นิสัยของแมวที่ดูจะกวนใจผู้คนแบบนี้กลับมีประโยชน์เกินคาดในทางนิติเวชศาสตร์ โดยทำให้แมวเหมียวกลายเป็นผู้ช่วยมือหนึ่งของนักสืบและตำรวจในการไขปริศนาคดีอาชญากรรมได้ วารสาร Forensic Science International ฉบับพิเศษว่าด้วยประเด็นทางพันธุศาสตร์ (Genetics Supplement Series) ตีพิมพ์รายงานวิจัยล่าสุดว่าด้วยประโยชน์ของขนสัตว์เลี้ยงในการกักเก็บร่องรอยดีเอ็นเอ ซึ่งอาจช่วยให้เบาะแสของคนร้ายในคดีอาชญากรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเหตุฆาตกรรมหรือปล้นชิงทรัพย์ซึ่งเกิดขึ้นในบ้านที่มีหมาหรือแมวอยู่
การทดลองมีขึ้นในบ้านที่แมวอาศัยอยู่ โดยผู้วิจัยจะเก็บตัวอย่างของร่องรอยดีเอ็นเอจากขนแมว ด้วยการเช็ดถูที่ลำตัวข้างขวาของแมว 2 ครั้ง จากนั้นจะมีการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากบุคคลที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ตามปกติแล้วการสืบสวนคดีอาชญากรรมมักใช้ร่องรอยดีเอ็นเอจากการสัมผัส (touch DNA) ที่เกิดขึ้นหลังมนุษย์จับต้องสิ่งของหรือแตะพื้นผิวต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม ทีมผู้วิจัยคาดว่าร่องรอยดีเอ็นเอจากขนแมวน่าจะเป็นฝุ่นละอองที่ร่วงหล่นจากร่างกาย จำพวกซากเซลล์ผิวหนังและเศษเส้นขนมากกว่า ซึ่งหลักฐานเหล่านี้อาจช่วยชี้ตัวบุคคลภายนอกที่ลอบเข้ามาในบ้าน หรือช่วยให้ตำรวจตัดผู้ต้องสงสัยบางรายออกไปจากการสืบสวนได้
แม้ผลวิจัยในครั้งนี้ยืนยันว่าขนแมวสามารถจะช่วยไขคดีอาชญากรรมได้ แต่ทีมผู้วิจัยบอกว่ายังคงจะต้องทำการทดลองเพิ่มเติมต่อไป เพื่อให้ทราบข้อมูลที่เป็นรายละเอียดเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยให้การวิเคราะห์ร่องรอยดีเอ็นเอจากขนแมวมีความถูกต้องแม่นยำมากขึ้น