เป็นกรณีที่สืบเนื่องมายาวนานกว่า 7 ปี สำหรับ “คดีหวย 30 ล้าน” ที่มีคู่กรณีระหว่าง นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ “ครูปรีชา” กับ “หมวดจรูญ” โดยครูปรีชายังต้องเผชิญหน้ากับ “ทนายตั้ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความฝั่งคู่กรณีในขณะนั้นด้วย
กระทั่งถึงช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2567 ที่นายษิทรา พร้อมด้วยภรรยา ถูกออกหมายจับ และถูกควบคุมตัวมายังกองปราบปรามในข้อหาฉ้อโกงและอื่น ๆ นั้น ครูปรีชา ก็ออกมากล่าวว่า
หลังจากเห็นข่าว ก็อยากจะเดินทางไปที่กองปราบปรามด้วยตัวเอง ว่าทนายตั้ม โดนเหมือนกับที่ตนเองเคยโดนเมื่อช่วงคดีหวย 30 ล้านหรือไม่
นอกจากนี้ ในวันที่ 8 พฤศจิกายน ครูปรีชา ยังได้เดินทางมายังกองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมหิ้วข้าวผัด และ โอเลี้ยง มาฝากทนายตั้มด้วย ทำให้สังคมให้ความสนใจเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว
ครูปรีชา ใคร่ครวญ เปิดเผยผ่านรายการคุยข้ามช็อต Exclusive Talk สถานีโทรทัศน์ PPTV เกี่ยวกับกรณีที่ไปเยี่ยมทนายตั้ม รวมถึงกรณีคดีหวย 30 ล้านเอาไว้ด้วย
เลือกตั้งสหรัฐฯ 2024: เชื่อ “ทรัมป์” เปิดทางอิสราเอลทำสงครามอิหร่าน
"รถถัง" เผยไปเตะบอลไม่เกี่ยวทำตกตาชั่ง เสียแชมป์โลก
สรุปเหตุการณ์ "รถถัง" เสียแชมป์โลก เพราะตกตาชั่ง
ครูปรีชาเยี่ยมทนายตั้ม เป็นเรื่องบังเอิญ
ครูปรีชา กล่าวว่า ตนเดินทางมาจาก จ.กาญจนบุรี เพื่อมาติดตามคดีที่ตนฟ้องทนายตั้ม และหมวดจรูญ เพื่อร้องขอความเป็นธรรม สมัยปี 2561 ที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ณ ขณะนั้น เพราะเอกสารที่อยู่ในสำนวนนี้ เป็นเอกสารที่มีรายละเอียดเป็นสัญญาณโทรศัพท์ของตน แต่กลับไปตกอยู่ในมือของทนายตั้ม และหมวดจรูญ
ซึ่งด้วยความที่เป็นเอกสารของตน แต่ตนกลับไปขอจากผู้ให้บริการไม่ได้ เพราะยังไม่มีหมายศาลมา ตนจึงตั้งคำถามว่าเอกสารที่ทนายตั้มและหมวดจรูญได้มานั้นไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะข้อมูลที่พวกเขาได้ไปนั้นก็ถือว่าได้เปรียบ
ต่อมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนให้ความเป็นธรรมในเรื่องนี้ตั้งแต่ช่วงปี 2564 และต่อมาระหว่างทางก็ได้เปลี่ยนกรรมการไปเรื่อย ๆ ย้ายไปบ้าง เกษียณไปบ้าง ส่งสำนวนต่อมาเรื่อย ๆ จนทุกวันนี้ยังไม่มีความคืบหน้า
กระทั่งวันที่ 8 พฤศจิกายน ก็ได้รับโทรศัพท์จากพนักงานสอบสวนว่านัดให้ครูปรีชามารับสำนวนและสอบสวนให้ข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้นัดตนมา 2 - 3 สัปดาห์แล้ว แต่ตนเลื่อนมาเรื่อย ๆ เนื่องจากติดการค้าขาย จนกระทั่งมาถึงวันนี้พอดี มองว่าที่เรียกมาช่วงเดียวกันกับการที่ทนายตั้มโดนจับกุมนั้นเป็นเรื่องบังเอิญ
ครูปรีชา กล่าวว่า ตนต้องไปฟังคำพิพากษาที่หมวดจรูญฟ้องกลับช่วงเดือนธันวาคมนี้ ในส่วนที่ตนไปดำเนินคดีกับหมวดจรูญ ทนายตั้ม ร้องเจ้าหน้าที่สอบสวนว่าทั้งสองคนได้เอกสารของตนไปได้อย่างไรนั้น วันนี้พนักงานสอบสวนเรียกตนมาสอบปากคำเพิ่มเติม แต่เนื่องด้วยวันนี้นักข่าวเยอะ ประกอบกับพนักงานสอบสวนไม่ว่าง จึงมีการเลื่อนออกไปเป็นสัปดาห์หน้า
เผยความสัมพันธ์ ครูปรีชา-ทนายตั้ม ที่มาวลี "ไอ้ตั้มมันร้าย"
ครูปรีชา กล่าวว่า โดยส่วนตัวเคยเจอกับทนายตั้มครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 เพราะขณะนั้นทนายตั้มเชิญไปนั่งกินกาแฟ และพูดคุยไกล่เกลี่ยเรื่องที่หมวดจรูญฟ้องกลับตนและพยาน 10 ปาก เรียกเงิน 10 ล้านบาท ซึ่งทนายตั้มมีการเอ่ยว่า “ครู ถ้าผมทำคดีนี้ให้ครู ครูชนะไปนานแล้ว คดีครูชัดเจน แต่ครูเล่นคดีผิด ฉะนั้นถ้าให้ผมมาทำคดีตั้งแต่แรกก็ชนะไปแล้ว”
ความรู้สึกส่วนตัวรู้สึกว่าเป็นการมาเยี่ยมน้อง ให้กำลังใจในส่วนของเขา เป็นการแสดงความถึงความมีน้ำใจที่มีต่อเขา เราพอรู้จักเขาบ้าง ถือเป็นกัลยาณมิตร เพราะช่วยใกล่เกลี่ยคดีให้เรา ในสิ่งที่เขาไม่ดีก็ส่วนของเขา แต่เราก็มองว่าเขามีน้ำใจพอสมควรในขณะนั้น
ครูปรีชา กล่าวต่อว่า ที่ตนเอ่ยว่า “ไอ้ตั้มมันร้าย” เพราะเราเห็นตลอด 7 ปีที่ผ่านมา จะรู้ว่าพฤติกรรมของเขาไม่ใช่ทนายที่มีจริยธรรม มรรยาทของทนาย เช่นเขาไปหาครูก่อนทำคดีให้ลุงจรูญ เขาเคยบอกว่าเป็น DSI เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นคนที่จะมาเป็นสื่อกลางระหว่างครูปรีชาและลุงจรูญ เหมือนเข้ามาหวังดีช่วยเหลือ
ด้วยความที่เราเป็นคนซื่อ เขามาหาในตอนที่เราสอนอยู่ ตอนนั้นยังไม่รู้จักเขา มาบอกเราว่า ถ้าเรามีลายสั่งเลข มีรูปลอตเตอรี่ มีสิ่งต่าง ๆ จริงที่ยืนยันว่าลอตเตอรี่เป็นของเรา ให้เอามาให้ยืนยัน จะให้หมวดจรูญเอาเงินมาคืน ตอนนั้นเราก็ยังไม่รู้จักเขา เขาก็ยังไม่ได้ดัง
หลังจากที่ไปเอาหลักฐานให้เขาดู เขาก็พยายามที่จะเลื่อนดูโทรศัพท์ พอเขาเลื่อนโทรศัพท์ก็จะมีลักษณะแอบถ่ายคลิปให้อีกคนถ่าย ตนเลยดึงโทรศัพท์กลับ ซึ่งตนเอ๊ะใจ หลังจากนั้นทนายตั้มก็ไปโพสต์เฟซบุ๊กว่าตนไม่มีหลักฐานใด ๆ ซึ่งก็มารู้ตัวภายหลังว่าเขาเป็นทนายฝั่งตรงข้าม
นอกจากนี้ ทนายตั้มยังบอกว่าคดีฟ้องตรงต่อศาลตนสามารถเจรจาไกล่เกลี่ยได้ ซึ่งแม่ค้าทั้งหลายยังถูกข่มขู่ด้วยว่าใครเข้าข้างครูปรีชามีสิทธิ์ติดคุก และช่วงที่เจอในศาลครั้งหนึ่ง เขาเรียกพยานของเราไปแล้วบอกว่าถ้าไม่อยากโดนฟ้องให้ไปขอโทษลุงจรูญด้านหน้า แล้วจะถอนฟ้องให้ ซึ่งบางคนก็เห็นเราไปซื้อจริง แต่เวลาผ่านไปนานแล้ว จึงยอมไปขอโทษ
ซึ่งสิ่งนี้ตนมองว่าเป็นการใช้วิธีการหลอกล่อให้คนกลับคำ เพื่อให้ได้ชนะคดีโดยไม่นึกถึงคุณธรรม
ประกอบกับขณะที่ตนขอให้นำซองพลาสติกที่ใส่ลอตเตอรี่ มีลายนิ้วมือของตนไปตรวจดีเอ็นเอด้วย เจ้าหน้าที่กลับบอกว่าหายไปแล้ว เนื่องจากลิ้นชักถูกค้น ตนจึงไปแจ้งความที่โรงพัก จากนั้นเรื่องก็เงียบตั้งแต่ปี 2561 จนถึงทุกวันนี้ ยังจับคนร้ายไม่ได้ ซึ่งเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้เราไม่สามารถเรียกสิทธิ์ความเป็นเจ้าของลอตเตอรี่ได้
"ทนายรณณรงค์" เปิดเบื้องหลัง เคยเตือนทนายตั้ม กลับโดนด่า
ด้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ร่วมให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีนี้ไว้ด้วยว่า ส่วนตัวยังไม่ไปเยี่ยมทนายตั้ม ถ้าเราไปในฐานะทนายความจะไปเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ถ้าไปในฐานะเพื่อนต้องขออนุญาตกรมราชทัณฑ์ก่อน ไม่ใช่ว่าเดินไปปุ๊บเยี่ยมได้ปั๊บเลย
ส่วนตัวยังรักทนายตั้ม แต่ในส่วนของคดีความก็ต้องไปต่อสู้กันตามกฎหมาย เขาก็น่าจะรู้เต็มอกว่าเหตุใดจึงไม่ได้ประกันตัว ตนก็เคยบอกเปรย ๆ ว่าอะไรที่ต้องคืนเขาก็รีบคืน และทนายตั้มไม่เคยมาปรึกษา ถ้าเรื่องดี ๆ ยังคุยกันได้ แต่เรื่องไม่ดีใครจะอยากมาปรึกษาคนอื่น
นายรณณรงค์ กล่าวต่อว่า ทนายตั้มชวนไปนู่นนี่อยู่เรื่อย ๆ แต่ส่วนใหญ่ตนอยู่บ้านมากขึ้น จึงไม่ค่อยได้ใกล้ชิดหรือพบกับทนายตั้มบ่อยเท่าไรนัก
ส่วนตัวมองว่า คนที่มีคอนเนกชันเยอะ รู้จักเจ้าหน้าที่ที่จะพาข้ามได้ อาจมีความกังวลว่าจะพาข้ามหรือไม่ ซึ่งถ้าตำรวจไม่พาข้าม ตำรวจก็โดนด่า โดยพฤติการณ์ของทนายตั้มที่ไม่ไปกลางคืนหรือไปทางอื่น เพราะจะมีพฤติการณ์เป็นพิรุธ ตำรวจติดตามเขามาอย่างยาวนานแล้ว
นายรณณรงค์ กล่าวต่อว่า กรณีที่ลักษณะนิสัยของทนายตั้มที่ไม่ยอมตายคนเดียวนั้น ตนมองว่าเราต้องไปดูว่าเขามีความผิดมูลฐานตามกฎหมายฟอกเงิน ก็จะต้องไปดูเส้นเงินว่าออกไปทางไหนอย่างไรบ้าง ใครมีธุรกรรมเกี่ยวข้อง และเป็นธุรกรรมที่ผิดปกติ ก็ต้องถูกตรวจสอบเป็นธรรมดา เพราะฉะนั้นใครมีเส้นเงินเชื่อมโยงก็ต้องมาอธิบาย ชี้แจง ซึ่งถ้าใครมีความเกี่ยวข้องแค่แชร์ค่าอาหาร ค่าไวน์กัน ไม่มีปัญหาอย่าอยู่แล้ว
ตนเชื่อว่าขณะนี้เทวดาประจำตัวทนายตั้มหนีหายไปหมดแล้ว เคยเตือนไปแล้ว แต่กลับโดนด่ากลับด้วย เชื่อว่าถ้าตอนนั้นทนายตั้มตัดสินใจคืน ยอมคืนเงิน ยอมรับ ขอโทษ ก็อาจมีเหตุบรรเทาโทษยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวได้บ้าง เพื่อไปหาเงินมาคืนผู้เสียหายเพิ่ม สถานการณ์อาจไม่มาถึงจุดที่ตำรวจไล่จับที่ จ.ฉะเชิงเทรา