นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผย มติคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคครั้งที่ 4/2564 เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2564 เรื่องคำแนะนำการให้วัคซีนไฟเซอร์ สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธาณสุขด่านหน้า ดังนี้
ดราม่า VVIP ฉีดไฟเซอร์ เจ้าตัวยันไม่ได้ฉีดในไทย
ไฟเซอร์-โมเดอร์นา ขึ้นราคาวัคซีนโควิด-19 ที่ขายให้สหภาพยุโรป
1.บุคลากรที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค ซิโนฟาร์ม 2 เข็ม จะได้รับ วัคซีนไฟเซอร์ เป็นเข็มกระตุ้น 1 เข็ม
2.บุคลากรที่ได้รับวัคซีนใดๆ มาแล้ว 1 เข็ม ให้รับวัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 2 โดยกำหนดระยะห่างระหว่างโดสตามข้อกำหนดของวัคซีนเข็มที่ 1
3.บุคลากรที่ไม่เคยรับวัคซีนใดๆ มาก่อนให้พิจารณา รับวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม โดยมีระยะห่างระหว่างเข็ม 3 สัปดาห์
4.บุคลากรที่เคยติดเชื้อโควิด-19 และยังไม่เคยได้รับวัคซีนใดๆ มาก่อนให้ รับวัคซีนไฟเซอร์ 1 เข็ม โดยมีระยะห่างจากการได้รับเชื้อเป็นเวลา 1 เดือน
หมอโอภาส แจงขั้นตอน ไทม์ไลน์ วัคซีนไฟเซอร์ ปักเข็มแรก 9 ส.ค. 64
สำหรับกลุ่มเป้าหมาย คือ บุคลากรทางการแพทย์สาธารณสุข ด่านหน้าทุกคนที่ต้องสัมผัสผู้ป่วยโควิด-19 จากการปฏิบัติงานทั่วประเทศ รวมทั้งนักศึกษาและเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติงานสัมผัสผู้ป่วยโควิด เช่น แผนกผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน คลินิกทางเดินหายใจ ห้องฉุกเฉิน แผนกผู้ป่วยวิกฤต โรงพยาบาลสนาม เจ้าหน้าที่ในห้องปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่สอบสวนโรค เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในสถานที่กักกัน หรือ เกี่ยวข้องกับภารกิจที่ต้องดูแลผู้ป่วยโควิด ตามการพิจารณาของสถานพยาบาลและหน่วยงานต้นสังกัด
นอกจากนั้น ในส่วนของบุคลากรทางการแพทย์และสาธาณสุขด่านหน้า ที่เคยรับวัคซีน ต่อไปนี้
1.วัคซีนซิโนแวคเข็มแรก วัคซีนแอสตร้าเซเนก้า เข็มที่ 2
2.วัคซีนแอสตร้าเซเนก้า 2 เข็ม
3.วัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม และวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเข็มกระตุ้น 1 เข็ม
คณะอนุกรรมฯ แนะนำ ยังไม่ให้รับวัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มกระตุ้น เพราะยังมีภูมิคุ้มกันอยู่ในระดับที่สูง พอเพียงเนื่องจากเพิ่งฉีดวัคซีน และให้ขึ้นทะเบียนรายชื่อไว้ และจะมีการพิจารณาข้อมูลทางวิชาการ ให้ดำเนินการวัคซีนไฟเซอร์ ตามข้อมูลวิชาการและจำนวนวัคซีนที่เข้ามาเพิ่มในระยะต่อไป
แพทย์แผนไทยเตือนอย่าใช้ "โกฐจุฬาลัมพา" เพียงตัวเดียวเพื่อช่วยต้านโควิด อาจส่งผลร้ายมากกว่าดี
อย่างไรก็ตาม นพ.โอภาส ยืนยันว่า วัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับมอบจากสหรัฐ นั้นมีจำนวนทั้งสิ้น 1,503,450 โดส และจัดสรรตามกลุ่มเป้าหมาย คือ
1.บุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศ 700,000 โดส (เข็ม 3 กระตุ้นภูมิคุ้มกัน)
2.ผู้มีภาวะเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิตหากติดเชื้อ สัญชาติไทย 645,000 โดส
3.ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 โรค หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ผู้ที่จะเดินทางไปต่างประเทศ ชาวต่างชาติในไทย 150,000 โดส
4.การศึกษาวิจัย 5,000 โดส (ได้รับอนุมัติโดยคณะกรรมการวิจัยจริยธรรม)
พร้อมกำหนด เอกสารกำกับการฉีดวัคซีน ดังนี้
- ปริมาณฉีดโดสละ 0.3 มล. ฉีดได้ 6 โดสต่อขวด
- วิธีการฉีด ฉีดเข้าชั้นกล้ามเนื้อ
- กำหนดฉีด 2 ครั้งระยะห่าง 3 สัปดาห์
- ขึ้นทะเบียนใช้สำหรับอายุ 12 ปี ขึ้นไป
- การเก็บรักษา อุณหภูมิ -90 องศาเซลเซียส ถึง -60 องศาเซลเซียส นาน 6 เดือน
- อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส นาน 1 เดือน
โปรแกรมถ่ายทอดสด โอลิมปิก 2020 ประจำวันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม 2564