กรณีที่ นางจตุพร อุบลเลิศ หรือ “เจ๊อ้อย” เศรษฐีนีชาวไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศส แจ้งความเอาผิดกับ “ทนายตั้ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ในคดีพิพาทเงิน 71 ล้าน กลายเป็นที่จับตาของสังคม ซึ่งเมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา เจ๊อ๊อย ก็ได้เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่เป็นวันที่ 4 แล้ว
ล่าสุด 7 พ.ย. 67 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยกับ PPTV ในรายการเปิดโต๊ะข่าว ถึงรายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่องนี้
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ขณะนี้ข้อมูลของคดีนิ่งแล้ว ความเสียหาย 39 ล้านบาทเป็นเพียงการเล่นละครลิงไปหลอกเจ๊อ้อย จริง ๆ ทุกคนรู้หมดแล้วว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีของสาลินี (ภรรยาของเพื่อนทนายตั้ม) จำนวน 39 ล้านบาท และมีอีกข้อมูลหนึ่งคือ หลังจากที่หลอกเจ๊อ้อยได้แล้ว 39 ล้าน ก็ให้ “มี่” เป็นคนไปถอนเงินให้
จากนั้น น้องมี่ก็ให้เงินกับทนายตั้ม 29 ล้านบาท ให้นายนุ 10 ล้านบาท เป็นเงินสด และมีการถ่ายภาพขณะมอบเงินให้ด้วย หลังจากได้เงินแล้ว ทั้งสองคนก็ไปฉลองกันที่ชขายทะเลภาคตะวันออก โดยน้อง “มี่” เป็นเหมือนคนที่ใช้งานคล้าย “เบียร์” คือเป็นตัวเดินงาน ตัวประสานเรื่องต่าง ๆ ซึ่งมี่เป็นหนึ่งในตัวละครที่เข้ามาแทนเบียร์ ซึ่งเดี๋ยวจะมีอีกหลายเรื่องตามมา ขณะนี้กำลังตรวจสอบอยู่
ซึ่งตนขอยืนยันว่าหลักฐานสำคัญมีรูปถ่าย ไม่ใช่แค่คำบอกเล่า มีการส่งมอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และขณะนี้น้องที่เดินทางไปให้การยืนยันกับพนักงานสอบสวนแล้ว
คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” ถึงกองปราบ หลังโดนหมายจับ “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน”
เลือกตั้งสหรัฐฯ 2024: 7 นโยบาย “ทรัมป์” สัญญาทำทันทีที่ได้เป็นประธานาธิบดี
วิเคราะห์บอล ! ยูโรป้าลีก แมนยู พบ พีเอโอเค 7 พ.ย.67
ในกรณีค่าออกแบบโรงแรม 9 ล้านบาท นายอัจฉริยะ กล่าวว่า น้องมี่กับทนายตั้ม ได้ไปดีลกับบริษัทสถาปนิกออกแบบ และมีการจ่ายเงินจากทนายตั้มไปยังบริษัทสถาปนิก 3.5 ล้าน แต่ไปเรียกเก็บกับเจ๊อ้อย 9 ล้านบาท กินเขาอีก 5.5 ล้าน เราต้องอย่าลืมว่าทนายตั้มเป็นที่ปรึกษากฎหมาย เขาเป็นลูกความคุณ คุณก็ต้องแจ้งเขาตรง ๆ ว่ามีการคิดค่าดำเนินการ จะอ้างว่าเป็นค่าจ้างไม่ได้ แต่นี่คุณจ่ายไปจริง ๆ 3.5 ล้าน แต่ไปเรียกเก็บเขา 9 ล้าน เรื่องนี่ก็มีน้องมี่เข้าไปเกี่ยวข้องอีก มีหลักฐานการจ่ายเงินเรียบร้อย และบริษัทสถาปนิกก็ยืนยันแล้ว
ส่วนอีกกรณีที่ยังไม่มีใครเปิดเผย คือ เรื่องบ้านส่วนตัวแฟนเจ๊อ้อย มีการเก็บเงินเจ๊อ้อย 3 ล้านบาท ทีนี้ได้มีการนำชื่อของบริษัทอื่นมาสวม คือ ครั้งแรกที่เสนอไปเป็นชื่อบริษัทนาย ก ต่อมาก็ไปเปลี่ยนหัวเป็นชื่อของบริษัทอื่นมาสวม และสุดท้ายเป็นบริษัทของปีเตอร์ ผู้เป็นคนรักของน้องมี่ คำถามคือกรณีแบบนี้ถือเป็นการฉ้อฉลหรือไม่ มีการปลอมแปลงอีกสารหรือไม่ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงการตรวจสอบ ยังไม่ยืนยัน 100%
นายอัจฉริยะ เสริมว่า ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้น ตนเชื่อว่ายังมีการจ่ายเงินเดือนให้ทนายตั้มอยู่ 300,000 บาท ซึ่งถ้ายังจ่ายอยู่ แล้วอยากกินหัวคิว ก็ทำได้ แต่ต้องบอกเจ๊อ้อยตรง ๆ ว่า มีค่าดำเนินการของทีมงานนะ กี่เปอร์เซ็นต์ก็ว่าไป แฟร์ ๆ ไม่ผิด แต่นี่ไม่ได้บอกเขา เอาเงินส่วนตัวไปจ่าย 3.5 ล้าน แต่ไปเรียกเก็บเจ๊อ้อย 9 ล้าน แบบนี่คือการหลอกลวงฉ้อโกง
ส่วนการสอบสวนก็ต้องใช้เวลาในการรวบรวมหลักฐานมา เช่น ต้องไปขอติดต่อ Statement กับธนาคาร ไปสอบคนถอนเงิน หรือสอบน้องมี่ ให้ยืนยันได้ว่าเบิกแล้วนำไปให้ใครที่ไหน ไม่ใช่แค่ตั้งข้อสงสัยอย่างเดียว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย อย่างละเอียด และรอบคอบ