ชื่อของ "ษิทรา เบี้ยบังเกิด" หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ทนายตั้ม" เชื่อว่าหลายคนย่อมจะคุ้นหูอย่างแน่นอน เพราะเป็นทนายที่ออกหน้าสื่อบ่อย และมักทำคดีใหญ่ ๆ มากมาย และล่าสุดชื่อของเขาอยู่ในความสนใจอีกครั้ง หลังแถลงข่าวอ้างการเปิดโปงบัญชีม้าและการจ่ายส่วยที่มีความเชื่อมโยงถึงวงการสีกากี
ล่าสุด (7พ.ย.67) ตำรวจออกหมายจับ "ทนายตั้ม" คดีฉ้อโกงเจ๊อ้อย จำนวนเงิน 71 ล้านบาท
PPTV พาไปรู้จัก "ทนายตั้ม" ว่าเขาเป็นใคร ?
จากครอบครัวค้าขายสู่อาชีพทนาย
ตั้ม – นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เกิดที่อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ครอบครัวทำอาชีพค้าขาย จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา พุทธมณฑล โดยจบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ และคณะนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และจบการศึกษาระดับปริญญาโท จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกริก
โดยปัจจุบันทนายตั้มเป็นทนายมาแล้ว 20 ปี เป็นเลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ และได้ใช้ชีวิตรักกับเดือน - นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ซึ่งทั้งคู่ครองรักกันมาเกือบ 30 ปีแล้ว
Facebook / ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ
ทนายตั้ม ษิทรา และ เดือน ปทิตตา

รวมทีม "ทนายประชาชน"
ทนายตั้ม เริ่มอาชีพทนายมมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 ซึ่งหากนับมาถึงปัจจุบันถือว่าทนายตั้มได้ทำงานว่าความมาแล้วถึง 20 ปี ซึ่งเขาเริ่มเข้าวงการทนายด้วยการให้คำปรึกษาช่วยเหลือทางกฏหมายให้กับประชาชนที่ไม่มีความรู้ด้านกฏหมายฟรี ตามแหล่งชุมชน งานบุญ และตามโรงเรียนต่าง ๆ ก่อนจะมีการรวมทีมกันในชื่อ “ทีมงานทนายประชาชน”
นอกจากนั้น ทางทีมงานทนายประชาชนยังมีการจัดโครงการ “พี่สอนน้อง ให้เป็นคนดีของสังคม” ตามโรงเรียนต่าง ๆ อีกด้วย โดยจุดประสงค์ของการจัดโครงการ คือ อยากปลุกฝั่งให้เยาวชนมีความรู้ในด้านกฎหมาย มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีการสอนเรื่องใกล้ตัวอย่างเช่น ยาเสพติด รักในวัยเรียน การใช้โซเชียลมีเดียต่าง ๆ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้เยาวชนสามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้ ซึ่งมีการจัดโครงการนี้ต่อเนื่องมาถึง 7 ปี
ต่อมาโครงการนี้ก็ได้เข้าตาภาครัฐ จึงทำให้โครงการได้รับการสนับสนุนมากมายจากทั้ง กระทรวงยุติธรรม กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และหน่วยงานของจังหวัดต่าง ๆ อีกด้วย และมีการพัฒนาจากโครงการเล็ก ๆ กลายมาเป็น “มูลนิธิทีมงานทนายประชาชนเพื่อเยาวชนและสังคม” ในปีพ.ศ.2559
ซึ่งนอกจากการเรียนด้านกฎหมายมาโดยตรงแล้ว ทนายตั้มยังมีหัวทางด้านธุรกิจอีกด้วย โดยตัวของทนายตั้มเป็นกรรมการบริษัทถึง 4 แห่ง ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทเดียวที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ คือ บริษัท ษิทรา ลอว์เฟิร์ม จำกัด ประกอบธุรกิจด้านกิจกรรมทางกฎหมาย ส่วนบริษัทอีก 3 แห่งได้เลิกกิจการไปแล้ว
Facebook / ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ
ทนายตั้ม – ษิทรา
Facebook / ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ
ทนายตั้ม – ษิทรา


ผลงานเด่นของทนายตั้ม
หลังจากเริ่มประกอบอาชีพเป็นทนายได้ประมาณ 10 ปี ทนายตั้มก็เริ่มปรากฏตัวต่อหน้าสื่อด้วยการว่าความให้คดีดัง ๆ มากมาย ยกตัวอย่างเช่น
- ปี 2556 คดีน้องภัทร สาวโรงงานที่ตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน ถูกรถสิบล้อชนแล้วหนีจนทำให้ร่างกายพิการ
- ปี 2557 คดีน้องน้องจีโน่ ถูกวัยรุ่นใช้น้ำมันราดแล้วจุดไฟเผาก่อนหลบหนี จนถึงแก่ความตาย
- ปี 2560 คดีดังอย่าง “หวย 30 ล้าน” โดยทนายตั้มให้การช่วยเหลือ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ ข้าราชการบำนาญ ที่ถูกนายปรีชา ใคร่ครวญ ข้าราชการครู ยื่นฟ้องข้อหายักยอกทรัพย์ ในคดีอ้างสิทธิเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาล มูลค่า 30 ล้านบาท ซึ่งภายหลังหมวดจรูยได้ชนะในคดีดังกล่าว
- ปี 2564 คดีดังที่กลายเป็นข่าวไปทั้งโลกออนไลน์คดี “น้องชมพู่” ซึ่งทนายตั้มเป็นคนว่าความให้กับนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ผู้ต้องหาในคดี “น้องชมพู่” เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่หายตัวไปจากบ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ซึ่งภายหลังถูกพบว่า เป็นศพอยู่บริเวณภูเหล็กไฟ
- ปี 2565 อีกหนึ่งคดีที่ร้อนแรงไปทั่วโลกออนไลน์กับการเสียชีวิตของดาราสาว “แตงโม นิดา” ซึ่งทนายตั้มเป็นคนช่วยสืบสาเหตุคดีการเสียชีวิตในครั้งนี้
- ปี 2565 เปิดประเด็นและเป็นทนายผู้เสียหาย กรณีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถูกดำเนินคดีในข้อหากระทำอนาจาร
- ปี 2566 ร่วมเป็นทนาย และเปิดเผยปมชู้สาวกรณีอดีตรองนายกรัฐมนตรี มีความสัมพันธ์กับภรรยาผู้อื่น
- ปี 2567 คดีล่าสุดที่กำลังเป็นข่าวอยู่ขณะนี้ โดยทนายตั้มได้ออกมาเปิดโปงเรื่องส่วยตำรวจและบัญชีม้าที่มีความเชื่อมโยงกับตำรวจระดับสูง ซึ่งตอนนี้คดีกำลังอยู่ระหว่างการสืบสวน (ถึงวันที่ 26 มี.ค.67)