หลายคนตื่นเช้ามา สิ่งแรกที่ทำคือการหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาอัพเดตข่าวสาร ข้อความ ความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ในโลกออนไลน์ ซึ่งในแต่ละวันเราใช้เวลาติดอยู่กับโซเชียลมีเดียนานหลายชั่วโมง จนกลายเป็นดาบสองคม ทำให้เกิดผลกระทบ ทั้งสมาธิสั้นลง จดจ่อกับอะไรไม่ได้นาน มีส่วนร่วมในกิจกรรมและคนรอบข้างลดลง พอติดโซเชียลหนักเข้า อาจจะกระทบการพักผ่อน อารมณ์และสุขภาพจิตของตัวเองด้วย
สาธารณสุข เตือนคนติดสมาร์ทโฟน ระวังเป็น “โรคโนโมโฟเบีย”
เปิดสูตรหลุดพ้นจากวงจร "ติดโซเชียล"
กรมสุขภาพจิต แนะ 5 วิธีรับมือหากถูก “Cyberbullying”
ดังนั้นเราจึงควรมีเวลาหยุดเสพติดโซเชียลสักพัก และเข้าสู่การ Social Detox หรือก็คือ การบำบัดอาการเสพติดการใช้โซเชียลมีเดียที่ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ จนเกิดความทุกข์ ความเครียด ลามมาถึงร่างกายและการใช้ชีวิตประจำวัน
ผลกระทบจากการเสพติดโซเชียลมีเดีย
-มีปัญหาด้านการนอนหลับ
-ขาดความมั่นใจในตัวเอง ขาดการจัดการเวลาที่ดี
-น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
-ขาดความรับผิดชอบต่องานและการเรียน
-มีปัญหาด้านร่างกาย เช่น ปวดหัว ปวดตา และความเหนื่อยล้า เป็นต้น
-มีปัญหาด้านภาวะทางอารมณ์ หงุดหงิด เครียด เสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า
3 วิธีทำ Social Detox
1.ปิดการแจ้งเตือนหรือลบแอปพลิเคชั่น เสียงนาฬิกาปลุก หรือการแจ้งเตือนต่าง ๆ ที่มาจากโทรศัพท์มือถือ
2.หากิจกรรมออฟไลน์และงานอดิเรกทำ เปลี่ยนจากการก้มเล่นมือถือเป็นการเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์
3.งดหรือกำหนดเวลาในการเล่นโซเชียล หรืออาจหักดิบ ลบแอป ปิดบัญชีชั่วคราว
เริ่มแรกอาจจะเริ่มทำในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่หากมีเวลาวันหยุดยาวขึ้น ก็สามารถลอง Social Detox ให้นานขึ้นได้ ซึ่งข้อดีของการทำ Social Detox จะช่วยให้มีสมาธิมากขึ้น สุขภาพที่ดีขึ้น และชีวิตมีความสุขมากขึ้น
ผู้ใช้โซเชียลฯ เรียกร้อง WHO ให้นิยามชัดเจน “โรคจิตเวช” เสพติดสังคมออนไลน์ (คลิป)
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP สุขภาพ
- วิดีโอยอดนิยม
