9 พ.ย. 67 นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ทนายความ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "ขี้สงสาร" ระบุว่า ผมน่าจะมีจุดอ่อนอยู่เรื่องหนึ่ง คือ ขี้สงสาร เห็นใครทุกข์ลำบากไม่ว่าเขาเป็นคนดีหรือไม่ดี ผมสงสารไปหมด
นายนิพิฏฐ์ ระบุบางช่วงบางตอนว่า ด้วยความขี้สงสารของผม เห็นภาพ "ทนายตั้ม" โอบกอดภรรยาและจูบที่หน้าผากภรรยา ผมก็สะท้อนใจ ผมบ่นกับภรรยาว่า สงสารเขา
ปกติคนเป็นสามีต้องปกป้องภรรยา เขาคงปวดใจที่ปกป้องภรรยาไม่ได้ ทำให้ภรรยาต้องมารับวิบากด้วย จากนั้นภรรยาผมสวนขึ้นมาว่า ดีนะขนาดอยู่ในรถควบคุมผู้ต้องหา เขายังจูบหน้าผากภรรยา แต่เธอไม่เคยจูบหน้าผากฉันนานแล้ว เป็นงั้นไปอีก ยิ่งอ่านข่าวว่า เขาไม่ขอประกันตัวเองแต่ขอให้ภรรยาได้ประกันตัว ผมก็ยิ่งเห็นใจเขาเข้าไปอีก ประกันออกมาแล้วผิดเงื่อนไข ค่อยถอนประกันก็ได้
นอกจากนี้นายนิพิฎฐ์ ยังฝากถึงเพื่อนทนายตั้มว่า จะช่วยหรือไม่ช่วยก็ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและรูปคดี แต่การให้กำลังใจ ให้เขาเข้มแข็ง ไม่ผิดอะไร เขาเรียกว่าเพื่อนแท้มิใช่เพื่อนกิน จำหลักไว้นะครับผู้ต้องหาหรือจำเลย ไม่ว่าเขาผิดหรือถูก เขา "จำเป็น" ต้องมีทนายความเป็นที่ปรึกษา ผิด-ถูก ก็ว่าไปตามข้อเท็จจริง เหมือนผู้ป่วยไม่ว่าเป็นโจรหรือพระ หมอก็ต้องรักษาอาการเจ็บป่วยให้
ช่วงท้าย นายนิพิฏฐ์ ได้แนะนำว่า หากเพื่อนทนายความคนไหนไปเยี่ยม ขอให้ซื้อหนังสือปรัชญา สโตอิก (Stoicism) เล่มดี ๆ ไปฝากทนายตั้มสักเล่มสองเล่ม เพื่อให้ทนายตั้มอยู่ได้โดยมีหลักคิด ที่ไม่ทุกข์จนเกินไป และหากใครไม่ชอบใจข้อความที่ตนเองเขียนก็ขอให้เมตตาตนเองด้วย เพราะ ตอนนี้ตนเองก็เหมือนผลไม้ที่หมดรสฝาด หมดรสเปรี้ยวแล้ว มีแต่รสหวานที่อยากให้เพื่อนร่วมโลกอยู่กันอย่างมีความสุขไม่เบียดเบียนกันเท่านั้น