ผู้ป่วยโควิด-19 มีเสมหะเยอะ แนะ 3 วิธีแก้เบื้องต้นด้วยตนเอง
แนะ “วิธีการระบายเสมหะด้วยตนเองในผู้ป่วยโควิด-19” และข้อควรระวังที่สำคัญระหว่างการฝึก
เสมหะคือสิ่งข้นเหนียวเหมือนเมือกที่ร่างกายผลิตขึ้นมาเป็นปกติอยู่แล้ว แต่จะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเมื่อมีอาการเจ็บป่วยด้วยโรคบางอย่าง โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ
นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ผู้ป่วยโควิด 19 หลายคนมักจะมีอาการหายใจมีเสียงครืดคราด หรือรู้สึกว่ามีเสมหะในทางเดินหายใจ หรือไอแบบมีเสมหะอยู่ตลอดเวลา จนส่งผลให้การหายใจเพื่อเอาออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ
กรมวิทย์ฯ พบ BA.4/BA.5 เพิ่มขึ้น แพร่เร็วกว่าแต่ความรุนแรงยังไม่ชัด
รักษาโควิดหายแล้ว ต้องตรวจหาเชื้อซ้ำไหม ยังแพร่เชื้อได้หรือไม่?
ดังนั้นจึงจำเป็นมากที่ผู้ป่วยต้องกำจัดเสมหะเหล่านี้ออกจากทางเดินหายใจ ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้
วิธีที่ 1 การไอเพื่อระบายเสมหะ ทำในผู้ป่วยที่ไม่มีโรคประจำตัว ด้วยวิธีดังนี้
- นั่งบนเก้าอี้ โน้มตัวไปทางด้านหน้าเล็กน้อย และหายใจเข้า - ออกปกติ 3-5 ครั้ง
- หายใจเข้าลึกเต็มที่จนสุด โดยเน้นให้ชายโครงบานออก
- กลั้นหายใจไว้ 3 วินาที พร้อมกับเกร็งเนื้อหน้าท้อง
- ให้อ้าปากกดคางลง ทำปากเป็นรูปวงกลม พร้อมไอออกแรงๆ และยาวจนสุดลมหายใจออก
- พักด้วยการหายใจเข้า - ออก ปกติ 3-5 ครั้ง
วิธีที่ 2 การระบายเสมหะด้วยวิธีถอนหายใจออกแรง ทำในกรณีที่มีโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด สามารถทำได้ดังนี้
- นั่งบนเก้าอี้ โน้มตัวไปทางด้านหน้าเล็กน้อย และหายใจ เข้า - ออกปกติ 3 ครั้ง
- หายใจเข้าปกติ จากนั้นพ่นลมหายใจออกจากคอผ่านทางปากแรงๆ (อ้าปากกดคางลง ทำปากเป็นรูปวงกลม) พร้อมกับเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง จนหายใจออกสุด ทำซ้ำ 3 ครั้ง
- หายใจเข้า - ออกปกติ 3 ครั้ง จนหายเหนื่อย
- อาจทำซ้ำ 3-4 รอบ
ป่วยโควิด-19 อาการรุนแรง เสี่ยงกล่องเสียงบอบช้ำอักเสบ
ลองโควิด (Long Covid) เรื่องไม่เล็ก ส่งผลต่อสมอง กระทบต่อจิตใจ
วิธีที่ 3 การระบายเสมหะด้วยการหายใจเป็นวงจร active cycle of breathing technique (ACBT) เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาทางเดินหายใจที่ไม่สามารถออกแรงมาก จนเหนื่อยเกินไปได้ สามารถทำได้โดย
- นั่งบนเก้าอี้ในท่าที่สบายและผ่อนคลาย
- หายใจเข้า - ออกปกติ 5-10 วินาที
- หายใจเข้าให้สุด โดยเน้นให้ซี่โครงบานออกและหายใจออกสุด
- หายใจเข้าออกปกติ จากนั้นถอนหายใจออกทางปาก (อ้าปากกดคางลงทำปากเป็นรูปวงกลม) พร้อมกับเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง กระทั่งหายใจออกสุด ทำซ้ำ 3 ครั้ง และกลับมาหายใจเข้า - ออกปกติ 3 ครั้ง
- หายใจเข้า - ออก ปกติ 5 - 10 วินาที จนหายเหนื่อย เป็นต้น
ข้อควรระวังที่สำคัญระหว่างการฝึกระบายเสมหะ
หากมีอาการเหนื่อยหอบมาก หน้ามืด วิงเวียนศีรษะคล้ายจะเป็นลม หายใจสั้นหรือถี่มากๆ ควรพักด้วยการหายใจเข้าออกปกติจนกระทั่งไม่มีอาการดังกล่าวแล้วจึงเริ่มฝึกต่อ จำนวนครั้งในการฝึกต่อวันขึ้นกับปริมาณเสมหะของแต่ละบุคคลด้วย
นายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า วิธีลดการแพร่กระจายของเชื้อในระหว่างการระบายเสมหะ ท่านต้องใส่หน้ากากอนามัยให้กระชับใบหน้าทุกครั้งขณะไอหรือถอนหายใจแรงเพื่อระบายเสมหะ ระหว่างการฝึกท่านควรนั่งอยู่ห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 2 เมตร และหากไอแล้วมีเสมหะออกมาด้วยให้บ้วนเนื้อเสมหะใส่กระดาษชำระจากนั้นทิ้งใส่ถุงพลาสติกพร้อมมัดปากถุงให้เรียบร้อย
กรมควบคุมโรครายงานยอด ATK สะสมรายสัปดาห์ เฉียด 1.5 แสน
“ปลัดสธ.-อธิบดีควบคุมโรค” เข้าพบ “บิ๊กตู่” รายงานสถานการณ์โควิด แนะเร่งฉีดเข็มบูสเตอร์