อ้างเป็น "หม่อม" หลอกตุ๋นอดีตครูรุ่นยาย สูญนับสิบล้าน

โดย PPTV Online

เผยแพร่

อดีตครู ร้องสายไหมต้องรอด ถูกดารานักแสดงหนังซีรีส์วัยรุ่นชื่อดัง อ้างตัวเองเป็น "หม่อม" อ้างเป็นหลานชายบุคคลระดับสูง หลอกสูญเงินกว่า 10 ล้านบาท

วันอังคารที่ 10 มิ.ย. 68 เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์ประสานงาน เพจ "สายไหมต้องรอด" ตลาดจิงเกิลเบลส์ ถ.วัดเกาะ เขตสายไหม กทม. คุณยายอดีตครู เดินทางมาร้อง "สายไหมต้องรอด" ว่าถูกดาราหนังซีรีส์วัยรุ่นชื่อดัง อ้างตัวเองเป็น "หม่อม" เป็นหลานชายบุคคลระดับสูง หลอกสูญเงินกว่า 10 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายรายอื่น ๆ ทยอยเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับดาราคนดังกล่าวในข้อหา ฉ้อโกง อีกจำนวนมาก

คอนเทนต์แนะนำ
เศรษฐีนี โวยเจ้าอาวาสวัดดังยืมเงิน 10 ล้านไม่คืน! ลั่นอยากได้ให้ไปยึดโบสถ์
เชื่อถูกฆาตกรรม! ญาติร้องหนุ่มนักธุรกิจตายปริศนาในบ้านหรู

 

หม่อม สตริงเกอร์ กทม.
อ้างเป็น "หม่อม" หลอกตุ๋นอดีตครูรุ่นยาย สูญนับสิบล้าน

ชายหนุ่มอ้างเป็นหม่อมหลวง โดยสวมชุดขาวคล้ายข้าราชการชาย ที่ประดับด้วย เครื่องราชอิสริยาภรณ์ (เหรียญ, ดารา, สายสะพาย) ซึ่งแสดงถึงเกียรติยศและตำแหน่งของผู้สวมใส่ในโอกาสสำคัญทางราชการและพระราชพิธี

บัตรประชาชนของหม่อมหลวง จะมีคำนำหน้าชื่อว่า “ม.ล.” ซึ่งย่อมาจาก “หม่อมหลวง” แต่ข้อมูลจากสายไหมต้องรอดระบุภาพบัตรของดาราชายว่า "ปลอมบัตรประชาชนว่าเป็นหม่อม บัตรจริงเป็นคนธรรมดา"

โดยทีมข่าวได้พูดคุยกับ คุณยายสมัย (นามสมมุติ) อายุ 87 ปี เปิดเผยว่า ตนเองเป็นคุณครูอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่ง และรู้จักเด็กชายคนหนึ่งตั้งแต่ปี 2562 เขามาโดยการเป็นจิตอาสาและเข้ามาทำความรู้จักกับคนภายในโรงเรียน บอกว่าตนเองเป็นดารานักแสดงและนามสกุลดัง ทำให้ทุกคนในโรงเรียนให้ความนับถือ เชื่อถือ และยังบอกว่าพ่อของเขาเป็นคุณครูสอนอยู่โรงเรียนนายร้อยยศใหญ่

พอมาช่วงปี 2564 เขาอ้างว่าแม่ป่วยเป็นมะเร็ง ให้เพื่อนมาขอยืมเงินของตนจำนวน 300,000 บาท บอกให้ช่วยเหลือเพราะจ่ายค่ารักษาพยาบาลไม่พอ จากนั้นให้เพื่อนมาขอยืมอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 300,000 บาท จนตนเองได้โทรไปสอบถามว่าคุณแม่เป็นอย่างไรบ้าง เขาก็ยังบอกว่าคุณแม่ยังไม่หายป่วย การรักษาโรคมะเร็งจำเป็นต้องใช้เงินเยอะ และยังออกอุบายว่าจะนำที่ดินไปขายและนำเงินมาใช้คืนให้ ตนจึงเชื่อใจ "เขาเป็นคนมีชื่อเสียงไม่น่าจะมาหลอกกันได้" จนโอนเงินให้ทั้งหมดรวม 3,500,000 บาท พอเงินสดของตนหมด ตนก็ให้สร้อยทองไปอีก 6 บาท และแหวนทองอีกจำนวนหนึ่ง

ต่อมาเขายังมาบอกกับตนว่า บ้านของเขาที่ จ.ขอนแก่น จะถูกยึด ขอยืมโฉนดที่ดินของตนไปค้ำประกันบ้านได้หรือไม่ ด้วยความเชื่อใจจึงให้หยิบยืมไป

ระยะเวลาผ่านไป 6 ปี ทุกวันนี้ตนเองยังไม่ได้รับทรัพย์สินเงินทองคืน เจ้าตัวผลัดการจ่ายเงินมาโดยตลอด ล่าสุดนัดคืนเงินทั้งหมดภายในสิ้นเดือนนี้ ตนเองก็จะรอให้ถึงสิ้นเดือน หากยังไม่นำเงินมาคืน ตนเองจะตัดสินใจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ทางด้านของ คุณเอกภพ เหลืองประเสริฐ เปิดเผยว่า วันนี้มีผู้เสียหายเดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมในกรณีเดียวกัน คนหนึ่งเป็นอดีตคุณครูอายุ 87 ปี คุณครูเสียบ้านไป 1 หลัง เงินสด 3.5 ล้านบาท และทองอีกจำนวน 6 บาท รวมแล้วเบ็ดเสร็จมูลค่ากว่า 9 ล้านบาท เกือบ 10 ล้านบาท

ส่วนผู้เสียหายอีกคนก็ถูกคนคนเดียวกันหลอก สูญเงินไป 300,000 กว่าบาท

"อยากฝากถึงคนที่หยิบยืมเงินเขาไป หากดูอยู่ให้เอาเงินมาคืน ซึ่งหลังจากนี้หากไม่เอาเงินมาคืน ทางผู้เสียหายจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด"
และยังมีการแอบอ้างว่าเป็นหม่อม และแต่งชุดคล้ายเครื่องราชอิสริยาภรณ์มาหลอกยืมเงินผู้เสียหาย ซึ่งตนมองว่าหากตรวจสอบแล้วพบว่าไม่เป็นความจริง จะถูกดำเนินคดีในข้อหาหนัก อย่างไรก็ตามตนจะประสานไปยังสถานีตำรวจในพื้นที่เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบถึงข้อเท็จจริงดังกล่าว

ขณะที่ทางด้านของ นายไอซ์ (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ผู้เสียหายรายที่สอง เปิดเผยว่า ชายที่อ้างตัวเป็นหม่อมคนดังกล่าว เป็นบุคคลที่เข้าไปช่วยเหลือคุณครูที่โรงเรียนอยู่หลายปีจึงทำให้รู้จักกัน โดยชายคนนี้มักอ้างว่าไม่มีคุณพ่อคุณแม่ และคุณพ่อคุณแม่เสียแล้ว เป็นลูกคนเดียว แล้วคุณครูที่โรงเรียนนั้นก็จะมีแต่ผู้สูงอายุประมาณ 70-90 ปี ทำให้มีความเชื่อใจมาก จึงให้หยิบยืมเงินไปรักษาพ่อ แม่ และดูแลครอบครัวต่าง ๆ

คอนเทนต์สำหรับคุณ

เนื้อหาคัดสรรคุณภาพ

เนื้อหาสนับสนุน By Bluedot
เนื้อหาสนับสนุน By Bluedot

และจากนั้นก็มีการหลอกคุณครูมาเรื่อย ๆ ว่าขอเลื่อนวันคืนเงิน แต่จะใช้คืนวันนี้บ้าง และพอใกล้วันคืนเงิน ก็จะเกิดเหตุการณ์ปัญหาอื่น ๆ ตามมาอีก ทำให้ไม่สามารถใช้เงินคืนได้ โดยคุณครูก็เชื่อใจ เนื่องจากชายคนนี้เข้าไปช่วยเหลือที่โรงเรียนแห่งนี้ได้ประมาณ 8 ปีแล้ว

โดยการที่ตนรู้จักกับชายคนนี้ได้ เพราะชายคนก่อเหตุมาหลอกยืมเงินจากตน โดยใช้การอ้างว่าตนเองเป็นหลานเจ้าของโรงเรียนที่คุณครูสอนอยู่ และบอกว่าโรงเรียนจะปิดตัวลงแล้ว และคุณครูในโรงเรียนก็ต้องการใช้เงิน เพราะคุณครูทุกคนมีอายุมากและมีอาการป่วย

ด้วยความสงสารตนจึงช่วยให้ยืมไป และฝั่งชายคนก่อเหตุก็เผลอให้ contact (ข้อมูลติดต่อ) คุณครูมา ตนก็เลยได้บังเอิญโทรคุยกับคุณครู จนกระทั่งได้ทราบว่าคุณครูก็โดนหลอกเหมือนกัน โดยตนสูญเสียเงินไป 367,000 บาท โดยตอนแรกยืมขอช่วยให้คุณครูจะออกจากโรงพยาบาลก่อนยอดหนึ่งคือ 117,000 บาท แล้วก็ต่อมาก็ขอยืมให้ป้า ๆ ลาดพร้าวที่เป็นครูอีก 230,000 บาท แล้วก็ขอยืมให้ดอกเตอร์อีก 20,000 บาท

ซึ่งในตอนนั้นเวลาตนเดือดร้อนเขาก็จะเสนอว่าจะช่วยเงินให้ก่อน เหมือนเป็นการให้ตนมั่นใจว่าตนจะได้เงินก้อนนั้นคืน ชายคนดังกล่าวเลยให้ตนกดเงินจากบัตรเครดิตเอาเงินให้เขายืม และบอกว่าหากได้เงินแล้วค่อยมาหักขอคืนให้

และอีกอย่างที่ทำให้เชื่อใจให้ยืม เนื่องจากชายคนดังกล่าวเขาอ้างว่าเขาเป็นหลานกับคนที่มียศในสังคม และก็มีการทำ LINE ปลอมของบุคคลนั้นด้วย ทำให้ตนเชื่อว่าเขาเป็นหลานคนที่ถูกอ้างถึงจริง ๆ รวมไปถึงก็มีการส่งรูปส่วนตัวของท่านผู้ใหญ่คนนั้นมาให้ดู ตนก็จึงเข้าใจว่าน่าจะเป็นลุงของชายคนดังกล่าวนั้นจริง ๆ และพอตนเดินทางไปเจอท่านผู้ใหญ่คนนั้นจริง ๆ ปรากฏว่าท่านไม่รู้เรื่อง และตอนนี้ตนก็ได้มีการไปแจ้งความเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ยังมีการสร้างเรื่องว่าเป็นหลานของเจ้าของโรงเรียนที่คุณครูสอนอยู่ เพื่อให้ตนเชื่อถือ โดยในช่วงแรกชายคนดังกล่าวเสนอจะช่วยเหลือตนทางการเงินก่อน โดยส่ง ID LINE ที่อ้างว่าเป็นของ “ลุง” มาให้ พร้อมทั้งมีการโทรศัพท์มาเพื่อหลอกว่า “ลุง” นัดพบ ตนจึงรู้สึกมั่นใจว่าจะได้รับเงินคืนในอีกไม่นาน

แต่เมื่อถึงวันนัด เขาก็ผัดผ่อนออกไปเรื่อย ๆ และยังอ้างเพิ่มเติมว่าตนเองเป็น “หม่อม” พร้อมแสดงบัตรประชาชนปลอมที่มีคำนำหน้าว่า “หม่อม” รวมถึงภาพถ่ายในชุดเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ 

Bottom-VNL2025 Bottom-VNL2025

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ