอยที่เป็นเอกลักษณ์ แตกต่างจากเส้นผมที่หลุดร่วงเองตามธรรมชาติ

เปิดเบื้องหลัง ตร.ได้เบาะแสลุงพล-ช่วงกำลังโด่งดัง

เปิดคำพิพากษาเต็ม คุก “ลุงพล” 20 ปี คดีน้องชมพู่ ยกฟ้องป้าแต๋น

ลุงพล พีพีทีวี/เข้มข่าวค่ำ
หลักฐานคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่

เมื่อตำรวจตรวจค้นรถยนต์ของลุงพล ก็พบเส้นผม 16 เส้น และวัตถุพยานอื่น จึงนำเอาเส้นผมทั้งหมดมาคัดแยก โดยเอาผมที่หลุดร่วงตามธรรมชาติออกไป ก็เหลือเส้นผม 1 เส้นที่มีลักษณะถูกสับเหมือนกัน  และเมื่อนำไปเทียบกับเส้นผมที่พบในจุดเกิดเหตุ

จะเห็นว่าเส้นผมทั้งสองเส้น แม้จะพบคนละที่ แต่มีลักษณะเหมือนกัน ทั้งองศาของรอยตัด รอยบิ่น พื้นผิวด้านข้างมันตรงกันแทบทุกอย่าง  และไม่เฉพาะรอยตัดขาดเท่านั้นที่เหมือนกัน แต่เส้นผมทั้งสองเส้น ยังมีรอยถูกตัด 2 รอย เหมือนกันด้วย

ตำรวจจึงเชื่อว่าเส้นผมทั้งสองเส้นถูกตัดในเวลาเดียวกัน ด้วยของแข็งมีคมชนิดเดียวกัน และบ่งชี้ได้ว่า คนร้ายที่ตัดผมน้องชมพู่ กับ ลุงพลเป็นคนๆ เดียวกัน แต่ด้วยเหตุที่เส้นผมมีขนาดเล็กมาก ลุงพลจึงไม่สังเกตว่ามีเส้นผมเส้นหนึ่งตกอยู่ในรถของตัวเอง

ส่วนประเด็นเรื่องของเส้นผม ที่ทาง “ลุงพล” ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมตำรวจจึงตรวจสอบเพราะรถของเขา ทั้งที่ปกติแล้วก็มีรถของญาติคนอื่นที่น้องชมพู่เคยนั่ง และน่าจะมีผมตกอยู่ในรถเหมือนกันนั้น พ.ต.อ.เผด็จ ยืนยันว่า มีการตรวจสอบรถของกลุ่มที่เข้าข่ายน่าสงสัยทั้งหมด ไม่ได้ตรวจแค่รถลุงพลคนเดียว แต่เมื่อตรวจพิสูจน์แล้วไม่พบความผิดปกติ และที่สำคัญก่อนหน้าจะพบศพน้องชมพู่ ยังไม่เคยมีใครขึ้นไป แต่ทำไมเส้นผมของน้องถึงไปอยู่ในรถ ก็หมายความได้ว่าลุงพล คือคนร้าย

ส่วนประเด็นที่ว่า ทำไม “ลุงพล” จึงตัดผมของน้องชมพู่ ตรงนี้ตำรวจสันนิษฐานว่าอาจจะมาจากความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ นอกจากเรื่องของเส้นผมแล้ว พ.ต.อ.เผด็จ ยังบอกว่า ตัวลุงพลเอง มีไทม์ไลน์ที่น่าสงสัยหลายช่วง  หากย้อนกลับไปก่อนที่ “น้องชมพู่” จะหายตัวไป พบข้อมูลว่า น้องชมพู่ นอนเล่นดูยูทูป อยู่กับ น้องสะดิ้ง พี่สาว

ซึ่งจากหลักฐานในมือถือ พบว่ามีการเปิดดูยูทูปในช่วงระหว่าง 09.11 – 09.49 น. จึงคาดว่าน้องชมพู่น่าจะหายไปในช่วงเวลานี้

เมื่อตำรวจสืบค้นข้อมูลชาวบ้าน เพื่อดูว่าในช่วงเวลาดังกล่าว ใครทำอะไรที่ไหนบ้าง พบว่าในจำนวนคนใกล้ชิด ที่เข้าข่ายสงสัยมี “ลุงพล” เพียงคนเดียวที่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเวลาเกิดเหตุนั้น ตัวเองอยู่ที่ไหน  

มีแต่เพียงคำกล่าวอ้างว่า ไปรับพระช่วงเวลา 09.00 – 10.00 น. หากตรวจสอบระยะทางจากบ้านของลุงพลไปถึงวัด ระยะทางห่างกันเพียง 1 กิโลเมตร  ซึ่งก็ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 5 นาทีเท่านั้น  จึงเกิดคำถามว่า แล้วในช่วงเวลาที่เหลือ “ลุงพล” ไปไหน

ซึ่งในประเด็นนี้ ก็มีพยาน 2 คน ที่ออกมาเปิดเผยว่า เห็นลุงพลในสวนยางพารา ใกล้บ้านน้องชมพู่ ในช่วงประมาณ 9 นาฬิกาเศษ ซึ่งไทม์ไลน์ก็สอดคล้องกับช่วงที่น้องหายไป

และอีกจุดที่ พ.ต.อ.เผด็จ บอกว่า พบไทม์ไลน์ของ “ลุงพล” หายไปแบบไม่สมเหตุสมผลก็คือ หลังจากที่ชาวบ้านรู้แล้วว่า “น้องชมพู่” หายไป  และกำลังช่วยกันตามหา

พบว่า “ลุงพล” แยกตัวและหายไปในช่วงเวลาประมาณ 14.00-16.00 น. โดยตำรวจเชื่อว่า “ลุงพล” ขึ้นไปบนเขา เพราะขากลับลงมามีพยานเห็นว่า “ลุงพล” ลงจากเขามาคนเดียว ซึ่งทั้ง 2 ช่วงเวลาที่ลุงพลหายไปนั้น ไม่สามารถยืนยันจุดที่อยู่ได้ชัดเจน.

โตโยต้า เตรียมหยุดขาย-เรียกคืนรถยนต์ 2 รุ่น ในไทยหลังพบความผิดปกติใหม่

พม.เสนอครม.เคาะ 4 แพ็กเกจของขวัญปีใหม่คนพิการ-ผู้สูงอายุ

กางปฏิทินจ่ายเงินเดือนข้าราชการ ค่าจ้างลูกจ้างประจำ บำนาญ ปี 2566

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ