15 สูตรน้ำจิ้มรสเด็ด ทำง่ายสบาย ๆ กินเองที่บ้านก็ได้ ทำขายก็รุ่ง

โดย PPTV Online

เผยแพร่

สูตรน้ำจิ้มยอดนิยม รวมสูตรน้ำจิ้มสุกี้ น้ำจิ้มหมูกระทะ สูตรน้ำจิ้มลูกชิ้นทำขาย ทำง่าย ส่วนผสมไม่เยอะ เพิ่มรสชาติให้มื้ออาหาร ทำติดไว้ที่บ้าน ประหยัดแถมได้เยอะ

น้ำจิ้มเปรียบได้ว่าเป็นส่วนเสริมสำคัญของอาหารที่ทำให้มีรสชาติอร่อยมากยิ่งขึ้น ชนิดที่ว่าอาหารบางอย่างหากไม่มีน้ำจิ้มก็ไร้รสชาติได้เลย วันนี้บทความของเราจึงได้รวม 15 สูตรน้ำจิ้มรสเด็ดมาให้ทุกท่านได้ลองไปทำกินกัน ทำเองประหยัดเงินแถมยังได้ปริมาณเยอะอีกด้วย จะมีน้ำจิ้มอะไรบ้างนั้น ไปดูพร้อมกันเลย

15 สูตรน้ำจิ้มรสเด็ด ที่คนกินแซ่บไม่ควรพลาด! 

ไม่ใช่ว่าน้ำจิ้มทุกชนิดจะเหมาะกับอาหารทุกอย่าง เพื่อความอร่อยแบบขั้นสุด คนไทยจึงได้มีการคิดสูตรน้ำจิ้มที่เข้ากับอาหารชนิดนั้น ๆ

คอนเทนต์แนะนำ
มัทฉะฟีเวอร์! รสชาติสัมผัสแบบไหนถูกใจชาวโซเชียลที่สุด ?
ทฤษฎี 21 วัน เปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนใหม่ให้สำเร็จใน 21 วัน!
10 Co-Working Space กรุงเทพฯ ฟรี! บรรยากาศดี เดินทางง่าย

1. น้ำจิ้มแจ่ว AJINOMOTO
1. น้ำจิ้มแจ่ว

ไม่ว่าจะเป็นน้ำจิ้มแจ่ว น้ำจิ้มข้าวมันไก่ น้ำจิ้มบ๊วย หรือแม้แต่น้ำจิ้มข้าวหมกไก่ ดังนั้นมาดูว่าสูตรน้ำจิ้มที่เราจะแนะนำนิยมกินกับอะไร และใช้วัตถุดิบอะไรบ้าง ก่อนที่จะไปซื้อวัตถุดิบมาเตรียมทำน้ำจิ้มกัน

1. น้ำจิ้มแจ่ว

น้ำจิ้มแจ่วเป็นน้ำจิ้มยอดฮิตที่หลายคนชื่นชอบ ด้วยรสชาติเผ็ดเค็มหวานกับกลิ่นหอม ๆ ของข้าวคั่ว นิยมจิ้มกินกับไส้ทอด คอหมูย่าง หรือสเต๊กหมูก็ยังได้ ถ้าใครหาสูตรน้ำจิ้มแจ่วอยู่ เตรียมส่วนผสมตามนี้ได้เลย

ส่วนผสม

  • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  • ข้าวคั่ว 1 ช้อนชา
  • พริกป่น 2 ช้อนชา
  • ต้นหอมตามชอบ
  • ผักชีตามชอบ

วิธีการทำ

  1. เตรียมมะขามเปียกด้วยการแช่ในน้ำอุ่นให้นุ่ม จากนั้นคั้นเอาแต่น้ำ
  2. ผสมน้ำมะขามเปียกกับน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาวนำไปเคี่ยวไฟกลางให้ส่วนผสมเข้ากัน
  3. ปิดไฟ ใส่พริกป่นและข้าวคั่ว รอจนน้ำจิ้มเย็นตัว
  4. โรยหน้าด้วยต้นหอมและผักชี

2. น้ำจิ้มซีฟู้ด

2. น้ำจิ้มซีฟู้ด Freepik/jcomp
2. น้ำจิ้มซีฟู้ด

บ้านไหนชอบกินอาหารทะเลคงขาดน้ำจิ้มซีฟู้ดไปไม่ได้ จุดเด่นของน้ำจิ้มซีฟู้ดคือรสชาติเผ็ดเปรี้ยว สูตรน้ำจิ้มซีฟู้ดส่วนใหญ่มักจะมีสีเขียว หรือหากใช้พริกแดงเยอะสีก็อาจออกส้มได้ หรือในบางที่ก็ปั่นผักชีให้น้ำจิ้มมีรสสัมผัสด้วย

ส่วนผสม

  • พริกขี้หนูสวน 20 เม็ด
  • พริกขี้หนูเม็ดใหญ่ 20 เม็ด
  • รากผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมไทยครึ่งถ้วย
  • น้ำมะนาวครึ่งถ้วย
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 4 ช้อนชา

วิธีการทำ

  1. ปั่นหรือตำพริกขี้หนูพอหยาบ ตามด้วยรากผักชี กระเทียม เกลือ และน้ำตาลปี๊บ
  2. เมื่อส่วนผสมเข้ากันแล้วใส่น้ำมะนาวลงไป ผสมให้เข้ากัน
  3. ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ

3. น้ำจิ้มข้าวมันไก่

3. น้ำจิ้มข้าวมันไก่ Freepik/topntp26
3. น้ำจิ้มข้าวมันไก่

ถ้ากินข้าวมันไก่ต้มจะต้องมีน้ำจิ้มสีน้ำตาลแถมมาด้วยทุกครั้ง หลายคนติดใจในรสชาติเค็มออกหวาน และยังมีกลิ่นขิงหอม ๆ อีกด้วย สูตรน้ำจิ้มก็ไม่ยาก เพียงแค่มีส่วนผสมครบก็ทำได้แล้ว

ส่วนผสม

  • เต้าเจี้ยว 12 ช้อนโต๊ะ
  • ขิงแก่ตำละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
  • ขิงแก่สับละเอียด 6 ช้อนโต๊ะ
  • พริกขี้หนูสับ 4 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 45 กรัม
  • ซีอิ๊วหวาน 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำส้มสายชู 4 ช้อนโต๊ะ

วิธีการทำ

  1. ผสมเต้าเจี้ยว ขิงแก่ พริกขี้หนูสับ น้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย และน้ำมะนาวให้เข้ากัน
  2. เมื่อส่วนผสมเข้ากันแล้ว ใส่ซีอิ๊วหวานลงไป คนให้ซีอิ๊วหวานละลายเข้ากับส่วนผสมข้อแรก

4. น้ำจิ้มหมูกระทะ

4. น้ำจิ้มหมูกระทะ YouTube/9AM Kitchen
4. น้ำจิ้มหมูกระทะ

หมูกระทะถือเป็นอาหารทุกเทศกาลของคนไทยซึ่งจะขาดน้ำจิ้มหมูกระทะไปไม่ได้ แต่สูตรน้ำจิ้มหมูกระทะก็มีหลายสูตร ถ้าไม่รู้จะเลือกสูตรไหน แนะนำให้ทำตามสูตรนี้เลย

ส่วนผสม

  • ซอสพริก ¾ ถ้วย
  • ซอสมะเขือเทศ 1 ถ้วย
  • เต้าหู้ยี้ 1 ก้อน
  • ซีอิ๊วขาว ¼ ถ้วย
  • น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผงพะโล้ ½ ช้อนชา
  • พริกไทยป่น ½ ช้อนชา
  • งาขาวคั่ว 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีการทำ

  1. บดเต้าหู้ยี้พอหยาบ
  2. ผสมเต้าหู้ยี้บด ซอสพริก ซอสมะเขือเทศ และซีอิ๊วขาว ตั้งไฟกลาง คนให้เข้ากัน
  3. พอส่วนผสมข้อ 2 เดือดแล้ว ให้ใส่น้ำมันงา ผงพะโล้ พริกไทยป่น คนจนกว่าจะเข้ากัน
  4. ปิดไฟและใส่งาขาวคั่ว เป็นอันพร้อมเสิร์ฟ

5. น้ำจิ้มถั่วตัด

5. น้ำจิ้มถั่วตัด Freepik/topntp26
5. น้ำจิ้มถั่วตัด

น้ำจิ้มถั่วตัด เป็นน้ำจิ้มที่นิยมกินกับเมี่ยงหลากหลายประเภท มีรสชาติหวาน เผ็ดเล็กน้อย ช่วยชูรสชาติของเมี่ยงได้เป็นอย่างดี หลายบ้านจึงนิยมทำกินเพราะรสชาติอร่อย ได้สารอาหารหลากหลาย

ส่วนผสม

  • ถั่วตัด 3 แผ่น
  • น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  • พริกสด 6 เม็ด
  • กระเทียม 3 กลีบ
  • รากผักชี 3 ต้น
  • มะนาว 1 ลูก
  • น้ำอุ่นครึ่งแก้ว

วิธีการทำ

  1. นำรากผักชี กระเทียม พริก และถั่วตัดไปตำให้ละเอียดเข้ากัน
  2. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล บีบน้ำมะนาว ชิมรสตามชอบ อาจเพิ่มน้ำมะนาวได้
  3. ผสมน้ำอุ่นเป็นขั้นตอนสุดท้าย คนให้เข้ากัน

6. น้ำจิ้มข้าวหมกไก่

6. น้ำจิ้มข้าวหมกไก่ sgethai.com
6. น้ำจิ้มข้าวหมกไก่

น้ำจิ้มข้าวหมกไก่เป็นน้ำจิ้มที่มีส่วนผสมหลักคือใบสะระแหน่ ทำให้มีกลิ่นหอม รสชาติเข้มข้น โดยสูตรน้ำจิ้มข้าวหมกไก่ที่เราจะมาแนะนำสามารถนำไปกินคู่กับก๋วยเตี๋ยวลุยสวนได้ด้วย

ส่วนผสม

  • ใบสะระแหน่
  • น้ำตาลทราย
  • กระเทียม 20 กลีบ
  • พริกขี้หนูหรือพริกชี้ฟ้า
  • เกลือป่น
  • ผักชีไทย

วิธีการทำ

  1. ตั้งหม้อไฟอ่อน ใส่น้ำตาลทรายและน้ำส้มสายชู เคี่ยวจนน้ำตาลละลาย พักไว้
  2. ปั่นใบสะระแหน่ กระเทียม พริก ผักชีไทยจนละเอียด
  3. ผสมส่วนผสมในข้อ 2 กับน้ำตาลและน้ำส้มสายชูเข้าด้วยกัน
  4. เติมเกลือป่น คนให้เข้ากันเป็นอันเรียบร้อย

7. น้ำจิ้มปลาหมึกย่าง

7. น้ำจิ้มปลาหมึกย่าง cookpad.com
7. น้ำจิ้มปลาหมึกย่าง

สูตรน้ำจิ้มปลาหมึกย่างที่จะแนะนำนี้เป็นน้ำจิ้มถั่วตัดน้ำตาลปี๊บ ให้รสชาติหวาน และยังมีความกรุบกรอบของถั่วตัด กินคู่กับปลาหมึกย่างหอม ๆ รับรองอร่อยไม่แพ้น้ำจิ้มซีฟู้ดแน่นอน

ส่วนผสม

  • ถั่วตัด
  • น้ำตาลปี๊บ
  • พริกขี้หนูสวน
  • รากผักชี
  • กระเทียม
  • น้ำมะนาว
  • เกลือ

วิธีการทำ

  1. โขลกรากผักชี พริกขี้หนูสวน น้ำตาลปี๊บ และกระเทียมเข้าด้วยกัน
  2. เมื่อส่วนผสมข้อ 1 โขลกพอละเอียดเข้ากันแล้ว ใส่ถั่วตัด โขลกให้หยาบ ๆ
  3. ใส่น้ำมะนาว คนให้เข้ากัน
  4. เตรียมเสิร์ฟ

8. น้ำจิ้มสุกี้

8. น้ำจิ้มสุกี้ ครัวบ้านพิม
8. น้ำจิ้มสุกี้

สุกี้เป็นอีกหนึ่งเมนูที่นิยมทำกินกันที่บ้านบ่อย ๆ น้ำจิ้มสุกี้ก็ทำง่ายไม่ยาก ส่วนผสมส่วนใหญ่ก็เป็นของที่มีติดครัว หลายคนจึงเลือกที่จะหาสูตรน้ำจิ้มสุกี้ทำไว้ติดบ้าน

ส่วนผสม

  • ซอสมะเขือเทศ 1 ทัพพี
  • ซอสพริก 1 ขวด
  • เต้าหู้ยี้ 4 ชิ้น
  • ซอสหอยนางรม 1 ทัพพี
  • ซีอิ๊วขาว 3 ทัพพี
  • น้ำมันงา 2 ทัพพี
  • น้ำกระเทียมดอง 2 ทัพพี
  • น้ำส้มสายชู 3 ทัพพี
  • น้ำตาลทราย 3 ทัพพี
  • กระเทียม 6 กลีบ
  • พริกชี้ฟ้าแดง 9 เม็ด
  • งาขาวคั่วบด 1 กำมือ
  • ผักชีไทย
  • ผักชีฝรั่ง

วิธีการทำ

  1. โขลกกระเทียมและพริกชี้ฟ้าพอแหลก ใส่เต้าหู้ยี้ลงไป ผสมให้เข้ากัน
  2. ตั้งกระทะไฟอ่อน ใส่ซอสพริก ซอสมะเขือเทศ ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว น้ำส้มสายชู น้ำตาลทรายและน้ำกระเทียมดอง คนให้เข้ากัน
  3. ใส่ส่วนผสมข้อ 1 ลงในกระทะ คนผสมจนกว่าจะเดือด
  4. เมื่อเดือดแล้วปิดไฟ ใส่งาขาวคั่วบด และน้ำมันงา คนให้เข้ากัน
  5. โรยผักชี ตักใส่ถ้วยเตรียมเสิร์ฟได้

เนื่องจากสุกี้เป็นอาหารที่ทำกินง่าย ปรุงรสอ่อน ๆ ได้ จึงอาจมีหลายบ้านที่ทำให้ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยไตรับประทาน แต่กินไปนาน ๆ ก็อาจจะเบื่อได้ บางท่านอาจขอรับประทานกับน้ำจิ้ม แต่ส่วนใหญ่คนที่ดูแลก็อาจจะกังวลเรื่องสุขภาพและโซเดียมในน้ำจิ้ม

ดังนั้น การทำน้ำจิ้มสุกี้ให้กับผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรค จากข้อมูลใน 100 อาหารโรคไตกินได้ แนะนำให้ใช้น้ำตาลหญ้าหวานแทนน้ำตาลทรายหรือน้ำตาลปี๊บ ไม่ใช้เกลือโพแทสเซียม และเลือกใช้น้ำมะนาวแท้ จะช่วยลดโซเดียมและชะลอการเสื่อมของไตได้

9. น้ำจิ้มเต้าหู้ยี้

9. น้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ Mthai
9. น้ำจิ้มเต้าหู้ยี้

สูตรน้ำจิ้มเต้าหู้ยี้แบบไม่เผ็ด เหมาะให้เด็กหรือคนที่ไม่กินเผ็ดทาน ลักษณะจะมีสีชมพูอ่อน รสชาติออกหวาน ได้กลิ่นเต้าหู้ยี้และน้ำมันงา กินกับสุกี้หรือชาบูน้ำใสได้ ส่วนผสมและวิธีทำก็ง่ายด้วย

ส่วนผสม

  • เต้าหู้ยี้
  • น้ำมันงา
  • งาขาว
  • น้ำเชื่อม
  • น้ำมะนาว

วิธีการทำ

  1. ปั่นเต้าหู้ยี้ น้ำมันงา และงาขาวเข้าด้วยกัน
  2. จากนั้นเทน้ำเชื่อมกับน้ำมะนาวผสมกับส่วนผสมข้อ 1 คนจนเข้ากันเป็นอันเรียบร้อย

10. น้ำจิ้มลูกชิ้น

10. น้ำจิ้มลูกชิ้น Freepik/jcomp
10. น้ำจิ้มลูกชิ้น

หากใครชอบกินลูกชิ้นปิ้งคงจะต้องติดใจรสชาติน้ำจิ้มลูกชิ้นเป็นแน่ เพราะมีรสชาติครบรส เข้มข้น เข้ากับลูกชิ้นปิ้งและลูกชิ้นทอด ใครที่อยากซื้อลูกชิ้นมาปิ้งกินเองที่บ้าน สามารถดูสูตรน้ำจิ้มตามนี้ได้เลย

ส่วนผสม

  • น้ำตาลทราย 60 กรัม
  • น้ำตาลปี๊บ 150 กรัม
  • มะขามเปียก 50 กรัม
  • กระเทียม 100 กรัม
  • พริกขี้หนูแดง 10 เม็ด
  • พริกชี้ฟ้าแห้ง 5 เม็ด
  • มะเขือเทศ 500 กรัม
  • รากผักชี 3 ต้น
  • ผักชี 50 กรัม
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • น้ำกระเทียมดอง 125 กรัม
  • แป้งมัน 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 300 มล.

วิธีการทำ

  1. แช่มะขามเปียกและพริกชี้ฟ้าแห้งทิ้งไว้ให้นุ่ม
  2. ละลายแป้งมันในน้ำเตรียมไว้
  3. ใส่มะขามเปียก มะเขือเทศ รากผักชี พริกชี้ฟ้าแห้ง กระเทียม พริกขี้หนูแดง และน้ำกระเทียมดองลงโถปั่น ปั่นให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน
  4. นำส่วนผสมที่ปั่นเสร็จแล้วลงหม้อ ตั้งไฟกลาง ใส่เกลือ น้ำตาลทราย น้ำเปล่า เคี่ยวเรื่อย ๆ จนน้ำจิ้มข้นขึ้น
  5. ใส่แป้งมันที่ละลายน้ำแล้ว คนไม่ให้น้ำจิ้มจับตัวเป็นก้อนจนกว่าจะเดือด
  6. ปิดไฟ พักไว้ให้เย็น
  7. โรยผักชี เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

11. น้ำจิ้มไก่

11. น้ำจิ้มไก่ Freepik/jcomp
11. น้ำจิ้มไก่

นอกจากน้ำจิ้มข้าวมันไก่แล้ว ยังมีน้ำจิ้มไก่สีส้มที่นิยมกินคู่กับไก่ทอด มีรสชาติเผ็ดออกหวานนิด ๆ ช่วยชูรสไก่ทอดให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น วิธีทำก็ไม่ยาก ใครชอบกินไก่ทอดทำน้ำจิ้มตามสูตรนี้ได้เลย

ส่วนผสม

  • แบะแซ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
  • เกลือป่น ½ ช้อนโต๊ะ
  • พริกชี้ฟ้าแดงแกะเมล็ด 3 เม็ด
  • พริกชี้ฟ้าเหลือง 4 เม็ด
  • กระเทียม 20 กรัม
  • กระเทียมดอง 2 หัว
  • น้ำเปล่า ½ ถ้วย
  • น้ำส้มสายชู ¼ ถ้วย

วิธีการทำ

  1. ปั่นพริก กระเทียม กระเทียมดองและน้ำเปล่าเข้าด้วยกันพอหยาบ
  2. ตั้งหม้อไฟกลาง ใส่ส่วนผสมข้อ 1 ตามด้วยเกลือป่น น้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย และแบะแซ
  3. เคี่ยวจนกว่าส่วนผสมทั้งหมดข้น จากนั้นปิดไฟ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

12. น้ำจิ้มเต้าหู้ทอด

12. น้ำจิ้มเต้าหู้ทอด Freepik/topntp26
12. น้ำจิ้มเต้าหู้ทอด

น้ำจิ้มเต้าหู้ทอดจะมีจุดเด่นคือความหอมจากถั่วคั่ว และรสชาติสามรสแบบเข้มข้น สามารถกินคู่กับเต้าหู้ทอดหรือของทอดอื่น ๆ ได้ ใครที่ชอบกินของทอดแต่อยากลดการกินเนื้อ จดสูตรน้ำจิ้มเต้าหู้ทอดเตรียมทำติดบ้านไว้เลย

ส่วนผสม

  • ถั่วลิสงคั่ว
  • น้ำตาลทราย 60 กรัม
  • น้ำตาลปี๊บ 60 กรัม
  • พริกแดง 1 เม็ด
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • น้ำส้มสายชู 5 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีการทำ

  1. ตั้งหม้อไฟกลาง ใส่น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ น้ำส้มสายชู เกลือ และน้ำเปล่า คนให้เข้ากันจนข้นเหนียว พักไว้ให้เย็น
  2. ตักใส่ถ้วย เติมพริกและถั่วลิสงคั่ว คนให้เข้ากันเป็นอันเสร็จเรียบร้อย

13. น้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ

13. น้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ Freepik/jcomp
13. น้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ

น้ำจิ้มหมูสะเต๊ะจะมีสีน้ำตาลข้น มีกลิ่นหอม ความกรุบกรอบจากถั่วและกะทิ รสชาติหวาน เผ็ดเล็กน้อย ถึงแม้จะดูทำยากแต่จริง ๆ ส่วนผสมไม่เยอะ และมีวิธีทำไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น

ส่วนผสม

  • ถั่วลิสงคั่วบด ½ ถ้วย
  • กะทิ 2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือสมุทร 2 ช้อนชา
  • น้ำพริกแกงเผ็ด 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีการทำ

  1. ตั้งกระทะไฟกลาง ใส่กะทิลงไป 1 ถ้วย เคี่ยวจนแตกมัน
  2. ใส่ถั่วลิสงคั่วบดและน้ำพริกแกงลงในกระทะ ผัดให้เข้ากัน จากนั้นเติมกะทิที่เหลือ คนจนกว่าจะเข้ากัน
  3. อ่อนไฟลง ใส่น้ำมะขามเปียก ตามด้วยน้ำตาลทรายและเกลือ เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมข้นและมีน้ำมันลอยด้านบน ถึงขั้นตอนนี้น้ำจิ้มหมูสะเต๊ะก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว

14. น้ำจิ้มอาจาด

14. น้ำจิ้มอาจาด Pantip.com
14. น้ำจิ้มอาจาด

อีกหนึ่งน้ำจิ้มที่ต้องมาคู่กับน้ำจิ้มถั่วหมูสะเต๊ะ คือน้ำจิ้มอาจาด เป็นน้ำจิ้มที่ไว้กินแก้เลี่ยนได้ มีรสชาติเปรี้ยวหวาน นิยมใส่แตงกวาลงไปให้น้ำจิ้มเข้าเนื้อ ทำง่าย ส่วนผสมหาได้ทั่วไป หรือทำไว้กินกับโรตีมะตะบะได้ด้วย

ส่วนผสม

  • แตงกวาหั่นสไลซ์
  • หอมแดงซอย
  • พริกชี้ฟ้าซอย
  • น้ำตาลทราย ⅓ ถ้วย
  • น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย
  • เกลือป่น ½ ช้อนชา

วิธีการทำ

  1. ตั้งหม้อไฟอ่อน ใส่น้ำส้มสายชูตามด้วยน้ำตาลทราย คนจนกว่าน้ำตาลทรายจะละลาย จากนั้นเติมเกลือลงไปเล็กน้อย พักไว้
  2. เมื่อส่วนผสมเย็นตัวแล้ว ใส่น้ำจิ้มลงถ้วย จากนั้นใส่แตงกวา พริกชี้ฟ้า และหอมซอย เป็นอันพร้อมเสิร์ฟ

15. น้ำจิ้มบ๊วย

15. น้ำจิ้มบ๊วย morningfooddelivery.com
15. น้ำจิ้มบ๊วย

น้ำจิ้มบ๊วยเป็นเครื่องจิ้มที่นิยมกินกับกุ้งชุบแป้งทอด มีรสชาติหวานหอม สูตรน้ำจิ้มบ๊วยก็ไม่ซับซ้อน เตรียมของเพียงไม่กี่อย่าง แถมวิธีทำยังง่ายด้วย

ส่วนผสม

  • น้ำเปล่า 60 กรัม
  • น้ำตาลทราย 100 กรัม
  • บ๊วยดอง 1 เม็ด

วิธีการทำ

  1. บี้บ๊วยดองกับน้ำตาลทรายให้แหลก
  2. น้ำส่วนผสมข้อ 1 ใส่หม้อ เติมน้ำเปล่า ตั้งไฟกลาง เคี่ยวจนกว่าจะเข้ากัน
  3. เมื่อน้ำจิ้มเดือดให้เบาไฟ และคอยช้อนฟองออก
  4. เมื่อช้อนฟองออกหมดแล้ว ดับไฟ พักไว้ให้เย็นและเตรียมเสิร์ฟ

สูตรน้ำจิ้มรสเด็ด เพิ่มความอร่อยให้มื้ออาหาร

เป็นยังไงบ้างกับสูตรน้ำจิ้ม 15 สูตรที่ทางเราได้รวบรวมมาแนะนำ จะเห็นได้ว่าสูตรน้ำจิ้มนั้นมีหลากหลาย ทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ส่วนผสมส่วนใหญ่ก็เป็นสิ่งที่หาได้ง่ายตามตลาดหรือมีอยู่ที่บ้านอยู่แล้ว เรียกได้ว่าใครชอบทำอาหารและขาดน้ำจิ้มไม่ได้ เซฟบทความนี้เก็บไว้ได้ใช้แน่นอน

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ