ลูกค้าฝากไรเดอร์ให้อาหารสุนัขสุดน่ารัก
สะอึก! เจ้าของร้านโอด ถูกไรเดอร์ตีเนียนรับออเดอร์ ทั้งที่ไม่ได้สั่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ที่เจ้าของร้านอาหารคนหนึ่งมีปากเสียงกับไรเดอร์ที่มารับอาหารไปให้ลูกค้า เกิดขึ้นกลางดึกของเมื่อคืนที่ผ่านมา (8 พ.ย.64) ที่คอนโดแห่งหนึ่ง ย่านสาธุประดิษฐ์ หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายมีการด่าทอกันด้วยคำหยาบคาย ก่อนฝ่ายคนส่งอาหารจะวิ่งไปหยิบของกลับมา และตอนนั้นไรเดอร์ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เข้ามาทำร้ายร่างกาย ชกเข้าที่เบ้าตา กระโดดเตะ แล้วตบซ้ำที่บ้องหูข้างขวา จนเกิดบาดแผล สภาพเป็นรอยช้ำ เกิดอาการคลั่งเลือดบนใบหน้าและดวงตา
ทีมข่าว PPTV สัมภาษณ์ผู้เสียหายคนนี้ ชื่อว่านางสาวชมิทธ์ ไม่สะดวกเปิดเผยนามสกุล อายุ 28 ปี เปิดเผยว่า จนถึงตอนนี้ยังมีอาการปวดแสบที่แผลฟกช้ำ และหูข้างขวาได้ยินไม่ชัด พร้อมเล่าว่าได้เปิดร้านอาหารเดลิเวอรีภายในคอนโดมิเนียมมากว่า 6 เดือนแล้ว เมื่อคืนวานนี้ เวลา 01.52 น. มีออเดอร์จากลูกค้าเข้ามาสั่งข้าวหน้าเนื้อ และสปาเก็ตตี้ หลังจากนั้นไรเดอร์ใช้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อมา แต่ไม่ได้เป็นเบอร์ที่ลงทะเบียนไว้ในระบบ ตนจึงบอกไปว่าขอเวลาทำอาหาร 20 นาที เมื่ออาหารเสร็จแล้ว จึงเดินลงไปรอด้านล่างคอนโดฯ พร้อมกับโทรหาไรเดอร์ผ่านเบอร์ในระบบ ประมาณ 10 กว่าสาย ปรากฏว่าถูกตัดสายทุกรอบ จึงติดต่อไปที่ลูกค้าเพื่อให้เช็กพิกัด ทราบว่าไรเดอร์อยู่ห่างออกไปประมาณ 8-9 นาที เมื่อไรเดอร์มาถึง ก็ต่อว่าตนว่าทำไมไม่โทรหาเบอร์ที่โทรไปตอนแรก จึงบอกกลับไปว่าใน 1 วัน ต้องติดต่อกับไรเดอร์จำนวนมาก จึงเลือกโทรเฉพาะเบอร์ที่ลงทะเบียนเท่านั้น พร้อมกับบอกว่าการมาสายทำให้อาหารเย็น และมีผลต่อการรีวิวร้าน หลังจากนั้นไรเดอร์ก็ใช้ถ้อยคำหยาบคายด่าทอ ก่อนจะชกเข้าที่เบ้าตา ตบบ้องหู และเข้ามาบีบคอ
นางสาวชมิทธ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นแฟนสาวของตนพยายามเข้ามาห้าม แต่สู้แรงไม่ไหว เมื่อ รปภ. มาถึง คนขับโทรหาลูกค้า สอบถามลูกค้าว่าไปกล่าวหาไรเดอร์ว่าช้าใช่หรือไม่ ตนเห็นท่าไม่ดีจึงให้แฟนเป็นคนไปส่งอาหารให้ลูกค้าเอง ซึ่งล่าช้าไป 1 ชั่วโมงแล้ว หลังจากนั้นได้โทรหาตำรวจ สน.บางโพงพาง แต่เจ้าหน้าที่ให้แยกย้ายกันขับรถไปเจอกันที่สถานีตำรวจ แต่เมื่อไปถึงพบว่าคู่กรณีขับรถหนีไปแล้ว
ด้านนางสาวกุลวรางค์ หนุนดี แฟนสาวผู้เสียหาย ระบุว่า ตอนนั้นไม่แน่ใจว่าไรเดอร์คนนี้เมาหรือไม่ แต่สังเกตได้ว่ามีอาการหน้าแดง หลังเกิดเหตุขึ้นรู้สึกโมโหแทนเป็นอย่างมาก จึงนำเรื่องราวทั้งหมดไปโพสต์ลงในกลุ่มเฟซบุ๊กไรเดอร์ จำนวน 2-3 กลุ่ม รวมถึงแจ้งผ่านเพจเจ๊มอย วีพลัส หลังจากนั้นไม่นาน ไรเดอร์คนดังกล่าว ได้แสดงตนเข้ามาตอบแสดงความคิดเห็น บอกว่าทำไมไม่พิมพ์มาด้วยว่าเป็นคนเริ่มด่าก่อน ท้าให้เอาคลิปกล้องวงจรปิดมาเปิดเผย ไปรอที่ สน.บางโพงพางแล้ว แต่ไม่เจอ สมควรแล้วที่โดนตบสั่งสอน
ทีมข่าวโทรศัพท์ไปสอบถามไรเดอร์คู่กรณี เปิดเผยว่า โมโห และทำร้ายร่างกายจริง แต่ไม่ได้ชกตา แค่ตบบ้องหูและบีบคอเท่านั้น เพราะเจ้าของร้านไม่ยอมหยุดพูด ไม่ได้ตั้งใจให้ถึงตาย แต่ที่ลงมือไปเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น เพราะตอนนั้นเป็นช่วงกลางดึก ทำให้ไม่มีสติ มองว่าแค่ไปรับอาหารช้าแค่ไม่กี่นาที ทำไมต้องด่าทอกันจนเสียหาย จุดที่ทำให้ทนไม่ไหวคือช่วงที่เจ้าของร้านใช้คำด่า “ไอ้ควาย” ส่วนเหตุการณ์หลังจากที่เจ้าของร้านโทรแจ้งตำรวจ สารภาพว่าไม่ได้ไปที่สถานีจริง เหมือนที่ไปแสดงความคิดเห็น
สำหรับข้อสงสัยเรื่องเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่ตรงกับในระบบ ไรเดอร์คนนี้บอกว่า เป็นเพราะแอบเอาแอคเคาน์ และรหัสของน้องชายมาใช้วิ่งรับส่งอาหารแทน สาเหตุที่เจ้าของร้านโทรไปที่เบอร์ที่ลงทะเบียนไว้กับระบบแล้วไม่ติด คาดว่าน่าจะเป็นเพราะน้องชายหลับไปแล้ว ยืนยันว่าหลังจากนี้หากเจ้าหน้าที่เรียกเข้าไปให้ปากคำ ยินดีให้ความร่วมมือ ส่วนความคืบหน้าทางคดี ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งและยืนยันตัวคู่กรณีทั้งหมดแล้ว อยู่ระหว่างการเรียกเข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ย
