จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังรุนแรง ส่งผลให้มีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นและมีผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการประกาศใช้มาตรการที่เข้มงวดขึ้น ทั้งการห้ามเดินทางออกนอกเคหะสถานโดยไม่จำเป็น ทั้งการลดปริมาณประชาชนในที่สาธารณะ แต่กลับมี ผู้ติดเชื้อจากการสัมผัสสมาชิกในครอบครัว หรือเกิดกับผู้ใกล้ชิดเพิ่มมากขึ้น
จากผลการสำรวจ Anamai Event Poll โดยกรมอนามัย ประเด็น “พฤติกรรมการป้องกันโรคโควิด-19 ในบ้าน” วันที่ 19 – 28 กรกฎาคม 2564 จำนวน 1,324 คน
เข้าไปพื้นที่ชุมชน ให้ใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น เพิ่มป้องกันโควิด 19
สธ. เผยผลสำรวจพบประชาชนร้อยละ 4 ไม่สวมหน้ากาก ป้องกันโควิด-19
พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีความกังวลว่าคนในครอบครัวจะแพร่เชื้อให้คนในบ้าน ร้อยละ 75 ในขณะที่พฤติกรรมการสวมหน้ากากตลอดเวลาในบ้านทำได้ทุกครั้ง เพียงร้อยละ 20 ดังนั้น การสวมหน้ากากในบ้าน จึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นเพิ่มมากขึ้นสำหรับทุกครอบครัวในช่วงเวลานี้
โดยปัจจัยที่เราควรใส่หน้ากากอนามัยในบ้านมากที่สุดคือ
1. ในบ้านมีพื้นที่จำกัดไม่สามารถเว้นระยะห่างได้
2. ทำกิจกรรมร่วมกัน เช่นดูทีวี พูดคุย
3. อยู่ในห้องปรับอากาศ
4. ใกล้ชิดผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุ
ขณะเดียวกันการสวมใส่หน้ากากควรทำให้ถูกวิธี โดยให้ปิดจมูก ปาก คาง และกระชับกับใบหน้า พร้อมกับควรมีการยกการใช้อุปกรณ์ส่วนตัว ลดการออกไปสถานที่เสี่ยงนอกบ้าน หมั่นล้างมือเป็นประจำ ทำความสะอาดอุปกรณ์และบริเวณที่จับร่วมกันบ่อย ๆ เช่น ตู้เย็น ลูกบิดประตู ราวบันได โต๊ะอาหาร และให้งดการกินอาหารร่วมกันไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ในครอบครัว ได้
เปิดจอง "ซิโนฟาร์ม" บุคคลธรรมดา รอบสอง 75,000 ราย 4 ส.ค. นี้ พร้อมเงื่อนไขลงทะเบียน
โปรแกรมถ่ายทอดสดโอลิมปิก 2020 วันนี้ ประจำวันอังคารที่ 3 ส.ค. 2564
ที่มา : กรมอนามัย