เมื่อโลกกำลังพัฒนา แต่ผืนป่ากลับค่อยๆ หายไป จึงมีการก่อตั้ง วันสัตว์ป่าและพืชป่าโลก (World Wildlife Day) เพื่อให้เห็นคุณค่าของป่าไม้ สัตว์ป่าที่กำลังจะสูญพันธุ์ และต้องการให้เห็นถึงประโยชน์ที่ธรรมชาติได้มอบให้กับมนุษย์
วันสัตว์ป่า พืชป่าโลก (World Wildlife Day) ตรงกับวันที่ 3 มีนาคม ของทุกปี ซึ่งยึดตามวันที่ก่อตั้งภาคีอนุสัญญาไซเตส (CITES) เมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2516
เพื่อสร้างความตระหนักให้กับกลุ่มประเทศภาคีอนุสัญญาไซเตส (CITES) อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าและพืชป่าถูกคุกคาม (The Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora) โดยการสร้างเครือข่ายทั่วไปในการควบคุมการค้าระหว่างประเทศ ทั้งสัตว์ป่า พืชป่าที่มีชีวิต ซาก และผลิตภัณฑ์
หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “อนุสัญญาวอชิงตัน” (Washington Convention) ซึ่งมีประเทศไทยเป็นสมาชิกลำดับที่ 80 โดยลงนามรับรองอนุสัญญาในปี 2518 และให้สัตยาบันในวันที่ 21 มกราคม 2526 โดยปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 178 ประเทศ ในการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเพื่อประโยชน์แห่งมวลมนุษยชาติ
ในปัจจุบันสัตว์เกือบหนึ่งในสี่ของโลกกำลังเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า จากการถูก ล่า ฆ่า ค้าสัตว์เถื่อน รวมไปถึงป่าไม้ที่กำลังหายไปเพราะมนุษย์รุกล้ำที่เพื่อจะสร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆ และยังเป็นเหตุให้เกิดภาวะโลกร้อนอีกด้วย จึงจำเป็นที่จะต้องสร้างความตระหนักให้กับประชาชนถึงประโยชน์มากมายของสัตว์ป่าให้กับผู้คน โดยเฉพาะกับชุมชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง และยังเป็นเป้าหมายเร่งด่วนที่ รัฐบาล ภาคประชาสังคม ภาคเอกชน และประชาชน หันมาร่วมมือกันช่วยอนุรักษ์สัตว์ป่าอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
ประเทศไทย เริ่มจัดงานอย่างเป็นทางการครั้งแรกในปี พ.ศ. 2557 โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้จัดนิทรรศการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสัตว์ป่าและพืชป่า เพื่อให้เยาวชนและผู้ที่สนใจได้ศึกษา ซึ่งเป็นการปลูกฝังให้รักและหวงแหนธรรมชาติ นอกจากนี้ในหลายๆ จังหวัดยังได้จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ ปล่อยสัตว์ป่าคืนสู่ธรรมชาติ และการเสวนาต่างๆ ด้วย
โดยธีมของวันสัตว์ป่าและพืชป่าโลก ประจำปี 2566 คือ "Partnerships for Wildlife Conservation" - ร้อยมือ ร่วมรักษ์ พิทักษ์สรรพชีวิต เพื่อให้ความสำคัญแก่ผู้ที่กำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงในด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่าและพืชป่า การรักษาไว้ซึ่งกลุ่มพันธมิตรที่มีอยู่แล้วและการสร้างพันธมิตรใหม่ในการอนุรักษ์ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งต่ออนาคตของทุกชีวิตบนโลก ความเป็นอยู่ของมนุษยชาติในฐานะชนิดพันธุ์หนึ่งขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของจำนวนประชากรสัตว์ป่าและพืชป่า และความเฟื่องฟูของระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพซึ่งจะช่วยค้ำจุนให้โลกใบนี้มีสุขภาวะที่ดี และเป็นแหล่งพึ่งพิงให้ทุกชีวิตต่อไป
เราสามารถมีส่วนร่วมกับ วันสัตว์ป่า พืชป่าโลก ได้โดยการ ช่วยกันปลูกป่า ลดการสร้างมลพิษ ไม่สนับสนุนสินค้าต่างๆ ที่ทำมาจากสัตว์ป่าผิดกฎหมาย ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการอนุรักษ์สัตว์และผืนป่า รวมถึงช่วยกันเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแล ซึ่งหากพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า สามารถแจ้ง สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ขอบคุณภาพจาก : World Wildlife Day Thailand