คณะกรรมการวัคซีนของเยอรมนี แนะนำให้ประชาชนที่ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าครั้งแรกควรฉีดวัคซีนไฟเซอร์ หรือ โมเดอร์นา เป็นเข็มที่สอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันโควิด-19 ที่ขึ้น รวมถึงสายพันธุ์เดลตาที่กำลังกลายเป็นสายพันธุ์หลักของโลก
อัปเดตข้อมูล “การฉีดวัคซีนโควิด-19 สองเข็มต่างชนิดกัน” ทำได้หรือไม่?
วิวัฒนาการโควิด-19 ประเทศไทย กับความจำเป็นของวัคซีนเข็มที่ 3
คณะกรรมการประจำด้านการฉีดวัคซีนของเยอรมนี (STIKO) ระบุว่าผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า การตอบสนองของภูมิคุ้มกันนั้น "เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน" เมื่อฉีดแอสตร้าเซเนก้าร่วมกับวัคซีนชนิด mRNA เป็นเข็มที่สอง เมื่อเทียบกับการฉีดแอสตร้าเซเนก้าทั้ง 2 เข็ม
แอสตร้าเซเนก้าเข็ม 1 ตามด้วยไฟเซอร์เข็ม 2 ประสิทธิภาพดีขึ้น
โดยแนะนำให้ฉีดวัคซีน mRNA ไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา เข็มที่ 2 ห่างจากแอสตร้าเซเนก้าเข็มแรกใน 4 สัปดาห์หรือมากกว่านั้น ขณะที่นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ของสหราชอาณาจักร กล่าวว่า การผสมระหว่างแอสตร้าเซเนกาและตามด้วยไฟเซอร์ พิสูจน์แล้วว่า มีศักยภาพเกือบเท่ากับวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม
และในภาวะที่สายพันธุ์เดลตากำลังแพร่ระบาด รัฐบาลเยอรมนี มองว่า การให้ประชาชนเร่งฉีดวัคซีนให้ครบสองเข็มจะยิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันที่มากขึ้น
นาย Jens Spahn รมว.สธ.ของเยอรมนี แถลงว่า ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า เชื่อมโยงกับการเกิดลิ่มเลือดอุดตันชนิดที่หายากในคนหนุ่มสาว พร้อมกับแนะนำให้ ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปี ปรึกษาแพทย์ก่อนหากต้องการฉีดวัคซีนผสม
ขณะเดียวกัน นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ก็ได้รับวัคซีนโมเดอร์นา เป็นเข็มที่ 2 เช่นกัน จากเข็มแรกคือแอสตร้าเซเนก้า
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทางการเยอรมนีจะออกมาแนะนำประชาชน ทางด้านนักวิจัย ระบุว่า แม้ผลการผสมวัคซีนจะปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ แต่ยังคงต้องรวบรวมข้อมูลเพื่อความชัดเจนและศึกษาต่อไป
แต่การฉีดวัคซีนโควิด-19 ผสมนี่ยังไม่เป็นที่แนะนำสำหรับหน่วยงานด้านสุขภาพของออสเตรเลีย ซึ่งยืนกราน ควรหลีกเลี่ยงการผสมวัคซีนโควิด-19 โดยพอล เคลลี หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ ได้ให้ประชาชนที่ได้รับวัคซีนของแอสตร้าเซเนก้ายังคงรับต่อไปในเข็มที่ 2
เรียบเรียงจาก aljazeera