ทะเลมีพื้นที่ 3 ใน 4 ของโลกใบนี้ จึงเปรียบเสมือนหัวใจของโลก ที่เป็นทั้งแหล่งทรัพยากรธรรมชาติขนาดใหญ่และเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ดังนั้นเพื่อเป็นการตระหนักถึงวันสำคัญของท้องทะเลและมหาสมุทร จึงมีการจัดตั้งให้มี “วันทะเลโลก” หรือ “วันมหาสมุทร” ที่มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า “World Ocean Day” ขึ้นมา ให้ตรงกับวันที่ 8 มิถุนายน ของทุกปี
ที่มาของวันทะเลโลก
ในคราวการประชุมสุดยอดระดับประเทศผู้นำว่าด้วยสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา (UN Conference on Environment and Development : UNCEN) หรือการประชุม Earth Summit ณ กรุงริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล เมื่อปี 2535 ประเทศสมาชิกกว่า 178 ประเทศรวมตัวกันเพื่อเผยแพร่ความรู้และรณรงค์การรักษาทะเล ส่งต่อไปยังประชาชนทั่วโลกผ่านเครือข่ายต่างๆ ที่มีอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก พร้อมกับจัดกิจกรรมร่วมกับองค์กรต่างๆ และนับตั้งแต่นั้นมาก็ได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง
จนกระทั่งในปี 2551 องค์การสหประชาชาติจึงกำหนดให้วันที่ 8 มิถุนายนของทุกปีเป็น “วันทะเลโลก” นั่นเอง โดยเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในปี 2552 ซึ่งประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้ร่วมกันจัดกิจกรรมในการดูแลรักษาทะเลและมหาสมุทรอย่างพร้อมเพรียงและได้ทำสืบเนื่องต่อกันมาเรื่อยๆ
กิจกรรมในวันทะเลโลก
ทุกๆ คนสามารถร่วมกันรณรงค์รักษาทะเลในวันสำคัญนี้ ได้โดย
- เก็บขยะชายหาด
- ดำน้ำเก็บขยะทะเล
- รณรงค์ชายหาดปลอดบุหรี่
- บริจาคเงินช่วยเหลือมูลนิธิดูแลสัตว์และผืนทะเล
เช็กปฏิทินเดือนมิถุนายน 2566 มีวันหยุดราชการ-ธนาคาร ตรงกับวันไหนบ้าง
ปฏิทินวันพระ 2566 เช็กเลยตรงกับวันไหนบ้าง วางแผนทำบุญได้ตลอดปี
การรักษาท้องทะเลในระยะยาว
การร่วมมือกันอนุรักษ์ท้องทะเลในระยะยาว ตามคำแนะนำของสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล ที่ทุกคนสามารถทำตามได้ง่ายๆ ดังนี้
1. อย่าจับสัตว์ทะเลหรือเก็บเปลือกหอยกลับบ้าน
ถ้าคุณไปเที่ยวทะเล อย่าจับสัตว์ทะเลหรือเก็บเปลือกหอยกลับบ้าน ปล่อยให้มันอยู่กับทะเลดีกว่า เพื่อแบ่งปันความความสวยงามให้ผู้อื่นได้พบเห็นภายหลัง โดยคุณอาจเลือกวิธีถ่ายภาพเก็บความประทับใจไว้แทนก็ได้
2. ไม่ทิ้งขยะลงในชายหาดและทะเล
การไม่ทิ้งเศษขยะ เศษอาหาร ถุงพลาสติก ลงในชายหาดและในทะเล จะช่วยลดปัญหาสัตว์ทะเลกินเข้าไป ซึ่งทำให้สัตว์ป่วยและเสียชีวิต
3. ไม่ปล่อยน้ำเสียลงท่อระบายน้ำที่ไม่มีการบำบัดน้ำเสีย
ไม่ควรปล่อยน้ำเสียจากการซักล้างหรือน้ำปนเปื้อนสารพิษลงท่อระบายน้ำที่ไม่ได้ผ่านขั้นตอนการบำบัดน้ำเสีย ก่อนปล่อยลงแหล่งน้ำธรรมชาติ เพราะท้ายที่สุดมันจะไหลลงสู่ทะเล
4. ไม่แล่นเรือที่มีรอยรั่วของถังน้ำมัน
ตรวจสอบเรือก่อนออกจากฝั่ง หากมีรอยรั่วของถังเก็บน้ำมันต้องซ่อมแซมก่อน เพื่อป้องกันการรั่วไหลของคราบน้ำมันบนพื้นผิวทะเล
5. ไม่ควรจับสัตว์หรือพืชทะเล ระหว่างดำน้ำ
หากคุณดำน้ำเพื่อชมปะการัง ไม่ควรจับต้องสัตว์ทะเล พืชทะเล เพราะอาจเป็นการทำร้ายสัตว์และพืชทะเลโดยไม่รู้ตัว อีกทั้งยังเป็นการป้องกันอันตรายจากสัตว์มีพิษอีกด้วย
6. อย่าปล่อยโคมลอย ลูกโป่ง ขึ้นบนอากาศ
การไม่ปล่อยโคมลอย ลูกโป่ง ขึ้นบนอากาศ เป็นการช่วยชีวิตสัตว์ทะเลอย่างหนึ่ง เพราะหากมันตกลงทะเล สัตว์ทะเลจะเข้าใจว่าเป็นอาหารและกินเข้าไป ซึ่งเป็นสาเหตุให้สัตว์ทะเลเสียชีวิต
ข้อมูลต้นปี 2566 ชี้กิจกรรมมนุษย์ ทำลายทะเล
ในวันทะเลโลกนี้ เป็นโอกาสดีที่จะทำให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของท้องทะเลนี้อีกครั้ง ซึ่งเราอาจละเลยไป
โดยเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีรายงานจากองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUNC) สะท้อนให้เห็นว่ามนุษย์ในปัจจุบันกำลังคุกคามสิ่งมีชีวิตในทะเล มีสัตว์และพืชทะเล กว่า 1,550 ชนิดจากทั้งหมด 17,903 ชนิด เสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ จากการทำประมงผิดกฎหมายและไม่ยั่งยืน มลพิษ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และโรคภัยไข้เจ็บ
ดังนั้นถึงเวลาแล้วหรือยัง ก่อนที่จะสายเกินไปสำหรับในการดูแลรักษาหัวใจของโลกใบนี้
ขอบคุณข้อมูล : กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุตรดิตถ์ และ สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม