วันที่ 23 มี.ค. 2568 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) สั่งการกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) จับกุม น.ส.พิยดา อายุ 20 ปี สัญชาติไทย ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงรายที่ จ 109/2568 “ฉ้อโกงโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ
เปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมิได้มีเจตนาเพื่อตนหรือกิจการที่ตนเกี่ยวข้องทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรจะรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่น”
สถานที่จับกุม บริเวณหน้าร้านคาราโอเกะ ต.ท่าบุญมี อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี สืบเนื่องจากเจ้าหน้าาที่ ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล.สืบทราบว่า น.ส.พิยดา ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงราย ที่ จ 109/2568 ได้ทำงานมาอยู่ในพื้นที่ จ.ชลบุรี ที่ร้านคาราโอเกะ ต.ท่าบุญมี ชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าว พบน.ส.พิยดา ซึ่งเป็นบุคคล ตรงตามหมายจับ
จากการสืบหาข้อมูลพบว่าเป็นเครือข่ายของแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่มีการชักชวนกันข้ามไปยัง เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา เพื่อเปิดบัญชีที่มีไว้สำหรับโทรหลอกลวงเหยื่อให้โอนเงินเข้ามา ผู้ต้องหาให้การว่าได้รับค่าจ้างเปิดบัญชีเป็นเงิน 16,000 บาท หากบัญชีไหนถูกอายัดก็จะโดนส่งกลับไทยทันที
ทั้งนี้พบว่ามีผู้เสียหายได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.เมืองเชียงราย จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทำการบันทึกจับกุมสถานีตำรวจทางหลวงชลบุรีและนำตัวส่ง พงส.สภ.เมืองเชียงราย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การว่าสมัครงานผ่านเฟซบุ๊ก นายหน้าพาตนข้ามฝั่งไปกัมพูชาไปทำงานเป็น scammer และเปิดบัญชีให้กลุ่ม call center หลังจากนั้น มีเงินเข้าบัญชี จากการหลอกลวงคนไทย ของกลุ่ม call center ฝั่ง กัมพูชา ต่อมาบัญชีถูกอายัดนายหน้าจึงได้นำตัวส่งกลับมายังไทย พบว่าถูกดำเนินคดีหลายที่ และถูกออกหมายจับที่เชียงราย จึงหนีมาซ่อนตัวทำงานที่คาราโอเกะ จ.ชลบุรี ก่อนถูกจับกุม