“อดนอน” ทำให้น้ำตาลในเลือดสูง การเผาผลาญพัง เสี่ยงเบาหวาน
นอกจากการกินอาหารโดยไม่ใส่ใจสุขภาพทำให้คนไทยติดหวานและเสี่ยงกลุ่มโรค NCDs แล้ว การอดนอนเองก็ทำให้เสี่ยงโรครุมเร้าโดยฉพาะโรคเบาหวาน
สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย สำรวจพบคนไทยกินน้ำตาลมากถึง 25 ช้อนชาต่อวัน เกินกว่าที่องค์การอนามัย (WHO) กำหนด คือ ไม่ควรเกิน 6 ช้อนชา/วัน ซึ่งอาจมาจากรูปแบบวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้คนไทยกินอาหารและเครื่องดื่มที่หวานเกินเกณฑ์มาตรฐานมากขึ้นถึง 4 เท่า ส่งผลให้คนไทย 75% ป่วยและเสียชีวิตจากโรค NCDs หรือ Non-communicable diseases หรือโรคที่เกิดจากพฤติกรรมทำเอง อาทิ โรคอ้วนลงพุง,โรคความดันโลหิตสูง,โรคเบาหวาน,โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ,โรคถุงลมโป่งพอง,โรคมะเร็ง และมีแนวโน้มที่สูงขึ้นทุกปี
เปิดสถิติป่วยโรคเบาหวานทั่วโลกมากกว่า 500 ล้านคน คร่าชีวิต 5 วินาทีต่อราย
“ขนมปัง” ของหาง่ายกินได้ทุกวัน ไฟเบอร์สูงทางออกคนมีปัญหาเรื่องลำไส้
ซึ่งการกินหวานมากๆ และติดต่อกัน แน่นอนค่ะว่า “น้ำตาลในเลือดสูงและเกิด “ภาวะแทรกซ้อน” ต่างๆ ได้ แต่การไม่กินน้ำตาลเลยก็ไม่ใช่ทางออก เพราะร่างกายยังคง “ต้องการน้ำตาล” เพื่อใช้เป็นพลังงาน ซึ่งถ้าร่างกายขาดน้ำตาลก็จะหมดสติและอาจเสียชีวิตได้เช่นกัน และลำพังน้ำตาลเองไม่สามารถเข้าไปในเซลล์ได้ ต้องอาศัยฮอร์โมนที่สร้างจากตับอ่อน “อินซูลิน” พาเข้าไปในเซลล์
โดยหลายคนมักเข้าใจว่าเป็นเบาหวานแล้วจะต้องลดอาหารหวานลง เพื่อให้น้ำตาลในเลือดลดลง ความเข้าใจนี้ถูกเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะน้ำตาลยังมาจากอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตอื่นๆ ได้อีก เช่น แป้งและน้ำตาล ซึ่งเราสามารถควบคุมในส่วนนี้ได้ถ้าหากเรามีวินัยในการกินที่เพียงพอ
รู้หรือไม่การอดนอน ก็ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพราะการตื่นนานๆ ร่างกายจะเผาผลาญพลังงานมาก หรือเผาผลาญน้ำตาลมากนั่นเอง ทำให้ในขณะหลับตับอ่อนจึงต้องสร้างอินซูลินเพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ จนทำให้ฮอร์โมนอินซูลินไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ เมื่อตื่นนอนมาเราจะรู้สึกหิว อยากอาหารมากขึ้นนั้นคือจุดเริ่มต้นของโรคต่างๆได้
วิธีลดความหวานแบบสมดุล
- ควบคุมอาหาร
ต้องกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ พยายามลดของหวาน Junk Food อาหารแช่แข็ง ระมัดระวังปริมาณน้ำตาล หากกินมากเกินไปอาจส่งผลให้น้ำตาลในเลือดสูงได้ โดยเฉพาะคนที่เป็นเบาหวานจะต้องมีวินัยมากกว่าคนปกติทั่วไป ส่วนคาร์โบไฮเดรตที่แนะนำจะต้องมาจากข้าวจำพวกข้าวกล้อง ข้าวโอ้ต โฮลเกรน หรือโฮลวีทเพราะเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนซึ่งจะไม่ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
- เลือกทานอาหาร
ควบคุมอาหาร การเลือกกินอาหารที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือดก็ช่วยได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะสมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณที่ช่วยลดน้ำตาล เช่น
- ขิง มีคุณสมบัติกระตุ้นการทำงานของอินซูลินในร่างกาย
- อบเชย สามารถช่วยเพิ่มการหลังฮอร์โมนอินซูลินในร่างกายได้
- กระเทียม ช่วยลดไขมันในเลือด ลดความดันโลหิตและช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้
สัญญาณเตือน “โรคเบาหวาน” รู้สึกมดไต่ที่ปลายนิ้ว-แผลหายช้า
- การออกกำลังกาย
แน่นอนว่าการออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายแข็งแรง เมื่อร่างกายแข็งแรงการทำงานภายในร่างกายย่อมมีประสิทธิภาพมากขึ้น ร่างกายสามารถเผาผลาญน้ำตาลได้เป็นปกติมากขึ้น อย่างไรก็ตามควรออกกำลังกายในรูปแบบที่ไม่หนักจนเกินไปและเหมาะสมกับตัวเอง
- การนอนหลับให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอจะไปกระตุ้นให้เราอยากอาหารมากขึ้น เมื่อเรากินอาหารมากขึ้นก็เพิ่มจำนวนน้ำตาลในเลือดให้มากขึ้นตามไปด้วย อีกทั้งการนอนหลับที่เพียงพอจะทำให้ร่างกายสร้างฮอร์โมนต่างๆ ออกมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อร่างกายแข็งแรงทำงานอย่างปกติการเผาผลาญน้ำตาลในร่างกายย่อมปกติตามไปด้วย
อีกทั้งการหลีกเลี่ยงอาหารที่ใช้สารทดแทนความหวานก็เป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะร่างกายเราจะติดหวานและอย่างไรก็ต้องการความหวานอยู่ดี ดังนั้นควรเลือกทานอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น เพื่อเลี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอย่างเบาหวาน ทำให้ชีวิตคุณแข็งแรงมากขึ้นไปอีกระดับแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเปาโล
อดนอน ลดทอนร่างกายและความจำ แนะทริคดูบอลโลกได้ทุกแมตซ์ร่างไม่พัง
ผู้ป่วยเบาหวานกินอาหารอย่างไร ? โรคสงบควบคุมระดับน้ำตาลอยู่หมัด