10 เข้าใจ และ ความเชื่อแบบ ผิดๆ เกี่ยวกับคนเป็นโรคเบาหวาน

โดย PPTV Online

เผยแพร่

โรคเบาหวาน ถือเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของร่างกาย ซึ่งเกิดได้ทั้งจากพันธุ์กรรม หรือการรับประทานอาหาร แต่บางครั้งก็ยังคงมีความเข้าใจ และความเชื่อผิดๆ

ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ระบุว่าปัจจุบันมีคนเป็นเบาหวานทั่วโลก มากกว่า 425 ล้านคน และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย โดยอัตราส่วน 1 ใน 11 คน พบว่าผู้ป่วย 1 ใน 2 คน ยังไม่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวาน ส่วนในประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตอันเนื่องมากจากโรคเบาหวานมากกว่า 200 รายในแต่ละวัน  สำหรับโรคเบาหวาน เกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่มีการผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ ร่างกายจะไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น 
 

นักวิจัยพบ เซลล์ตับอ่อนติดเชื้อโควิด-19 อาจเป็นสาเหตุ "โรคเบาหวาน"

หมั่นสังเกต “อาการชา” จุดเริ่มต้นสัญญาณเตือนโรคร้าย

โดยเหตุผลที่ทำให้เกิดโรคเบาหวาน โดนส่วนหนึ่งมาจากกรรมพันธุ์ และพฤติกรรมในการรับประทาน ที่เกินพอดีอาทิ แป้ง และไขมัน หรือเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลมาก ไม่ออกกำลังกาย แต่ก็ยังมีกลุ่มคนบางกลุ่มที่มีความเข้าใจ และความเชื่อที่ผิดๆ เกี่ยวกับการเกิดโรคเบาหวาน ประกอบด้วย 

1. รับประทานอาหารที่มีรสหวานมากจะทำให้เป็นเบาหวาน

    - การรับประทานอาหารรสหวานจัดหรือมีน้ำตาลมาก ไม่ได้แปลว่าจะเป็นโรคเบาหวานเสมอไป หากมีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
    - โรคเบาหวานอาจเกิดจากกรรมพันธุ์ หรือการทำงานที่ผิดปกติของตับอ่อน ทำให้ไม่สามารถผลิตอินซูลินออกมาเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายก็อาจทำให้เกิดเบาหวานได้
    - การรับประทานอาหารที่มีไขมันมาก ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานได้ เพราะไขมันอิ่มตัวมีผลต่อการออกฤทธิ์ของอินซูลิน ทำให้การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร 

2. น้ำตาลและแป้งเท่านั้นที่ทำให้เป็นเบาหวาน

    - นอกจากแป้งและน้ำตาลจะเป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดโรคเบาหวานแล้ว สัตว์เนื้อแดงที่มีไขมันมาก และอาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก เบคอน แฮม ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานได้ เนื่องจากไขมันอิ่มตัวจะไปยับยั้งอินซูลินให้ออกฤทธิ์ได้น้อยลง ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่ลดลง ตับอ่อนจึงต้องผลิตอินซูลินออกมาเพิ่มมากกว่าปกติ ส่งผลให้ตับอ่อนทำงานหนักเกินไปและเสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ จนไม่สามารถผลิตอินซูลินได้ดีเท่าตอนที่ยังทำงานปกติ จึงทำให้เกิดโรคเบาหวาน

3. หากคนในครอบครัวไม่เป็นโรคเบาหวาน เราก็จะไม่เป็นโรคเบาหวาน

    - พันธุกรรมเป็นหนึ่งในหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานประเภทที่ 2 แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่สามารถทำให้เกิดโรคเบาหวาน หากเรามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น รับประทานอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูงเป็นประจำ พักผ่อนน้อย ไม่ออกกำลังกาย มีความเครียดสะสมมาก

4. ผู้สูงอายุเท่านั้นที่จะเป็นเบาหวาน

    - โรคเบาหวานสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกช่วงอายุ ไม่ได้เป็นเฉพาะผู้สูงอายุเท่านั้น
    - เบาหวานมี 2 ประเภท คือ เบาหวานประเภทที่ 1 ส่วนใหญ่มักเกิดในเด็กหรือคนอายุน้อย
    - เบาหวานประเภทที่ 2 ส่วนใหญ่มักเกิดในคนอายุ 45 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันเริ่มพบว่าคนอายุน้อยก็เป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ด้วย

5. เบาหวานเป็นโรคสำหรับคนอ้วน

    - เบาหวานเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น พันธุกรรม การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง น้ำตาลสูง การไม่ออกกำลังกาย มีภาวะเครียดบ่อยๆ นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นต้น เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะมีรูปร่างอ้วนหรือผอมก็มีความเสี่ยงเป็นเบาหวานได้เช่นกัน


6. น้ำตาลจากผลไม้ปลอดภัยทานได้

    - นอกจากขนมหวานแล้ว ผลไม้ที่มีรสหวานก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากในผลไม้มีน้ำตาลฟรักโทส เมื่อรับประทานทานเข้าไปจะแปรเปลี่ยนเป็นน้ำตาลกลูโคสและทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
    - นอกจากจะควบคุมการรับประทานขนมหวานแล้ว ควรระวังเรื่องผลไม้ด้วย ผลไม้ที่มีรสหวาน ผลไม้อบแห้ง ผลไม้ตากแห้ง หรือผลไม้แปรรูปต่างๆ ไม่ควรรับประทานในปริมาณมาก เช่น ทุเรียน มะม่วงสุก องุ่น ขนุน กล้วย ลำไย ผลไม้ที่รับประทานได้ เช่น แก้วมังกร ชมพู่ แอปเปิ้ล แคนตาลูป ฝรั่ง สาลี่ เป็นต้น

7. ผู้ที่เป็นเบาหวานจะรู้ตัวหากมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ

    - ผู้ที่เป็นเบาหวานบางรายอาจไม่แสดงอาการเมื่อมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ หรือแต่ละคนอาจมีอาการที่แตกต่างกันออกไป เช่น วิงเวียนศีรษะ ใจสั่น หัวใจเต้นแรง อ่อนเพลีย ปากแห้ง ตัวเย็น เหงื่อออก เป็นต้น แนะนำให้ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำ หรือตรวจเมื่อมีอาการ หรือสงสัยว่ามีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ

8. โรคเบาหวานไม่ใช่โรคน่ากลัว

    - เบาหวานเมื่อเป็นแล้วไม่สามารถรักษาให้หายได้ เบาหวานเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของคนไทยปีละประมาณ 20,000 คน เนื่องจากส่งผลให้เกิดอาการแทรกซ้อนต่างๆ เช่น ตาบอด ผิวหนังอักเสบติดเชื้อ เซลล์ประสาทถูกทำลาย ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ และมีโอกาสเกิดหัวใจวาย หรือกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันสูงมาก

9. ห้ามรับประทานอาหารที่มีรสหวาน

    - หากรับประทานอาหารในสัดส่วนที่เหมาะสม ร่วมกับการออกกำลังกาย การรับประทานผลไม้ หรือขนมหวานก็ยังสามารถรับประทานได้ แต่ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม

10. ห้ามบริจาคเลือด

    - ผู้เป็นโรคเบาหวานสามารถบริจาคเลือดได้ หากมีการควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และไม่มีภาวะแทรกซ้อนของเบาหวาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าหน้าที่เป็นสำคัญ

ที่มา 

โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาการุณย์

Bottom-VNL2025 Bottom-VNL2025

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ