กรมการขนส่งทางรางชี้แจง การออกประกาศให้งดสนทนา หรือ พูดคุย ขณะใช้บริการขนส่งทางรางไม่ว่าจะเป็นรถไฟ หรือ รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนต่างๆ ไม่ใช่การประกาศครั้งแรก แต่ประกาศตั้งแต่ศบค.มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.63 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ก.ค.63 รองรับการเปิดเทอมในปีที่แล้ว พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้ประกาศลอยๆ และ มีข้อมูลทางวิชาการ ทางการแพทย์ รองรับว่าช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทางละอองฝอยน้ำลายได้
มาตรการรถไฟฟ้ารับมือเปิดเทอม 1 ก.ค. 63 นั่งติดได้-งดพูดคุยในขบวน-เช็กอิน "ไทยชนะ"
เริ่มพรุ่งนี้ !! ขึ้นรถไฟ-รถไฟฟ้า ต้องสวมหน้ากากอนามัย
โดยกรมการขนส่งทาง ชี้แจงกรณีที่ออกประกาศเรื่อง มาตรการพึงปฏิบัติการจัดการระบบขนส่งทางราง ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ฉบับที่ 10 เพื่อขอความร่วมมือหน่วยงานที่ให้บริการระบบขนส่งทางรางทุกระบบถือปฏิบัติ โดยหนึ่งในมาตรการที่ได้ประกาศไว้ในข้อ 5. กำกับดูแล ตรวจติดตาม และขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ได้แก่ การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย และงดสนทนาขณะใช้บริการระบบขนส่งทางราง ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้งเมื่อเข้าและออกจากระบบ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายที่จุดคัดกรอง และใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ นั้น ได้สร้างความสงสัยให้กับประชาชนและผู้ใช้บริการระบบขนส่งทางรางถึงสาเหตุและที่มาของการกำหนดให้ผู้โดยสารงดสนทนาขณะใช้บริการระบบขนส่งทางรางว่ามีความจำเป็นมากน้อยเพียงใดถึงได้กำหนดมาตรกาขึ้นมาในลักษณะนี้
กรมการขนส่งทางราง ขอแจ้งให้ทราบว่าข้อกำหนดที่ระบุให้งดสนทนาขณะใช้บริการระบบขนส่งทางรางนี้ ไม่ได้เพิ่งกำหนดออกมาเพื่อบังคับใช้ในครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่ข้อกำหนดดังกล่าวได้ถูกกระบุไว้ในมาตรการเพื่อรองรับการเดินทางที่จะเพิ่มขึ้นภายหลังการเปิดภาคเรียนในรูปแบบฐานวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ที่มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ซึ่งมาตรการดังกล่าวได้ผ่านการเห็นชอบจากการประชุมคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ครั้งที่ 9/2563 เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2563 โดยเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงคมนาคมเกี่ยวกับมาตรการเพิ่มขีดความสามารถด้านการบริการขนส่งสาธารณะเพื่อรองรับการเปิดภาคการศึกษา ซึ่งกำหนดให้งดการพูดคุยและต้องสวมหน้ากากอนามัยระหว่างการเดินทางควบคู่กับการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอื่นๆ
กรมการขนส่งทางรางยังย้ำว่า มาตรการดังกล่าวไม่ได้ถูกกำหนดขึ้นมาลอยๆ โดยไม่มีข้อมูลทางวิชาการด้านสาธารณสุขมาสนับสนุน จากการร่วมประชุมหารือกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ รพ.จุฬาลงกรณ์ และหน่วยงานที่ให้บริการขนส่งทางรางทุกระบบ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2563 เพื่อกำหนดมาตรการที่เหมาะสมรองรับการเปิดเทอมและปรับปรุงการดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ร่วมกันนั้น ทางกรมควบคุมโรคและศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ทั้ง 2 หน่วยงานได้มีความเห็นทางวิชาการด้านสาธารณสุขเห็นพ้องร่วมกันในการกำหนดให้ผู้โดยสารในระบบขนส่งทางรางต้องสวมหน้ากากและงดการพูดคุยขณะอยู่ในขบวนรถและตลอดเวลาเมื่อใช้บริการ
ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่กระจายของสารคัดหลั่ง และ การแพร่เชื้อโรคทางฝอยละอองน้ำลายนั่นเอง การออกมาตรการใดๆก็ตามทางกรมการขนส่งทางราง คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ แม้บางมาตรการอาจทำให้ผู้โดยสารได้รับความไม่สะดวกมากนัก จึงขอความร่วมมือจากผู้โดยสารเพื่อให้ผู้โดยสารทุกคนเดินทางด้วยระบบขนส่งทางรางอย่างปลอดภัยห่างไกลโควิด-19