ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 หรือกรณีการฮั้วประมูลสัญญาโครงการก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยความคืบหน้าว่า สำหรับสำนวนคดีดังกล่าว ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างกระบวนการเรื่องเอกสารที่เกี่ยวข้องภายในสำนวน
โดยบ่ายวันที่ 10 มิ.ย. มีผู้แทนจากกรมโยธาธิการและผังเมือง เดินทางเข้ามาให้การกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (กองคดีฮั้วประมูล)
เนื่องจากกรมโยธาธิการฯ ถือเป็นหน่วยงานผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเข้าตรวจค้นแพลนต์ปูน 7 แห่ง
ซึ่งก่อนหน้านี้ดีเอสไอได้บูรณาการร่วมตรวจค้นด้วย เพื่อลงรายละเอียดตรวจสอบว่าปูนที่ใช้ในการก่อสร้างนั้น มีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) หรือไม่
โดยเป็นการหารือเนื่องจากเจ้าหน้าที่พบความผิดปกติเรื่องปูนที่ใช้ผสมกับซีเมนต์ในการก่อสร้างอาคาร สตง. โดยเฉพาะการไม่พบตราสัญลักษณ์ มอก. บนถุงปูน ซึ่งไม่ตรงกับเอกสารทีโออาร์ที่ระบุไว้ในการจัดซื้อจัดจ้าง
กรณีดังกล่าวจะถูกรวมไว้ในสำนวนคดีฮั้วประมูลด้วย ซึ่งภายในสัปดาห์นี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะต้องเสนอสำนวนคดีฮั้วประมูลให้ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ พิจารณาความเห็นทางคดี เพื่อที่สัปดาห์ถัดไปจะได้นำสำนวนคดีส่งไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐ 70 ราย
ประกอบด้วย ผู้บริหารองค์กรอิสระ คณะกรรมการออกแบบ ก่อสร้าง ควบคุมงาน จำนวน 10 คณะ และคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ประมาณ 15 ราย พร้อมนิติบุคคล คือ ผู้บริหารของกิจการร่วมค้า PKW จำนวน 6 ราย