สัญญาณเสี่ยง! ของระบบทางเดินอาหาร ต้อง “ส่องกล้อง” ตรวจหาโรค


โดย BDMS Wellness Clinic

เผยแพร่




ระบบทางเดินอาหารมีการทำงานที่ซับซ้อนและอาจไม่แสดงอาการให้เห็นชัดเจนตั้งแต่ระยะเริ่มแรกของโรค อาการต่างๆ ยังมีลักษณะคล้ายคลึงกัน

ซึ่งเราไม่ควรมองข้าม ในการเริ่มต้นดูแลสุขภาพตั้งแต่เนิ่นๆ  ยิ่งรู้เร็ว ยิ่งมีโอกาสป้องกันได้ ในปัจจุบันมีหลากหลายวิธีในการตรวจคัดกรองจะขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของโรค  ดังนั้น การป้องกัน คือ การตรวจพบให้เร็วที่สุด เพื่อหยุดโรคร้ายได้แต่เนิ่น ๆ  

เช็กสัญญาณเสี่ยง...ต้องระวัง ??
•    ผู้ที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป ควรตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่โดยไม่ต้องรอให้มีอาการผิดปกติ (ที่มา : American Cancer Society)
•    ปวดท้อง ท้องอืด แน่นท้อง หรือคลำก้อนได้ในท้อง
•    อาเจียน หรือ ถ่ายอุจจาระมีเลือดปน

เช็กสัญญาณเตือนโรคร้าย อาการแบบนี้ควร "ส่องกล้อง" ก่อนโรคลุกลาม

"กลืนอาหารลำบาก - ปวดท้องบ่อย" ควรตรวจส่องกล้องกระเพาะอาหาร

•    อุจจาระลำเล็กลง หรือ ถ่ายเป็นเม็ดกระสุน
•    ท้องผูก หรือ ท้องเสียเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ 
•    มีปัญหาด้านการกลืน เช่น กลืนลำบาก กลืนติด กลืนแล้วเจ็บ เป็นต้น 
•    เบื่ออาหาร น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ 
•    มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งกระเพาะอาหาร หรือมีติ่งเนื้อลำไส้ใหญ่

การส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนต้น (Gastroscopy)    
     เป็นการใช้กล้องเอ็นโดสโคปมีลักษณะเป็นท่อขนาดเล็กขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.9 เซนติเมตร ยืดหยุ่นโค้งงอได้ มีเลนส์กล้องและแสงไฟที่ปลายท่อ สอดเข้าไปทางปาก เพื่อตรวจหาความผิดปกติของหลอดอาหาร กระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น โดยส่วนปลายของกล้องจะมีเลนส์ขยายภาพ ส่งภาพมายังจอมอนิเตอร์ ซึ่งทำให้แพทย์เห็นภายในอวัยวะที่ตรวจได้อย่างชัดเจน  

การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy)    
     เป็นการใช้กล้อง Colonoscope มีลักษณะเป็นท่อขนาดเล็กเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร ความยาวประมาณ 150 เซนติเมตร ยืดหยุ่น โค้งงอได้ โดยจะสอดกล้องเข้าทางทวารหนักอย่างช้า ๆ เข้าไปถึงส่วนของลำไส้ใหญ่ตอนต้น เพื่อตรวจหาความผิดปกติของลำไส้ใหญ่ และทวารหนัก สามารถวินิจฉัยโรคของลำไส้ได้อย่างแม่นยำ โดยคนไข้ไม่รู้สึกเจ็บ มีความปลอดภัย ใช้เวลาตรวจประมาณ 20-30 นาที หรือขึ้นอยู่กับความยาวลำไส้ใหญ่ของคนไข้ อีกทั้งสามารถตัดติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่โดยไม่ต้องผ่าตัด และสามารถตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจทางพยาธิวิทยาได้ทันที 

เตรียมตัวอย่างไร..!!
•    ก่อนวันนัดตรวจ 1 วัน ควรรับประทานอาหารอ่อน ๆ ไม่มีกากใย เช่น ซุป อาหารอ่อน หรือโจ๊ก หรือน้ำผลไม้ชนิดใส เป็นต้น และก่อนเข้ารับการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ ควรต้องทำความสะอาดเพื่อให้แพทย์เห็นภาพได้ชัดเจน โดยทานยาระบาย ซึ่งจะทำในคืนก่อนเข้ารับการตรวจส่องกล้อง
•    กรณีมีโรคประจำตัวและยาที่ต้องใช้เป็นประจำควรปรึกษาแพทย์ประจำเพื่อพิจารณาการหยุดยาบางตัวที่มีผลต่อการส่องกล้อง 
•    งดอาหารและน้ำอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนตรวจ (งดอาหารและน้ำหลังเที่ยงคืน)  
•    หลังการตรวจส่องกล้อง คนไข้ควรนอนพัก 1-2 ชั่วโมงก่อนกลับบ้าน เพื่อสังเกตอาการ อาจมีอาการอึดอัดท้อง ท้องอืด เนื่องจากมีลม อาการจะทุเลาลงหลังการตรวจ และไม่ควรขับรถกลับบ้านเอง จะต้องมีผู้ดูแลพากลับบ้าน เนื่องจากการได้รับยาระงับความรู้สึก หรือในรายที่ได้รับยานอนหลับ  

ข้อดีของการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่
•    ช่วยการวินิจฉัยสาเหตุของอาการโรคทางเดินอาหาร เช่น ปวดท้อง น้ำหนักลดผิดปกติ ขับถ่ายผิดปกติ
•    ช่วยประเมินปัญหาความผิดปกติของก้อนเนื้อซึ่งกล้องแสดงให้เห็นลักษณะของก้อนเนื้อ หรือ แผลในลำไส้ที่ผิดปกติ หรือการอักเสบ
•    ช่วยการตรวจหามะเร็งลำไส้ใหญ่และช่วยในการรักษาก้อนเนื้องอกแบบที่ไม่ใช่มะเร็ง (polyps) ที่เจริญเติบโตขึ้นที่บริเวณผนังลำไส้ใหญ่ เพื่อป้องกันไม่กลายเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ 

BDMS Wellness Clinic มุ่งมั่นพัฒนาและวิจัยเรื่องสุขภาพ เพื่อมอบเป็นของขวัญสุขภาพแก่คนไทยทุกคน เพราะสุขภาพที่ดี คือของขวัญที่ดีที่สุด Live longer, Healthier and Happier

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก (BDMS Wellness Clinic)  ไลน์ : @bdmswellnessclinic or  https://lin.ee/rdIDv1A เว็บไซต์ : www.bdmswellness.com
 

TOP สุขภาพ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ