สธ.ระยองชี้แจง เคสหนุ่มโดนงูกัดแต่หมอให้กินพารา สุดท้ายต้องส่ง รพ. รอบสอง

โดย PPTV Online

เผยแพร่

ที่ จ.ระยอง หนุ่มวัย 18 ปีถูกงูกัด ญาตินำส่งโรงพยาบาล แต่หมอให้กินแค่พารา และให้กลับบ้าน เพื่อนเผยหากนำตัวส่งโรงพยาบาลรอบสองช้า อาจไม่รอด

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์เล่าประสบการณ์ลูกน้องถูกงูกัด พาไปรักษาที่โรงพยาบาล หมอบอกในเลือดไม่มีพิษ เป็นเคสไม่สำคัญ ให้รับยากลับบ้านได้ ต่อมา คนที่ถูกงูกัดอาการโคม่า หายใจไม่ออก ไม่มีแรง ลิ้นจุกปาก ชักเกร็งต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ

ทีมข่าวสอบถาม นายกิ๊ก นายจ้างของคนถูกงูกัด หรือ นายสุทัศย์วัย 18 ปี เล่าผ่านโทรศัพท์ว่า เวลา ตี 1 ของคืนวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา ลูกน้องถูกงูกัดในบ้านพักที่ ต.พลงตาเอี่ยม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ซึ่งปลูกเป็นขนำในสวนยาง

คอนเทนต์แนะนำ
แพทย์เตือน! โควิด-19 ยังน่าห่วง ระบาดสูงกว่าไข้หวัดใหญ่หลายเท่า
ระทึก! ลิฟต์ รพ. พุ่งจากชั้น 1 ไปกระแทกชั้น 9 สาวท้องแก่-คนไข้ติดในลิฟต์

สธ.ระยองชี้แจง เคสหนุ่มโดนงูกัดแต่หมอให้กินพารา จนโคม่าเกือบไม่รอด รายการโชว์ข่าวเช้านี้
วินาทีพาตัวหนุ่มโดนงูกัดส่งโรงพยาบาล

ต่อมาพาไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน อ.วังจันทร์ ซึ่งแม่ของลูกน้องไม่รู้ว่างูที่กัดคืองูอะไร บอกลักษณะได้เพียงเป็นงูปล้องขาวดำ ภายหลังคาดว่าเป็นงูทับสมิงคลา

ทางโรงพยาบาลวินิจฉัยว่า ในเลือดไม่มีพิษ และบอกว่า เป็นเคสงูกัดไม่สำคัญ ให้รับยาพารา ยาฆ่าเชื้อ แล้วกลับบ้านได้

ต่อมา หลังลูกน้องกลับบ้าน ประมาณ 08.00 น. ของวันเดียวกัน อาการแย่ลง จึงพาส่งโรงพยาบาลอีกครั้ง ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ส่งต่อโรงพยาบาลประจำจังหวัด ให้เซรุ่มไป 2 เข็ม อาการยังทรงตัว

ด้านนายรุ่งตระการ เพื่อนของนายสุทัศย์ เล่าว่า แม่ของเพื่อนโทรบอกว่า เพื่อนไม่ไหวแล้ว ตนเองจึงรีบขับรถกระบะมารับพาไปส่งโรงพยาบาล ตอนมาถึงเพื่อนอาการแย่ หายใจติดขัด ไม่มีแรง เชื่อว่าถ้ามาช้าเพื่อนคงไม่รอด

ล่าสุดนายจ้างแจ้งว่า เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแห่งแรกที่ให้ยาพาราติดต่อมา โดยนัดเข้าไปพูดคุยประเด็นที่เกิดขึ้นในวันอังคารที่ 13 พ.ค. ที่จะถึงนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์แจ้งว่า ทางโรงพยาบาลขอยังไม่ชี้แจงในประเด็นที่เกิดขึ้น

ณ ตอนนี้ทางผู้บริหารของโรงพยาบาลกำลังประชุมเพื่อชี้แจงข้อมูลประเด็นต่าง ๆที่เกิดขึ้น ซึ่งจะชี้แจงผ่านนายจ้างของผู้ป่วยต่อไป

ขณะที่สาธารณสุขจังหวัดระยอง โดย นพ.สุรวิทย์ ศักดานุภาพ ชี้แจงว่า กรณีนี้อาจเป็นการสื่อสารคลาดเคลื่อน สร้างความเข้าใจผิดต่อโรงพยาบาลอย่างมาก ซึ่งผู้ป่วยชายอายุ 18 ปี รายนี้ มารับบริการที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 68 เวลา 02.20 น. ให้ประวัติว่าถูกงูกัดตอน 01.40 น. ไม่ทราบชนิดของงู

แพทย์ตรวจพบรอยแผลถลอกที่นิ้วก้อยมือขวา ไม่บวม ไม่มีอาการของพิษทางระบบประสาทและระบบเลือด ได้ตรวจวัดสมรรถภาพการหายใจและตรวจเลือดดูความผิดปกติที่เกิดจากพิษงู ตามแนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยถูกงูพิษกัดของกรมการแพทย์

ซึ่งผลการตรวจทั้งหมดปกติ ได้ให้ผู้ป่วยนอนสังเกตอาการประมาณ 2 ชั่วโมง จนถึงเวลา 04.15 น. ยังไม่พบอาการผิดปกติ จึงให้ยาปฏิชีวนะและยาแก้ปวด พร้อมทั้งอนุญาตให้กลับบ้านได้ โดยนัดให้มาพบแพทย์ที่ห้องฉุกเฉินในตอนเช้า เพื่อติดตามอาการและตรวจเลือดดูความผิดปกติที่เกิดจากพิษงูอีกครั้ง

แต่ช่วงเช้ามารดาสังเกตว่าผู้ป่วยมีหนังตาตก กลืนลำบาก ดูซึมลง จึงพามาโรงพยาบาล เวลา 08.14 น. ผู้ป่วยพูดคุยได้ แจ้งว่ามีอาการปากชา ลิ้นชา ประมาณ 06.00 น. แพทย์ตรวจร่างกายพบว่าสมรรถภาพการหายใจปกติ ความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดปกติ มีอาการหนังตาตก ซึ่งเป็นอาการแสดงของพิษทางระบบประสาท จึงวินิจฉัยว่าถูกงูที่มีพิษทางระบบประสาทกัด และใส่ท่อช่วยหายใจป้องกันปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อหายใจอ่อนแรง

พร้อมทั้งประสานส่งต่อโรงพยาบาลระยอง เพื่อให้เซรุ่มต้านพิษและเข้ารับการรักษาใน ICU โดยโรงพยาบาลระยองได้ให้เซรุ่มต้านพิษทางระบบประสาท 1 โดส เมื่อ 24.00 น. คืนที่ผ่านมา อาการล่าสุดเช้าวันที่ 8 พ.ค. ผู้ป่วยสัญญาณชีพปกติ ยังคงใส่ท่อช่วยหายใจอยู่ในห้องไอซียูเพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ โรงพยาบาลวังจันทร์จะได้มีการสื่อสารกับญาติและนายจ้างของผู้ป่วยเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องต่อไป

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ