ภาวะออทิสติกเทียม เป็นภาวะที่เกิดจากการที่เด็กขาดการถูกกระตุ้น ในการสื่อสารสองทางจึงส่งผลให้เกิดความผิดปกติในการสื่อสารกับบุคคลอื่น ซึ่งภาวะนี้สามารถเกิดได้จากการที่พ่อแม่ ผู้เลี้ยงดูไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับลูก เช่น ไม่พูดคุย ไม่เล่นกับลูก เป็นต้น แต่กลับปล่อยให้เด็กอยู่กับอุปกรณ์สื่อสาร อาทิ แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นการสื่อสารแบบทางเดียว ส่งผลให้เด็กเกิดความผิดปกติด้านพัฒนาการทางสังคม และมีพัฒนาการด้านการสื่อสารช้าตามไปด้วย
จิตแพทย์เด็กแนะ 5 พฤติกรรมที่พ่อแม่ไม่ควรปฏิบัติกับลูกเวลาโกรธ
เลี้ยงลูกผ่านหน้าจอ ต้องระวัง 'ภาวะออทิสติกเทียม'
ตรวจหวย - ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 ธันวาคม 2564 ลอตเตอรี่ 16/12/64
ภาวะออทิสติก กับภาวะออทิสติเทียม อาจจะคล้ายคลึงกัน แต่ทั้ง 2 มีความแตกต่างตรงที่ ภาวะออทิสติกนั้นเกิดจากความผิดปกติตั้งแต่เด็กอยู่ในครรภ์มารดา แต่ภาวะออทิสติเทียมนั้นเกิดจากการขาดการกระตุ้น โดยเด็กกลุ่มนี้หากได้รับการกระตุ้นที่เหมาะสม ถูกทางในระยะเวลาสั้น ๆ ก็จะสามารถกลับมาเป็นเด็กปกติได้
วิธีตรวจเช็กว่าลูกเข้าข่าย ออทิสติกหรือไม่
ช่วงอายุ 6 เดือน ไม่ยิ้มหรือไม่แสดงอารมณ์สนุกสนาน
ช่วงอายุ 9 เดือน ไม่มีการส่งเสียง ยิ้ม แสดงสีหน้า โต้ตอบกลับไปมา
ช่วงอายุ 12 เดือน ไม่หันหาเสียงเรียกชื่อ ไม่เล่นน้ำลาย
ช่วงอายุ 18 เดือน ไม่มีการเล่นสมมติง่าย ๆ ไม่มีการใช้ภาษาพูดร่วมกับภาษาท่าทาง
วิธีป้องกันไม่ให้ลูกมีพฤติกรรมคล้ายออทิสติก
1. พูดคุยกับลูกบ่อยๆ เพื่อให้ลูกเรียนรู้การออกเสียงและเลียนแบบพฤติกรรมของผู้เลี้ยงดู น้อยควรคุยกับเด็กวันละ 30 นาที – 1 ชั่วโมง
2.ไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี เล่นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต
3. หากเป็นเด็กอายุมากว่า 2 ปี จำกัดเวลาดูทีวี หรือเล่นโทรศัพท์ ควรเป็นเล่นไม่เกิน 1 ชั่วโมงต่อวัน
4. พ่อแม่ควรหากิจกรรม เสริมสร้างทักษะด้วยการเล่นเพื่อเสริมพัฒนาการสมองและร่างกาย เช่น การต่อบล็อก ร้อยเชือก ระบายสี ปั่นแป้ง เตะบอล ขี่จักรยาน เป็นต้น
5. หมั่นพาลูกไปเข้าสัมคม พบปะกันคนอื่น
ทั้งนี้ ถ้าเด็กมีพฤติกรรมที่คล้ายออทิสติกคุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวลใจ เพราะสามารถหายขาดและหายไวได้ถ้ารู้โดยเร็ว ซึ่งส่วนใหญ่เด็กที่พบว่ามีพฤติกรรมคล้ายออทิสติกถ้าทำการรักษาอย่างถูกต้อง อาการจะดีขึ้นภายในระยะเวลา 6 เดือน และกลับมาเป็นเด็กปกติได้
สำหรับคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองที่กำลังสงสัยหรือไม่แน่ใจว่าลูกเป็นออทิสติกหรือมีพฤติกรรมที่คล้ายออทิสติกหรือไม่ ควรนำเด็กเข้ารับการตรวจเช็กพัฒนาการกับแพทย์เฉพาะทางเพื่อวินิจฉัยอาการที่ถูกต้องและไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะวัย 5 ขวบแรกเป็นช่วงวัยที่สมองของเด็กมีพัฒนาการอย่างเต็มที่ต้องป้องกันและรีบรักษาให้ถูกวิธี
แนะ 5 เทคนิค ง่ายสำหรับคุณพ่อคุณแม่ ไว้รับมือเจ้าตัวน้อยเวลามีพฤติกรรมก้าวร้าว
รู้ลึก! ภาวะปัญญาอ่อนกับออทิสติก ความเหมือนที่แตกต่าง
ที่มา
คลินิกพัฒนาการเด็ก ศูนย์กุมารเวช โรงพยาบาลกรุงเทพ