ช่วงเทศกาลตรุษจีนนั้น คนจีนจะทำกิจกรรมกัน 2 อย่าง
กิจกรรมที่ 1 คือการขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองมาตลอดทั้งปี และที่สำคัญคือการขอบคุณบรรพบุรุษ เพราะคนจีนตามความเชื่อขงจื๊อถือว่าบรรพบุรุษมีความสำคัญ การกตัญญูต่อบรรพบุรุษเป็นสิ่งที่ต้องกระทำในทุกโอกาส
กิจกรรมที่ 2 คือการขอพรในปีใหม่ จะมีการขอพรเทพเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และบรรพบุรุษ นอกจากนั้นก็จะเป็นการอวยพรปีใหม่กัน ไปอวยพรผู้ใหญ่ ญาติผู้ใหญ่ หรือผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ เพื่อให้ท่านให้พร ซึ่งเป็นการรับคำสิริมงคลจากผู้ใหญ่
การจัดเตรียมของเซ่นไหว้ในวันตรุษจีน?
สำหรับการจัดเตรียมของไหว้ในวันตรุษจีนนั้น ทีมข่าว “New Media PPTV” ได้สอบถามไปยังอาจารย์เศรษฐพงศ์ จงสงวน ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนวิทยา
โดยนายเศรษฐพงศ์ กล่าวว่า ปกติการเซ่นไหว้ของจีน ของที่จะมาไหว้ส่วนใหญ่ตามหลักจริงๆถือตามความพร้อม แต่หลักๆ จะแบ่งเป็นกลุ่มเนื้อสัตว์ จัดให้เป็นอาหารจากสัตว์เลี้ยงทั้งสามอย่าง เช่น หมู เป็ด ไก่ ปลา หรือห่าน จัดให้ครบทั้งสามอย่าง เรียกว่า “ซาแซ” หมายความว่าสัตว์สำคัญสามอย่าง อีกอย่างหนึ่งคืออาหารที่จะเซ่นไหว้ ได้แก่ ข้าว อาหารคาวหวาน อาหารที่บรรพบุรุษชอบ และของเซ่นไหว้ประเภทขนม ขนมสิริมงคลต่างๆ แล้วก็มีผลไม้
“โดยทั่วไปคนจีนจะแบ่งของเซ่นไหว้ตามความเชื่อ สมมติว่าเซ่นไหว้เทพเจ้า พระพุทธเจ้า หรือพระโพธิสัตว์ ส่วนใหญ่ก็จะมีทั้งอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์กับอาหารเจ แล้วแต่ว่าเทพเจ้าพระองค์ไหน บางท่านเสวยแต่ของเจก็ไหว้เป็นเจ หรือบูชาพระโพธิสัตว์กวนอิมก็จะเป็นของเจ” นายเศรษฐพงศ์ กล่าว
ส่วนการเซ่นไหว้บรรพบุรุษนั้นจะต้องมีอาหารและขนมที่ท่านชอบ ซึ่งจะต้องมีความหมายในเชิงสิริมงคล เช่น เนื้อสัตว์
- หมู หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์
- ไก่ หมายถึง ความเป็นสิริมงคลและความขยันขันแข็ง
- เป็ดและปู หมายถึง การได้ตำแหน่ง
นอกจากนั้นอาหารบางชนิดก็มีความหมายมงคล เช่น เต้าหู้ มีความหมายว่า ตำแหน่งขุนนาง ซึ่งอาหารพวกนี้ก็จะเป็นสิริมงคล พอเราเซ่นไหว้ไปแล้วก็จะเป็นสิริมงคลแก่ตัวเรา
ส่วนผลไม้ที่นิยมมากที่สุดจะเป็นส้ม ถือว่าเป็นตัวแทนผลไม้ทุกชนิด เพราะคนจีนเรียกส้มว่า “จวี๋” ซึ่งพ้องเสียงใกล้เคียงกับคำว่า “จี๋” ที่แปลว่า สิริมงคล ก็เลยใช้ส้มเป็นหลัก ดังนั้นจะเห็นได้ว่าคนจีนจะเอาส้มไปอวยพร โดยมักจะถือส้มไป 4 ใบ ซึ่งเลข 4 นี้ก็มีความหมายมงคล หมายถึง 4 ฤดู พ้องเสียงกับคำว่าความสุข
- องุ่น หมายถึง การเฟื่องฟู
- กล้วยหอมและสัปปะรด หมายถึง การเรียกโชคลาภเข้ามา
- แอปเปิ้ล หมายถึง ความสุขสงบในชีวิต
ผลไม้เหล่านี้มีความหมายสิริมงคล ซึ่งโดยปกติผลไม้จะมีการจัดใส่ภาชนะรวมกันหรือจะจัดแยกกันก็ได้ เป็นตัวเลขที่เป็นมงคล เช่น จัด 4 ลูก หรือ 5 ลูก
นอกจากนั้นก็จะมีพวกขนม เช่น ขนมถ้วยฟู ซึ่งมีความหมายว่าในการทำขนม พอใส่เชื้อผงฟูเข้าไป ขนมชนิดนั้นก็จะฟู เหมือนกับชีวิตรุ่งเรืองเฟื่องฟูขึ้นมา
ซาลาเปาก็เหมือนการห่อเอาความสุข ห่อโชคห่อลาภอะไรต่างๆ
โดยหลักการไหว้ในตรุษจีนมักจะใช้ขนมเป็นขนมหวาน เพราะคนจีนถือว่าในต้นปี อยากจะให้ตลอดทั้งปีมีแต่ความสุข ความหวานชื่น เพราะความหวานเป็นตัวแทนของความสุข
การจัดโต๊ะตรุษจีน?
นายเศรษฐพงศ์ กล่าวว่า ในการจัดโต๊ะส่วนใหญ่จะจัดเรียงตามลำดับ ด้านในสุดจะเป็นน้ำชา ถัดออกมาจะเป็นพวกอาหารต่างๆ และผลไม้ ต่อมาก็จะเป็นเนื้อสัตว์ และกระดาษเงินกระดาษทองเป็นชุดสุดท้าย
โดยการตั้งน้ำชาจะเป็นการคารวะ ในส่วนกระดาษเงินกระดาษทองถือว่าเป็นเครื่องบูชา ถ้าเป็นบรรพบุรุษ นอกจากกระดาษเงินกระดาษทอง ก็จะเป็นพวกเสื้อผ้ากระดาษ เป็นการเผาส่งไปให้บรรพบุรุษใช้สอย ส่วนเทพเจ้าจะเป็นการแสดงความขอบคุณ ทั้งนี้การเผากระดาษจะเผากันในวันสิ้นปีหรือก็คือวันไหว้ ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2559 ซึ่งในวันขึ้นปีใหม่จะไม่นิยมเผากระดาษ จะมีการขอพรเฉยๆ จนเลยเข้าวันที่ 2 ของปีใหม่จึงจะเริ่มเผากระดาษตามปกติ
คนรุ่นใหม่ที่ไม่รู้จักพิธีกรรม และไม่สะดวกที่จะจัดเตรียมของได้ทั้งหมด แต่อยากรักษาประเพณีไว้?
นายเศรษฐพงศ์ กล่าวว่า หลักการของประเพณีจีนถือความกตัญญูเป็นหลัก ส่วนการจัดพิธีกรรมต่างๆ ถือเป็นแค่เปลือกนอก เป็นเครื่องประกอบ เป็นประเพณี แต่โดยสาระในวันตรุษจีนคือระลึกถึงบรรพบุรุษ พ่อแม่ หรือผู้ที่มีอุปการะคุณแก่เรา อันนี้เป็นหลักที่สำคัญที่ควรจะรักษาไว้ ส่วนความพร้อมในการจัดไหว้ก็ดูตามความเหมาะสม อาจมีแค่จัดผลไม้ ส้มสักจานหนึ่งก็ได้ หรืออาหารที่บรรพบุรุษชอบ ก็เป็นการแสดงความคารวะได้พอสมควร ส่วนหากจะจัดตามประเพณีได้อย่างถูกต้อง ก็ค่อยๆ ศึกษา และเรียนรู้ไป
Content : ภาสินี พลับบุรี
Producer/Editing: บุญญานันท์ คำโพธิ์ทอง
PPTV Photo : สมศักดิ์ เนตรทอง