จากกรณีศาลอาญารัชดาภิเษก ฝากขังผัดแรก โดยชั้นพนักงานสอบสวนได้มีการคัดค้านการประกันตัวชั่วคราว นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” และ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยา เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ประกอบกับต้องสอบสวนพยานอีก 10 ปาก อาจเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนได้ จึงให้ยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราวนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 พ.ย. 67 นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยว่า ขั้นตอนหลังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวทนายตั้มและภรรยามายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและทัณฑสถานหญิงกลาง ทั้งคู่ต้องทำประวัติผู้ต้องขังใหม่
อาทิ ตรวจสุขภาพร่างกาย พิมพ์ลายนิ้วมือ จากนั้นเข้าสู่กระบวนการอยู่แดนกักโรค 5 วันตามมาตรการป้องกันโควิด-19 และจะมีการปฐมนิเทศอีก 1 สัปดาห์ ซึ่งอยู่ในแดนกักโรคตามเดิม แต่มีการแบ่งโซนออกจากกัน ก่อนจะพิจารณาส่งผู้ต้องหาไปควบคุมต่อยังแดนปกติภายในเรือนจำต่อไป
ส่วนเรื่องความกังวลของนายษิทรา ที่หากครบกำหนดอยู่แดนกักโรคแล้วจะต้องย้ายส่งต่อแดนใด เพราะอาจเจอคู่กรณีเป็นกลุ่ม 18 บอสดิไอคอน ตรงนี้จะมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์พิจารณาตามความเหมาะสม และขณะนี้กลุ่มบอส ชาย 11 คน ได้แยกแดนเป็นที่เรียบร้อย อยู่แดนละ 2 - 3 คนกระจายกันไป แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ นอกจากนี้ ยังต้องตรวจสอบคู่กรณีของนายษิทราในคดีอื่น ๆ ด้วยเพื่อความปลอดภัย
ส่วนเมนูอาหารมื้อเย็นที่ เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ เป็นข้าวสวย ไก่ต้มขมิ้น และไข่ต้ม ส่วนเช้านี้ เป็นข้าวสวย แกงจืดวุ้นเส้น และไข่เจียว ส่วนทัณฑสถานหญิงกลาง เมื่อวานนี้ เป็นข้าวสวย หลนปลาร้าผักสด และ ผัดพริกแกงผักบุ้งลูกชิ้น ส่วนเมนูเช้านี้ เป็น ข้าวต้ม ผัดไชโป้วใส่ไข่
นางกนกวรรณ เผยว่า เบื้องต้นทั้งสองคนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี มีความเครียดเป็นปกติของผู้ต้องขังใหม่ทุกคน แต่ไม่มีอะไรที่จะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เมื่อคืนที่ผ่านมา ทั้งคู่ก็ยังสามารถนอนหลับได้ แต่ก็อาจมีตื่นบ้างเป็นบางเวลา ซึ่งก็ยังถือว่าเป็นเรื่องปกติของการเข้าเรือนจำในช่วงแรก ๆ และต้องใช้ระยะเวลาในการปรับตัว
โดยทางกรมราชทัณฑ์ก็จะจัดแพทย์และนักจิตวิทยาคอยให้คำปรึกษาแนะนำทั้งในเรื่องสุขภาพกายและสุขภาพจิตตามกระบวนการต่อไป