"ผู้ชายเจ้าชู้" มักถูกด่าทอด้วยคำว่าไม่รู้จักพอ ความไม่พอของคนเจ้าชู้สร้างปัญหาได้มากมายล้านแปด และเกินกว่าที่จะจินตนาการได้ ในทางสังคมศาสตร์เชื่อว่าการที่มนุษย์คนนึงจะมีพฤติกรรมหรือความสัมพันธ์ทางเพศต่ออีกฝ่ายที่มากกว่าหนึ่งคนในระยะเวลาเดียวกัน อาจเกิดจากปัจจัยด้านครอบครัว สังคม การเลี้ยงดู และประสบการณ์ แต่ในมุมมองของวิทยาศาสตร์เห็นต่างออกไปจากนั้น จะเป็นอย่างไรถ้า ผู้ชายเจ้าชู้ถูกอธิบายทางวิทยาศาสตร์ว่า ความเจ้าชู้ที่เกิดขึ้น อาจติดตัวมาตั้งแต่เกิดแบบเลือกไม่ได้!
เช็ก 10 สัญญาณความสัมพันธ์ ความรักที่ดีหรือเป็นพิษ
เคล็บไม่ลับ "ถนอมความรัก" ยืนยาวมั่นคง กราฟชีวิตเป็นจังหวะเดียวกัน
ซึ่งต่างกับผู้หญิง จากการวิจัยของ ดร.Tim Spector จากมหาวิทยาลัย King's College แล้ว พบว่าผู้หญิงที่มีคู่นอนหลายคนนั้นไม่มีความเกี่ยวข้องกับยีน vasopressin receptor แต่อย่างใด
แม้ว่าความเจ้าชู้จะเป็นสิ่งที่ใครหลายคนเลี่ยงที่จะพบเจอ แต่ผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารบุคลิกภาพและจิตวิทยาสังคมระบุว่า “ผู้หญิงที่อยู่ในช่วงสัปดาห์ตกไข่จะมีสารเคมีในสมองที่ทำให้ตกหลุมรัก (โดปามีน, อดรีนาลีน และเซโรโทนิน) และฮอร์โมนเอสโตรเจนมากขึ้น พร้อมกับหลั่ง “สารเอ็นโดรฟิน” ที่ทำให้เราตกหลุมรัก แต่ในช่วงเวลาไข่ตกนั้น ผู้หญิงมักถูกฮอร์โมนตัวเองลวงว่า ผู้ชายที่มีความเจ้าชู้อยู่หน่อย ๆ น่าจะดีกว่า ผู้ชายที่มีลักษณะจะเป็นพ่อที่ดีและทุ่มเท”
ทดสอบโดยกลุ่มตัวอย่าง โดยการให้เหล่าสาว ๆ เลือกหนุ่ม ๆ ในช่วงที่ตกไข่และช่วงเวลาปกติ ช่วงเวลาที่ผู้หญิงตกไข่จะมีแนวโน้มคิดว่าผู้ชายที่มีความเจ้าชู้อยู่หน่อย ๆ จะสามารถเป็นคุณพ่อที่พึ่งพาได้ แต่อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาปกติพวกเธอกลับคิดว่า ผู้ชายที่มีความเจ้าชู้อยู่หน่อย ๆ เซ็กซี่กว่าจริง แต่ก็เหมาะจะเป็นคู่หูมากกว่าเป็นพ่อที่ดี
ถึงแม้ว่าหนุ่มแบดบอยอาจจะหวือหวาและน่าดึงดูดใจสาว ๆ มากกว่า หากคุณกำลังมองหาความสัมพันธ์ระยะยาวหรือคุณพ่อที่ดีของครอบครัว เราก็คงต้องบอกว่าให้มองหลาย ๆ องค์ประกอบ มองให้ลึก ศึกษาให้นาน และเลือกคนที่ถูกใจ เพื่อจะได้รับพลังงานบวกจากความรัก มาพัฒนาชีวิตคู่ของคุณ
ฮอร์โมนเทสโทสเตอร์โรน (Testosterone) คืออะไร มีความสัมพันธ์ในเรื่องเพศสัมพันธ์มากแค่ไหน?
ฮอร์โมน Testosterone เป็นฮอร์โมนเพศชายที่สำคัญ โดยผลิตจากอัณฑะของผู้ชาย ทำหน้าที่ควบคุม เกื้อหนุนลักษณะการแสดงออกทางเพศชาย สนับสนุนการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ช่วยสร้างกล้ามเนื้อและมวลกระดูก เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง ดังนั้น หากฮอร์โมนเพศชายผิดปกติจึงไม่ใช่แค่ส่งผลต่อเรื่องเซ็กส์ แต่อาจกระทบการใช้ชีวิตในด้านอื่น ๆ ด้วย
การที่ฮอร์โมนเทสโทสเตอร์โรน (Testosterone) สูงเกินไป สามารถสังเกตอาการได้ดังนี้
- อาจเกิดความเสียหายของกล้ามเนื้อหัวใจ และเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจวาย
- ต่อมลูกหมากโตและปัสสาวะลำบาก
- โรคตับ
- เป็นสิว
- อาการบวมน้ำบริเวณขาและเท้า
- น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากความอยากอาหารเพิ่มขึ้น
- ความดันโลหิตสูง และคอเลสเตอรอลสูง
- นอนไม่หลับ
- ปวดหัว
- มวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น
- เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือด
- ในวัยรุ่นมีการเติบโตของร่างกายเพิ่มขึ้น
- พฤติกรรมก้าวร้าวผิดปกติ
- อารมณ์แปรปรวน
แม้ว่าจะมีวิจัยหรือการศึกษาสนับสนุนในเรื่องพฤติกรรมหรือความสัมพันธ์ทางเพศของผู้ชายได้ แต่ก็ไม่สามารถนำทั้งหมดมาอ้างได้ว่า การเช้าชู้เกิดจากเซลล์และฮอร์โมน เนื่องจากมนุษย์เรามีสิ่งที่ต่างจากสัตว์คือความรู้จักผิดชอบความดี ฉะนั้นภายใต้สภาวะที่ร่างกายมีความต้องทางเพศสูง แต่ก็ยังถูกความคุมด้วยความรู้คิดผิดชอบชั่วดี เป็นสิ่งที่พึงมีในมนุษย์ทุกคน และหากมีอาการผิดปกติที่สามารถสังเกตอาการได้แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อการรักษาที่ถูกต้องนะคะ
ที่มา : โรงพยาบาลนครธน, unlockmen, สำนักข่าว Hfocus เจาะลึกระบบสุขภาพ และโรงพยาบาลพญาไท