จากกรณีเมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา เกิดเหตุบ้านเรือนที่ติดลำน้ำสาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ถูกน้ำจากแม่น้ำสายทะลักเข้าท่วม สร้างความตื่นตกใจให้กับชาวบ้าน โดยเฉพาะประชาชนบริเวณบ้านถ้ำผาจม ตลาดสายลมจอย บ้านเกาะทราย บ้านไม้ลุงขน และบ้านเหมืองแดง ต่างต้องเก็บค่ามีค่าขึ้นที่สูง และย้ายรถยนต์ที่อยู่ในบ้าน ไปไว้ยังที่สูง ทำให้จราจรติดขัด บางพื้นที่ประชาชนแตกตื่น
ล่าสุด นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย พลตรี จักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 และนายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่สาย พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์น้ำ พบว่า น้ำเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งตลาดสายลมจอย ชุมชนไม้ลุงขน และพื้นที่ใกล้เคียง กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า สาเหตุของน้ำหลากครั้งนี้เกิดจากฝนตกหนักในฝั่งประเทศเมียนมา มีปริมาณกว่า 69 มิลลิเมตร ประกอบกับตะกอนดินที่ทับถมในลำน้ำสายจากช่วงน้ำหลากที่ผ่านมา ทำให้ลำน้ำมีพื้นที่รับน้ำน้อยลง จึงเกิดน้ำเอ่อล้นเข้าชุมชน
สำหรับการดำเนินการรับมือสถานการณ์เร่งด่วน ได้รับความร่วมมือจากกรมการทหารช่าง และกำลังพลจากมณฑลทหารบกที่ 37 นำกระสอบทราย (บิ๊กแบ็ก) มาวางป้องกันจุดเสี่ยงน้ำไหลเข้าชุมชน
นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ ยังเน้นย้ำถึงปัญหาการก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำที่เป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำและขุดลอก โดยขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว เพื่อประสิทธิภาพของโครงการ ทั้งนี้ จังหวัดมีแผนดำเนินการเสริมความแข็งแรงของแนวตลิ่งและกำแพงกั้นน้ำตลอดแนวลำน้ำให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 20 มิ.ย. นี้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยแก่ชุมชนริมแม่น้ำสาย
ผู้ว่าฯ ยังกล่าวย้ำว่า การรุกล้ำลำน้ำไม่เพียงเป็นความผิดตามกฎหมายไทยเท่านั้น แต่ยังถือเป็นการล่วงล้ำอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมสั่งการให้อำเภอแม่สายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรณรงค์สร้างความเข้าใจและดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด