เทรนด์ “Y2K” กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง หลังคนดังตัวแม่หลายๆ คนรวมถึงไอดอลเกาหลีได้หันมาหยิบสไตล์การแต่งตัวแบบ “Y2K” กันอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น Dua Lipa, BlackPink, MILLI หรือ NewJeans จนกลายเป็นที่พูดถึงและเป็นไวรัลในปัจจุบัน
ทำให้หลายคนอยากรู้เรื่องราวในอดีตกันเต็มไปหมด แต่เมื่อใกล้เข้าสู่เทศกาลแห่งความรักแล้ว จะไม่พูดถึงวิธีการบอกรักในสมัยก่อนคงไม่ได้
เราเลยจะฝากทุกคนย้อนเวลากลับไปในอดีต ดูกันว่าในยุคนั้นเขาบอกรักกันยังไง เผื่อใครจะทำคอนเทนต์ลงโซเชียลมีเดียลงในวันวาเลนไทน์กัน!
ดาวกระดาษสื่อรัก
การพับดาวใส่โหลแก้ว ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเด็กผู้หญิงหนึ่งชื่อว่า “โฮชิ” เธอชอบนอนเล่นและมองดาวบนท้องฟ้า อยู่ดีๆ วันหนึ่งเธอสังเกตเห็นดาวร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า หลายคนที่เห็นต่างคุกเข่าลง แต่โฮชิกลัวว่าจะไม่มีดวงดาวอีกแล้ว เธอจึงวิ่งกลับบ้านไปเอาโหลแก้วมา แล้วนำกระดาษมาพับเป็นดาวตามจำนวนที่ร่วงหล่น แต่เธอก็ยังเศร้าอยู่ดีเพราะยังมีดวงดาวอีกมากมายที่ตกลงมา ซึ่งเธอพับได้ไม่ได้หมด
ในคืนถัดมาเธอเห็นดวงดาวไม่กี่ดวงที่เหลืออยู่บนท้องฟ้า จึงรีบวิ่งไปเคาะประตูที่บ้านเพื่อแต่ละหลัง เพื่อให้ออกมาช่วยพับดาวกัน คืนนั้นพวกเขาทำดาวได้ 2,000 ดวง แต่ที่น่าประหลาดใจคือคืนต่อมาท้องฟ้าปรากฏดาวขึ้นหลายดวง ทำเอาเด็กๆ ส่งเสียงเฮลั่น หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์ โฮชิจึงได้รับแรงบันดาลใจในการพับดาวขอพร
การพับดาวให้คนรักจึงเป็นการแสดงออกถึงความมุ่งมั่น ความพยายามของคนคนหนึ่งที่พยายามจะทำสิ่งของถึงอีกคนหนึ่ง แม้จะไม่มีคุณค่าอะไรมากมาย แต่ถือว่ามีคุณค่าทางจิตใจ และยังมีความเชื่อว่าจำนวนที่พับได้ จะสื่อความหมายดังนี้
- 1 ดวง ความหมาย คุณคือรักเดียวของฉัน
- 2 ดวง ความหมาย ความสุขและความสำเร็จที่จะได้เป็นคู่รัก
- 9 ดวง ความหมาย ขอให้คุณรักไปชั่วชีวิต
- 55 ดวง ความหมาย ฉันจะรักคุณโดยไม่มีความเสียใจใดๆ
- 99 ดวง ความหมาย ขอให้คุณได้รับความรักที่ไร้พรมแดน
- 101 ดวง ความหมาย คุณคือคนเดียวในชีวิตของฉัน
- 129 ดวง ความหมาย ฉันจะรักคุณตลอดไป
- 365 ดวง ความหมาย ขอพรได้ตลอดทั้งปี
- 548 ดวง ความหมาย ความรักของคุณที่มีต่อฉันจะไม่มีวันสิ้นสุด
- 999 ดวง ความหมาย รักคุณชั่วนิจนิรันดร์
- 10,000 ดวง ความหมาย ครองรักหมื่น ๆ ปี
ขอเพลงดีเจบอกรัก
“เพลง” นอกจากจะมีความหมายลึกซึ้งกินใจแล้ว ท่วงทำนองยังทำให้ดื่มดำกับบรรยากาศได้อีก ผู้คนจึงมักส่งเพลงรักโรแมนติก เพื่อสื่อให้ฟังว่าฉันรักเธอมากขนาดไหนนั่นเอง
แต่ในสมัยก่อนนั้น ไม่มีสมาร์ทโฟนเหมือนอย่างในยุคปัจจุบัน สิ่งที่ใช้เป็นหลักคือวิทยุ ตอนกลับบ้านมาไม่ว่าจะทำการบ้าน ซักผ้า รีดผ้า หรือจะทำอะไรก็ตามก็จะเปิดวิทยุฟังไปด้วยเสมอ ทำให้เมื่อก่อนนั้นผู้คนมักจะขอเพลงกับดีเจ แล้วบอกว่าขอส่งให้กับใครเพื่อเป็นการบอกรักเป็นนัยๆ เผื่อว่าเขาคนนั้นจะฟลุกฟังอยู่พอดี
ส่งจดหมาย ใส่แป้งหอม
หากจะบอกรักคนพิเศษ แค่ส่งจดหมายธรรมดาๆ คงไม่ได้ เพราะกลิ่นหอมๆ เหมือนเป็นการแสดงความใส่ใจ หรือบ่งบอกว่าเธอเป็นคนพิเศษสำหรับเราจริงๆ
ถ้าในยุคแรกๆ สมัยที่กระดาษยังไม่มีกลิ่นหอม เราก็อาจต้องใส่แป้งลงไปหลังเขียนข้อความเสร็จ แต่ในยุคหลังๆ เมื่อโรงงานสามารถผลิตกระดาษที่มีกลิ่นหอมได้แล้ว วัยรุ่นในยุคนั้นก็เพียงคัดเลือกกลิ่นกระดาษอย่างพิถีพิถัน
การเขียนจดหมายไปหากัน ก็จะเป็นการถามไถ่เรื่องราวชีวิตของแต่ละคน เขียนบทกลอน หรือเขียนบอกความในใจ สิ่งนี้เป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้เขารับรู้ได้ว่าเรารู้สึกอย่างไร และยังสามารถเก็บเอาไว้ดูต่างหน้าเป็นของแทนใจได้อีก
เพจเจอร์ส่งความในใจไปให้เธอ
การบอกรักที่โรแมนติกไม่แพ้วิธีไหนๆ แต่ต้องอาศัยความกล้าระดับนึงในการฝาก เพราะเพจเจอร์เป็นเครื่องรับข้อความที่ผู้ส่งจะต้องบอกข้อความผ่านคอลเซ็นเตอร์ เพื่อให้คอลเซ็นเตอร์พิมพ์ข้อความส่งไปหาคนในใจของเราอีกทีหนึ่ง แต่ในสมัยนั้นไม่ได้มีแค่ส่งข้อความหวานๆ เพียงอย่างเดียว การส่งเพลงรัก หรือแต่งกลอนไปให้ถือเป็นกิจกรรมยอดฮิตเหมือนกัน
ส่งบัตรจีบแอบไว้ใต้โต๊ะ
บัตรจีบ คือบัตรของเล่นในยุคนั้นที่มักแอบสอดไว้ใต้โต๊ะ หรือได้สมุดของคนในใจ มีลักษณะเป็นนามบัตรหนึ่งใบ ด้านหน้ามีข้อความหนาตัวใหญ่ระบุว่า “บัตรจีบ” จากนั้นก็จะมีข้อความรักหวานซึ้งที่ระบุเอาไว้อย่างเช่น “เราเป็นคนพูดน้อย มีความสนใจในตัวคุณ อยากทำความรู้จักและอยากเป็นเพื่อน หากคุณไม่รังเกียจโปรดพยักหน้าหรือยิ้มสักนิด หากคุณรังเกียจ โปรดคืนบัตรด้วย”
ถ้าเขาหันกลับมาส่งยิ้ม นั่นก็หมายความว่าเขารู้ความในใจแล้ว ส่วนคนที่ยังไม่รู้ว่าใครที่ส่งมา อย่างน้อยคนส่งให้ก็จะได้รอยยิ้มน้อยๆ ของเธอที่มุมปาก ถือเป็นการส่งต่อความรู้สึกดีๆ จากผู้หวังดีได้เหมือนกัน
บอกรักผ่านตู้หยอดเหรียญ
สมัยนั้นโทรศัพท์ยังไม่ได้แพร่หลายเท่าปัจจุบันนี้ ถ้าอยากจะติดต่อใครสักคนก็ต้องพึ่งตู้หยอดเหรียญ ที่ใช้เหรียญบาท เหรียญห้า เหรียญสิบเอาไว้โทรหากัน ซึ่งโทรศัพท์สาธารณะแบบนั้นจะไม่มีเงินทอน จึงต้องเตรียมให้พอดี หรือถ้าใครที่มีงบมากหน่อยก็สามารถซื้อบัตรโทรศัพท์ในราคาหลักร้อยมาใช้ได้
การบอกรักแบบนี้ที่พิเศษ คือ ต้องนัดคนที่เราอยากโทรหาไว้ด้วยนะ เพราะถ้าไม่นัดกันให้ดีๆ ก็อาจได้เจอพ่อกับแม่ของเธอแทน หรือไม่อย่างนั้นก็อาจจะต้องคลาดกัน แล้วกลับไปยืนต่อแถวใหม่ก็ได้
ตำนานรักคิวปิด กามเทพที่ไม่ได้มีรักราบรื่นดั่งที่ดลบันดาลให้ผู้อื่น
104 แคปชัน-คำอวยพร วาเลนไทน์ 2568 ประโยคเด็ดบอกสถานะ โสด มีคู่ อกหัก