กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอเกิดจากอะไร มีวิธีแก้อย่างไร?

โดย PPTV Online

เผยแพร่

กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ เกิดขึ้นได้จากเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หากมีอาการเจ็บคอมานานกว่าหลายสัปดาห์พร้อมด้วย ควรปรึกษาแพทย์

กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอเกิดจากอะไร เจ็บคอแบบไหนอันตราย ต้องเฝ้าระวัง!

ทุกคนเคยเป็นเหมือนกันหรือเปล่า จู่ ๆ ก็มีอาการระคายเคืองบริเวณลำคอจนรู้สึกรำคาญ เวลากลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอคล้ายถูกของมีคมบาด อาการดังกล่าวเป็นสัญญาณของความผิดปกติบริเวณลำคอ ซึ่งอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ภายหลังหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี 

อาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอมีที่มาจากสาเหตุของโรคที่แตกต่างกันและมีวิธีการรักษาไม่เหมือนกัน เช่น การเจ็บคอเนื่องจากการติดเชื้อจะต้องรักษาด้วยการกินยาฆ่าเชื้อ

คอนเทนต์แนะนำ
ปวดท้องบิด ตรงกลาง เป็น ๆ หาย ๆ สาเหตุที่เกิดและความเสี่ยง
10 วิธีไล่ลมในท้อง แก้ท้องอืด แน่นท้องที่ทำตามง่าย เห็นผลจริง

อาการเจ็บคอเกิดจากอะไร Freepik/Kmpzzz
อาการเจ็บคอเกิดจากอะไร

การเจ็บคอจากการตะโกนหรือการดื่มน้ำน้อยต้องปรับพฤติกรรม เป็นต้น  เพราะฉะนั้นบทความนี้ เราจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการเจ็บคอจนกลืนน้ําลายลําบากว่าเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง แล้วแต่ละสาเหตุมีวิธีแก้อย่างไร

กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอเกิดจากอะไร

กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอเป็นอาการที่สามารถเกิดได้จาก 3 สาเหตุหลัก ๆ คือจากการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และอาการเจ็บคอที่เกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ที่โรคบางอย่างหรือพฤติกรรมที่เป็นปัจจัยกระตุ้นทำให้เกิดการอักเสบบริเวณลำคอ โดยแต่ละสาเหตุนอกจากเวลากลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ ยังมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดหู ไอจาม เป็นไข้

  • กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอจากเชื้อไวรัส

อาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอที่เกิดจากเชื้อไวรัสมักมาพร้อมการป่วยเป็นไข้ มีอาการคอแดงและมีอาการไอออกมาเป็นพัก ๆ ซึ่งเป็นอาการที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดต่าง ๆ เช่น การติดเชื้อไข้หวัดทั่วไปหรือไข้หวัดใหญ่ หรือการติดเชื้อโควิด 19 เป็นต้น

  • กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอจากแบคทีเรีย

การกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอจากแบคทีเรียเป็นอาการที่พบได้ยากกว่าการติดเชื้อไวรัส แต่มีอาการที่รุนแรงกว่ามากตามอาการของโรค นอกจากการกลืนน้ําลายแล้วเจ็บคอยังมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปวดหู ลำคออักเสบ มีเสมหะเหนียวข้น อาการเจ็บคอจากแบคทีเรียมีระยะแสดงอาการที่นานและต้องทานยาปฏิชีวนะตามที่แพทย์จ่ายยาให้

  • กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ

กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อเป็นอาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอที่มาจากสาเหตุอื่นนอกจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย โดยอาจมาจากอาการของโรคและพฤติกรรมเสี่ยงที่ส่งผลเสียต่อลำคอและกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ โดยตัวอย่างของพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงทำให้เจ็บคอมากจนกลืนน้ําลายไม่ได้ ได้แก่ การใช้เสียงที่มากเกินไปไม่ว่าจะเป็นการตะโกน การร้องเพลง การพูดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวสามารถทำให้เกิดการอักเสบได้ การรับประทานอาหารรสจัด หรือคนที่เป็นกรดไหลย้อนขึ้นมาก็ส่งผลให้เกิดการระคายเคืองบริเวณลำคอ

กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอเสี่ยงโรคอะไรบ้าง

การกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอเป็นอาการที่บอกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นบริเวณลำคอ ซึ่งมักเป็นอาการที่ปรากฏร่วมกับอาการเจ็บป่วยที่ส่งผลกระทบทำให้เราระคายเคืองคอจนกลืนน้ำลายลำบาก โดยแต่ละโรคจะมีลักษณะอาการร่วมที่แตกต่างกัน การทราบถึงอาการของโรคที่มาพร้อมกับอาการเจ็บคอจะช่วยให้เราหาวิธีแก้และเข้ารับการรักษาได้อย่างเหมาะสม

  • โรคต่อมทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis) : เป็นอาการที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย โดยจะมีอาการเจ็บคอข้างซ้ายและขวาเวลากลืนน้ำลาย ปวดเมื่อยตามร่างกาย ลำคอแดงต่อมทอนซิลบวมแดงหรือมีจุดหนองสีขาวขึ้นมา กดแล้วรู้สึกเจ็บ
  • โรคไข้หวัดต่าง ๆ : หากมีอาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอพร้อมด้วยอาการของไข้อ่อน ๆ แต่ไม่มีอาการเจ็บเวลากดลงที่ต่อมทอนซิล ไม่มีจุดขาวหนองออกมา จะต้องเฝ้าระวังตามอาการของโรคอีกที เช่น ป่วยเป็นโควิด 19 อาจมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร และสูญเสียการรับรสรับกลิ่น เป็นต้น
  • โรคภูมิแพ้ : หากมีอาการหายใจติดขัดที่มาพร้อมกับอาการเจ็บคอ กลืนลำบาก แต่ไม่มีไข้ มักเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงอาการของโรคภูมิแพ้ที่เกิดจากสภาพอากาศและสารก่อภูมิแพ้ที่กระตุ้นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันจนกลายเป็นอาการป่วยเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม
  • โรคคออักเสบ : เป็นอาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอที่เกิดจากเนื้อเยื่อในลำคอเกิดอาการบวมและอักเสบ โดยมีอาการร่วมกับการเจ็บคอ คือ อาการอ่อนเพลียปวดเมื่อยตามร่างกายและมีไข้สูง

กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ ดูแลตัวเองยังไงดี

สำหรับคนที่อยากรู้ว่าช่วงที่มีอาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ ควรดูแลตัวเองยังไงดี ถึงจะหายกลับมาเป็นปกติในเร็ววัน อย่างแรกเลย คือ ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง หลีกเลี่ยงปัจจัยที่เสี่ยงที่ส่งผลให้เกิดการอักเสบของลำคอ โดยทุกคนสามารถลองปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้

  • พยายามลดการใช้เสียงที่มากจนเกินไป เช่น การตะโกน การร้องเพลงติดกันเป็นเวลานาน
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ โดยเฉพาะช่วงที่ป่วยมีอาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ เนื่องจากหากปล่อยให้ร่างกายขาดการพักผ่อน อาการเจ็บป่วยอาจทรุดลงไปอีก
  • ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอในแต่ละวัน ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดอาการระคายเคืองบริเวณลำคอ
  • หลีกเลี่ยงการเผชิญกับมลภาวะและจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม การได้รับสารเคมีและมลพิษมาก ๆ จะส่งผลเสียต่อลำคอ ทำให้เวลากลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ โดยอาจเริ่มจากการทำความสะอาดบ้านให้เรียบร้อย สวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องเผชิญกับมลภาวะ 
  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร งดเว้นจากอาหารรสจัด และอาหารที่มีไขมันปริมาณมาก โดยเฉพาะช่วงที่กำลังป่วยจนกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ หากยังฝืนกินอาหารรสจัดอาการก็จะหนักยิ่งกว่าเดิม

อาหารช่วยลดอาการเจ็บคอ มีอะไรบ้าง

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินสามารถช่วยบรรเทาเจ็บคอ และอาหารบางชนิดมีสรรพคุณที่ช่วยบรรเทาอาการอักเสบทำให้กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอน้อยลง ทางเราจึงจะมาแนะนำเมนูอาหารสำหรับคนที่เจ็บคอ กลืนลำบาก ซึ่งเป็นวิธีแก้อาการเจ็บคอที่ทุกคนสามารถลองทำด้วยตัวเองได้

  • น้ำขิงหรือชาเขียวอุ่น ๆ มีส่วนช่วยรักษาอาการติดเชื้อและบรรเทาอาการเจ็บคอ
  • ดาร์กช็อกโกแลตและโกโก้ มีสาร ฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ที่ช่วยต้านไวรัสและอาการอักเสบ
  • ซุปไก่เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโซเดียมที่ช่วยลดอาการอักเสบ รักษาอาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ
  • ไอศกรีม เป็นของหวานที่หลายคนอาจแปลกใจว่าทำไมมาอยู่ตรงนี้ แต่มีการอธิบายแล้วว่าไอศกรีมช่วยลดอาการอักเสบของต่อมทอนซิล ช่วยบรรเทาอาการปวดจากการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ

กลืนน้ำแล้วเจ็บคอแบบไหนอันตราย Freepik/timeimage
กลืนน้ำแล้วเจ็บคอแบบไหนอันตราย

กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอแบบไหนอันตราย ต้องเฝ้าระวัง

หากกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ 5-7 วันติดต่อกันไม่หาย ปล่อยทิ้งไว้อาจเป็นอันตรายได้ โดยอาการเจ็บคอที่ควรเฝ้าระวังมักจะเป็นการเจ็บคอที่มีอาการป่วยอื่น ๆ ร่วมด้วย ดังนี้

  • เจ็บคอแล้วมีไข้

สัญญาณของการเป็นไข้หวัดที่เกิดจากเชื้อไวรัส ซึ่งอาการของโรคจะมีความอันตรายมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อไวรัส เช่น การติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยอัตราการเสียชีวิตของไข้หวัดใหญ่อยู่ที่ 0.04 ต่อประชากรจำนวนหนึ่งแสนคน หากพบว่าตัวเองมีความเสี่ยงควรปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยและการรักษาทันที

  • เจ็บคอแถวลูกกระเดือกข้างเดียว

อาการเจ็บคอข้างซ้ายหรือขวาเพียงข้างเดียว หรืออาการเจ็บบริเวณลูกกระเดือก มักมีสาเหตุมาจากโรคต่อมทอนซิลอักเสบที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย โดยเริ่มจากการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอพร้อมกับการรู้สึกเจ็บเวลากดลงบนต่อมทอนซิล โดยหากปล่อยไว้อาจมีอาการแทรกซ้อน เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea : OSA) ที่เป็นอันตรายถึงชีวิต

  • เจ็บคอไอแล้วมีเลือด

หากมีอาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอพร้อมกับการไอออกมาเป็นเลือด หรือมีเลือดออกมาปริมาณมาก ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยโดยด่วน เพราะนอกจากอาการเจ็บคอแล้วอาจมีโรคอย่างอื่นแทรกซ้อน หรือความผิดปกติของร่างกายที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน

  • เจ็บคอแล้วมีผื่น

กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอแถมยังมีผื่นขึ้นเป็นอาการของคนที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ ซึ่งวิธีแก้ภูมิแพ้และอาการเจ็บคอจนกลืนน้ำลายไม่ได้ คือ การทานยาบรรเทาอาการภูมิแพ้ และออกจากบริเวณที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้

  • เจ็บคอหายใจไม่ออก

สำหรับคนที่มีอาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอพ่วงด้วยอาการหายใจไม่ออก คุณมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดลมอักเสบ (Bronchitis) หากรักษาไม่ถูกวิธีอาจเกิดการลุกลามไปยังปอด ส่งผลให้ปอดอักเสบและอาจกลายเป็นหลอดลมอักเสบเรื้อรัง รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคถุงลมโป่งพองด้วย

กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอแบบไหน ควรไปพบแพทย์

วิธีแก้เจ็บคอ กลืนน้ำลายไม่ได้ Freepik/freepik
วิธีแก้เจ็บคอ กลืนน้ำลายไม่ได้

หากมีอาการเจ็บคอมานานกว่าหลายสัปดาห์พร้อมด้วยอาการอื่น ๆ เช่น ปวดศีรษะ ปวดหู ไอและเสมหะมีเลือดปนออกมา หายใจลำบาก หรืออาการเวลากลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอคล้ายมีอะไรติดอยู่ในลำคอ แต่กินยาไปแล้วอาการไม่ดีขึ้นเลย ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยอาการอย่างละเอียด เนื่องจาก มีความเสี่ยงที่อาจจะเป็นโรคที่มีอาการแทรกซ้อนหรือเป็นอันตรายได้

กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ รู้ทันสาเหตุและรักษาอย่างถูกต้อง

อาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอสามารถบอกถึงอาการเจ็บป่วยของร่างกายที่ส่งผลกระทบต่อบริเวณลำคอ เช่น การติดเชื้อไข้หวัด การติดเชื้อแบคทีเรียจนต่อมทอนซิลอักเสบ ซึ่งมีอาการที่ค่อนข้างรุนแรง เพราะนอกจากกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอยังทำให้รู้สึกปวดหูอีกด้วย ส่วนอีกสาเหตุที่ทำให้กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอมาจากพฤติกรรมการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เสี่ยงทำให้คอเกิดการอักเสบ โดยหากพบว่าตัวเองเริ่มมีอาการเจ็บคอควรเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง ลดการใช้เสียง พักผ่อนให้เพียงพอและรับประทานอาหารที่ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ แต่ถ้ามีอาการป่วยอื่น ๆ ด้วยควรเข้าพบแพทย์เพื่อรักษาอาการป่วยทันที

Bottom-BDMS Bottom-BDMS

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ