Work From Home ทำให้ Work-life Balance มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

โดย PPTV Online

เผยแพร่

Work From Home ทำให้เกิด การทำงานแบบไฮบริด สำรวจเสียงพนักงานออฟฟิศ พบว่า การทำงานไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานที่อีกต่อไป แต่ขึ้นอยู่กับผลงานที่ทำออกมา และพบว่าสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 271,159 บาทต่อปี

สถานการณ์โควิด-19 ทำให้เกิด New Normal อย่าง Work From Home ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดจากการ Work From Home  ทำให้เกิด การทำงานแบบไฮบริด คือ ปัจจัยสำคัญสำหรับการทำงานไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานที่อีกต่อไป แต่ขึ้นอยู่กับผลงานที่ทำออกมา

เปิดลิสต์ "กระเป๋าแบรนด์เนม" รุ่นไหนสุดปัง ปล่อยแล้วไม่เจ็บตัว

Work From Bed ต้นเหตุปัญหาสุขภาพ ของคนที่ Work From Home

ช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าปัจจัยสำคัญสำหรับการทำงานไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานที่อีกต่อไป แต่ขึ้นอยู่กับผลงานที่ทำออกมา ในโลกวิถีใหม่ของ การทำงานแบบไฮบริด 

ทั้งนายจ้างและลูกจ้างขององค์กรต่างๆ ในไทยได้รับประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมในหลายๆ ด้าน เช่น พนักงานมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตามความเห็นของ นายทวีวัฒน์ จันทรเสโน กรรมการผู้จัดการ ซิสโก้ ประเทศไทย

บริษัทใหญ่ แฉ! พฤติกรรมพนักงานออฟฟิศ WFH แต่ไม่ทำงาน

เขาบอกด้วยว่า การทำงานแบบไฮบริด ยังส่งผลดีต่อการดำเนินงานโดยรวมขององค์กร  และเป็นมากกว่าการรองรับการกลับเข้าทำงานในออฟฟิศอย่างปลอดภัย  นั่นหมายถึง ผลดีมากกว่าการป้องกันโรคระบาดโควิด-19 

มีรายงานผลการศึกษาของซิสโก้เกี่ยวกับความพร้อมของพนักงานสำหรับการทำงานแบบไฮบริด ("Employees are ready for hybrid work, are you?") ที่น่าสนใจ  พบว่า

  • พนักงานในไทย 7 ใน 10 คน (70%) เชื่อว่าคุณภาพการทำงานดีขึ้น
  • พนักงานในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน (71%) รู้สึกว่าประสิทธิภาพการทำงานของตนเองปรับปรุงดีขึ้น 
  • ที่สำคัญก็คือ 82% รู้สึกว่าตนเองสามารถทำงานจากที่บ้านตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้สำเร็จเท่ากับการทำงานในออฟฟิศ

"ครีมกันแดด" ไอเทมผิวจำเป็นเมื่อต้อง Work From Home

อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจความคิดเห็นของพนักงาน 28,000 คนใน 27 ประเทศ รวมถึงผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 1,050 คนในไทย พบว่า มีพนักงานในไทยเพียง 37% เท่านั้นที่คิดว่าบริษัทของตน 'มีความพร้อมอย่างมาก' สำหรับการทำงานแบบไฮบริดในอนาคต

นายทวีวัฒน์ กล่าวเสริมว่า  ผู้บริหารจำเป็นที่จะต้องบ่มเพาะวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้อประโยชน์แก่ทุกคน และให้ความสำคัญกับพนักงานเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของประสบการณ์ การมีส่วนร่วม และคุณภาพชีวิตของพนักงาน  และต้องปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายและระบบรักษาความปลอดภัยหรือระบบซีเคียวริตี้ให้ทันสมัยเพื่อนำเสนอประสบการณ์การทำงานที่ปลอดภัย ไร้รอยต่อ และครอบคลุมคนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง 

นอกจากนั้น ยังจำเป็นต้องมีระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่เหมาะสมสำหรับการตรวจสอบแง่มุมต่างๆ ของระบบไอที รวมถึงการทำความเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบการใช้งานแอพพลิเคชั่น ระบุและแก้ไขปัญหาในแบบเรียลไทม์ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นสำหรับทุกคน โดยอาศัยความสามารถในการตรวจสอบอย่างทั่วถึง (Full-Stack Observability)

การทำงานแบบไฮบริด (Hybrid Work) เพิ่มประสิทธิภาพ Work-life Balance

ในรายงานผลการศึกษาทั่วโลกฉบับล่าสุดของซิสโก้ ที่มุ่งตรวจสอบผลกระทบของการทำงานแบบไฮบริดต่อคุณภาพชีวิตใน 5 ด้านที่สำคัญ ได้แก่ ด้านอารมณ์ การเงิน จิตใจ ร่างกาย และสังคม บอกด้วยว่า ทำงานแบบไฮบริด ช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตของพนักงานในไทย รวมไปถึงสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิต และประสิทธิภาพในการทำงาน  แม้ว่าองค์กรต่างๆ ได้รับประโยชน์จากประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มสูงขึ้นของพนักงาน  

โดยผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ (85%) ระบุว่า การทำงานแบบไฮบริดและการทำงานจากที่บ้านช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตของตนในหลากหลายแง่มุม

พนักงาน 83% ในประเทศไทย ให้เหตุผลสำคัญ คือ

  • ตารางเวลาการทำงานมีความยืดหยุ่นมากขึ้น (54%)
  • ไม่ต้องเดินทางเพื่อไปทำงานหรือมีการเดินทางน้อยลงอย่างมาก (46%) 
  • นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามเกือบ 3 ใน 4 (74%) ประหยัดเวลาได้อย่างน้อย 4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เมื่อทำงานอยู่ที่บ้าน และกว่า 1 ใน 4 (33%) ประหยัดเวลาได้อย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

ประหยัดค่าใช้จ่ายได้เกือบ 300,000 บาทต่อปี 

ผู้ตอบแบบสอบถามในไทยเกือบ 9 ใน 10 คน (87%) ระบุว่า คุณภาพชีวิตด้านการเงินของตนเองปรับปรุงดีขึ้น โดยเฉลี่ยแล้วสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้กว่า 7,800 ดอลลาร์ (271,159 บาท) ต่อปี

ผลสำรวจพบว่า

  •  อันดับหนึ่ง (84%) ประหยัดค่าน้ำมันเชื้อเพลิงและ/หรือค่าเดินทาง
  •  อันดับที่สอง ค่าอาหารและความบันเทิง ( 64% )

ทั้งนี้ผู้ตอบแบบสอบถาม 8 ใน 10 คน (81%) เชื่อว่าตนเองจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้ในระยะยาว และหากคิดที่จะเปลี่ยนงาน ก็อาจพิจารณาปัจจัยเรื่องการประหยัดค่าใช้จ่ายที่ว่านี้ในการตัดสินใจ

นอกจากนั้น ผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 8 ใน 10 คน (83%) เชื่อว่าตนเองมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้นเนื่องจากการทำงานจากที่บ้าน และผู้ตอบแบบสอบถามในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกันนี้ (78%) ระบุว่าการทำงานแบบไฮบริดส่งผลดีต่อนิสัยการกินของตนเอง

ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ (84%) ชี้ว่า การทำงานจากที่บ้านช่วยปรับปรุงความสัมพันธ์ในครอบครัว และเกือบ 2 ใน 3 (64%) ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า ความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ แน่นแฟ้นมากขึ้น

ยังมีอีกหลายอย่างที่จะต้องทำเพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้อประโยชน์ให้แก่คนทุกกลุ่ม และผนวกรวมรูปแบบการทำงานไฮบริดอย่างกลมกลืน เพื่อยกระดับความพร้อมและปรับปรุงประสบการณ์ของพนักงาน

 

ข้อมูลน่ารู้ สุขภาพน้ำตาลในเลือด​

ที่ปรึกษาอนามัยโลกคาด “ฝีดาษลิง” อาจระบาดหนักเพราะ “เพศสัมพันธ์”

 

Bottom-VNL2025 Bottom-VNL2025

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ